ชมไวรัลคลิป “ปาก…ไม่ตรงกับใจ” ที่จะทำให้ความทรงจำวัยเด็กฟุ้งกระจายอีกครั้ง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

lh1

คุณๆ เคยหนีออกจากบ้านบ้างไหมครับ…ผมเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราทุกคนต่างเคยมีความคิดเล็กๆ

สำหรับตัวผม ครั้งหนึ่งตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น ผมเคยหนีออกจากบ้านแบบตกกระไดพลอยโจน คือจริงๆ ใจไม่ได้กะจะหนีแต่เผอิญไปเล่นบาสฯ บ้านเพื่อนต่อด้วยซัดเกมกันยาวๆ จนลืมเวลากลับบ้าน หันมามองนาฬิกาอีกทีก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม ฉับพลัน โทรศัพท์บ้านเพื่อนดังกริ๊งเป็นเสียงเย็นๆ ของพ่อโทรมาถามว่าผมอยู่กับเพื่อนไหม (พ่อไปหาเบอร์เพื่อนมาจากไหนเนี่ย! เฉลยตอนหลังว่าพี่ชายช่วยหาให้ 555+) ประเด็นคือพ่อผมนี่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องดุมาก การลงโทษของพ่อไม่เคยฟาดด้วยไม้เรียวอย่างใครอื่นแต่พ่อท่านล่อด้วยสายยางเส้นหนาๆ หวดเข้าที่น่องเรียวเล็ก โดนไปนี่แผลแตกยับหมอไม่รับเย็บ ต้องนอนร้องไห้ด้วยความเจ็บช้ำไปหลายวัน นาทีนั้น อารามตกใจผสมความกลับ จึงรีบส่งสัญญาณบอกเพื่อนว่า “อย่าบอกนะมึงว่ากูอยู่นี่ๆๆๆ” เพื่อนก็รับลูกทันควันบอกว่าไม่เห็นผมแล้วก็วางสายไป หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วพ่อแม่ของเพื่อนปล่อยให้ผมอยู่บ้านหลังนั้นได้ยังไง พวกท่านไม่อยู่ครับ ไปทำธุระสักอย่างต่างจังหวัดและมีผมกับเพื่อนอยู่บ้านหลังนั้นสองคน (มันถึงชวนผมมาเล่นเป็นเพื่อนไงล่ะ!)

เมื่อวัวสันหลังหวะแล้ว ผมเลยไม่กล้าติดต่อที่บ้านไปว่ามาค้างบ้านเพื่อน (ทั้งๆ ที่ถ้ายอมบอกไปแต่แรกก็คงโดนว่านิดหน่อยแล้วจบเรื่อง) เรื่องราวนานยิ่งเกินเลยทำให้ผมหลบอยู่บ้านเพื่อนและเที่ยว กิน เล่น กับมันอยู่ 3 วันเต็มๆ ย้อนนึกไปแล้วมันเป็นสามวันที่มันหฤโหดมากคือได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ เล่นเกมยันตีสาม กินพิซซ่าห้าถาดติดต่อกัน นั่งรถเมล์ไปเที่ยวแดนเนรมิต (ในความคิดตอนนั้นรู้สึกว่าการไปแดนเนรมิตนี่เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต 555+) ผมลุยทำทุกเรื่องที่ติดค้างในความคิดตอนนั้น แต่ในใจกลับไม่ปลอดโปร่งเอาซะเลย ความคิดวนเวียนว่าพ่อจะเป็นห่วงไหม กลับไปจะโดนลงโทษหรือเปล่า เลยเถิดถึงขั้นจะมีใครไปแจ้งตำรวจไหมนะ ความคิดเหล่านี้ยูเทิร์นกลับมาเล่นงานผมเป็นจังหวะๆ จนรู้สึกอยู่ไม่สุข หน่ำซ้ำ บ้านเพื่อนที่ตอนแรกสะอาดเอี่ยมอ่องก็เริ่มสกปรกเพราะไม่มีใครทำความสะอาด เกมเดิมที่เล่นก็ถลุงกันจนเบื่อเพราะลุยเล่นมันครบทุกแผ่น พิซซ่าที่กินก็กินจนเอียนแถมยังรู้สึกจะอ้วกเวลาเห็นชีสเยิ้มๆ ตรงหน้า ผมเริ่มคิดถึงบ้านใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้ากลับไปเลยลองเชิงโดยการโทรศัพท์ ภาวนาว่าขอให้พี่ชายมารับสาย (ถ้าพ่อรับล่ะ? ก็แกล้งโทรผิดแล้ววางสายไปเลยสิครับ)

ชะตาฟ้าเข้าข้าง พี่ชายมารับสายอย่างที่หวังแต่น้ำเสียงของพี่กลับดูไม่ตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงผมเท่าไหร่

ผม: ฮัลโหลนี่ไข่นะ

พี่ชาย: อืม จะกลับเมื่อไหร่?

ผม: …ทำไมไม่ตกใจเลยล่ะ

พี่ชาย: ก็เอ็งอยู่บ้านเพื่อนไม่ใช่เหรอ

ผม: รู้ได้ไง!

พี่ชาย: ป๋าเขาเอะใจว่าเอ็งต้องไปอยู่บ้านไอ้หยุยแน่ๆ เลยให้ไปดู เห็นจะๆ เลยว่าอยู่ในบ้าน

ผม:… อยากกลับบ้าน

พี่ชาย: ก็กลับดิ

ผม: … แล้วพ่อจะตีไหม

พี่ชาย: ตีดิ จะรอดเหรอเอ็ง

ผม: …

สรุปว่าวันนั้นผมก็กลับไปให้พ่อเอาสายยางหวดน่องโทษฐานโกหกและหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีความคิดจะหนีออกจากบ้านอีกเลย จนถึงวันนี้ที่ป๋าไม่อยู่แล้ว ผมก็ยังจำภาพป๋าที่เป็นคนพูดน้อยแต่หวดหนักได้ขึ้นใจ ป๋าไม่เคยบอกว่าป๋าคิดอะไรแต่สิ่งที่ป๋าทำล้วนแล้วแต่มีเหตุผลที่สมควรทุกครั้ง

เช่นเดียวกับวิดีโอคลิป “ปาก..ไม่ตรงกับใจ” คลิปนี้ ที่ค่อนข้างสะท้อนให้ผมเห็นถึงตัวเอง เห็นถึงความรัก ความหวังดีของพ่อที่มีให้ผม ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่พ่อดุด่าหรือตีผมแรงๆ ผมก็เชื่อว่าพ่อจะต้องเจ็บมากกว่าผม และวันนี้ วันที่ผมเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ไม่มีพ่ออีกแล้ว  มันยิ่งทำให้ผมเห็นถึงความรักของพ่ออย่างชัดเจน และมองเห็นว่าบ้าน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันจะแบกทั้งความทุกข์ รับทั้งความสุข และอัดแน่นไปด้วยความทรงจำที่ดีที่สุด  ขอบคุณคลิปของ Land & House คลิปนี้ที่ทำให้ผมได้นึกถึงพ่อผมอีกครั้งครับ

ปาก..ไม่ตรงกับใจ

httpv://youtu.be/3uZfZQAXG8w

เมื่อบ้านยังเป็นสถานที่ที่เราอยากกลับไปที่สุด และพ่อก็เป็นคนที่เราอยากเห็นมากที่สุดตอนนี้ ลองชมคลิป “ปาก…ไม่ตรงกับใจ” ของ Land & House TV ที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียขณะนี้ดูสิครับ คลิปความยาวเกือบ 5 นาทีนี้เผยให้เห็นความผูกพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่อาจเรียกน้ำตาจากคุณได้ไม่ยาก ดูจบแล้วมาช่วยกันแชร์ประสบการณ์ของคุณที่มีต่อ “บ้าน” และ “พ่อ” ดีกว่า เผื่อเรื่องราวไหนซึ้งกินใจอาจมีคนติดต่อขอไปทำเป็นคลิปไวรัลตัวใหม่ก็ได้นะครับ ^^

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •