Lancome สื่อสารใกล้ชิดกับลูกค้า ผ่าน Facebook

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มีลูกค้าหลักเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ส่งผลต่อธุรกิจกลุ่มนี้มากนัก แต่บรรดาเครื่องสำอางแบรนด์อย่างเช่น เครื่องสำอางลังโคม ยังต้องการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่เคยได้สัมผัสแบรนด์มาก่อน ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น โดยการใช้สื่อใหม่ๆ อย่างอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างจากลูกค้าเดิม

รุกสังคมออนไลน์

เรืองรัตน์ ว่องสุวรรณเลิศ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ลังโคม บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนี้กลุ่มลูกค้ามีการรวมกลุ่มค่อนข้างเยอะในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับความสวยความงาม เช่น เว็บบอร์ดโต๊ะเครื่องแป้ง ของเว็บไซต์พันทิพ เพื่อต้องการหาข้อมูล และสอบถามความคิดเห็นกับเพื่อนสนิทรวมถึงเพื่อนในกลุ่มสังคมเดียวกันบนอินเทอร์เน็ต ในการใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

ดังนั้น ลังโคม มองเห็นว่า Social Network เป็นสิ่งที่น่าสนใจ จึงเข้ามาทดลองตลาดออนไลน์ให้มากขึ้นในปีนี้ โดยวางแผนในการทำการตลาดออนไลน์ ในเบื้องต้นจะเน้นเรื่องของ Brand Awareness เพื่อทำให้ลูกค้าเก่าและใหม่ได้เห็นภาพลังโคมที่สื่อสารกับลูกค้าในช่องทางใหม่ๆ

ต้นปีที่ผ่านมา ลังโคมได้จัดกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Oscillation Vibrating Power Mascara มาสคราร่าแบบสั้นได้ โดยคัดเลือกบล็อกเกอร์ที่เขียนเกี่ยวกับความสวยงามที่มีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ตมาร่วมทำ Workshop เรียนแต่งหน้าแบบ Executive กับพี่เป็ด อภิชาติ และจะมีทริปต่างๆ จากลังโคมแนะนำเพิ่มเติมด้วย
ซึ่งหลังจากการเข้า Workshop บล็อกเกอร์สามารถนำมาเขียนรีวิวบนบล็อกของตัวเองได้เลยว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไรบ้าง โดยที่ลังโคมจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการเขียนใดๆ ทั้งสิ้น จากการจัดกิจกรรมครั้งนั้นถือว่าได้รับการตอบรับดีเกินเป้าที่ตั้งไว้

Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ไม่ควรมองข้าม

จากผลตอบรับในการทำการตลาดออนไลน์เครื่องสำอางลังโคมจึงเพิ่มช่องทางโดยใช้ Facebook เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้รับรู้ถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดตัวผลิตภัณฑ์เซรั่มตัวใหม่ “GENIFIQUE (เจนิฟีค ยูธ แอคติเวเตอร์)”

เรืองรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่ลังโคมเลือกที่จะใช้ Facebook สำหรับการทำการตลาดนั้น เพราะมองในแง่ของ Social Network เนื่องจากเห็นว่าเป็นสังคมของเพื่อนที่รู้จักและชอบอะไรเหมือนกัน เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง และสามารถตรวจสอบได้ เพราะว่าคนในสังคม Facebook จะคัดเลือกเพื่อนที่เชื่อถือได้เข้ามามากกว่าเว็บไซต์อื่น และกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีอายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นคนวัยทำงาน มีการศึกษาระดับหนึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของลังโคม

หลังจากเปิดตัว  เพียง 3 อาทิตย์ มีคนเข้ามาสมัครเป็น Fan Page สูงถึง 90 คน และมีการเข้ามาอย่างต่อเนื่องถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งเราได้มีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารบน Facebook ตลอดเวลา ทั้งประกาศโปรโมชั่น แคมเปญ และอัพเดทภาพกิจกรรมต่างๆ ของการเปิดตัว GENIFIQUE เนื่องจากได้มีการจัดกิจกรรมหลายอย่างในการทำ GENIFIQUE Online เพราะนอกจาก Facebook ยังมี Twitter (twitter.com/lancomethailand) และเว็บไซต์ www.lancome-th.com ด้วย ซึ่งจะมีการใส่ลิงก์ให้คลิกไปที่ข้อความประกาศใน Facebook สำหรับผู้ที่สนใจลงทะเบียนรับ Sampling เพื่อนำไปทดลองใช้

ดึงลูกเค้าเข้าเว็บไซต์ด้วย http://www.facebook.com/pages/LANCOME-Thailand/197107420061

fan_lancom1

จากการทำสื่อออนไลน์ในช่องทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นและให้มีการเชื่อมโยงกลับมาที่เว็บไซต์ลังโคม ปรากฏว่ามี Trafficเพิ่มมากขึ้นในการเข้าชมเว็บไซต์ลังโคมและลงทะเบียนเป็นสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันลังโคมมีสมาชิกที่ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ลังโคมมากถึง 30,000 คน เนื่องจากลูกค้าพบว่าสิ่งที่นำเสนอตรงกับความต้องการของเขาจริงๆ ไม่ใช่เพียงโฆษณาผลิตภัณฑ์อย่างเดียว

เชื่อมความสัมพันธ์ด้วย Brand Connection

เรืองรัตน์ กล่าวว่า ลังโคมพยายามที่จะเข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อรับฟังความต้องการและปัญหาต่างๆ ทำให้ตอนนี้เราพยายามเรียนรู้และทำความรู้จักลูกค้าให้มากที่สุด และสร้าง Brand Connection กับลูกค้าก่อน

เรืองรัตน์ กล่าวเสริมว่า สาเหตุที่ลังโคมต้องการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าก่อน เพราะมองว่าหากลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์เขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การส่งข้อความต้องง่ายต่อการเข้าใจ ด้วย ซึ่งการส่งข้อความสื่อสารบน Facebook ออกไปให้กับลูกค้า เป็นการถ่ายทอดในลักษณะข้อความที่เข้าใจง่าย ผ่อนคลาย แต่ยังคงต้องคำนึงถึงคือต้องให้สอดคล้องกับ Identity ของลังโคม นั่นคือ ความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ด้วย

รูปแบบในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของลังโคมบน Facebook นั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์ เช่น เปิดตัวเซรั่มใหม่ GENIFIQUE จุดประสงค์คือต้องการให้ลูกค้าได้ทดลองประสิทธิภาพ ดังนั้น คำพูดและลักษณะของกิจกรรมบน Facebook จะนำเสนอให้ลูกค้าได้เข้ามาทำการทดลอง และสัมผัสประสบการณ์ร่วมกันจากการจัดกิจกรรม เช่น Workshop นวดหน้า หรือการลงทะเบียนขอรับ Sampling ผ่านเว็บไซต์ลังโคม เป็นต้น

อีกหนึ่งรูปแบบ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ลังโคมกำลังจะเปิดตัวใหม่ล่าสุด Make Up for Winter ซึ่งมองว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเลือกใช้ลูกเล่นได้เต็มที่บน Facebook เช่น Quiz หรือแอพลิเคชั่น โดยนำมาเล่นกับการเลือกธีมแต่งหน้าไปงานในโอกาสต่างๆ ว่าควรแต่งหน้าแบบไหน และจะมีทิปแฝงเข้าไป เป็นต้น 

เรืองรัตน์ กล่าวเสริมว่า การนำเสนอผลิตภัณฑ์บน Facebook ขึ้นอยู่กับลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย เพราะ Facebook มีแอพลิเคชั่นให้เลือกใช้มากมาย ดังนั้น จึงต้องมาพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเลือกใช้ว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและพิเศษอย่างไร

 “การที่ลูกค้ารู้จักลังโคมผ่าน Facebook อาจเป็นการรู้จักเพียงผิวเผิน เพราะเป็นช่องทางที่ใช้อัพเดทข้อมูลและกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างครบวงจร เช่น ตั้งแต่รับรู้ว่าผลิตภัณฑ์สามารถทำงานได้ดีอย่างไร และเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไปทดลองใช้ได้ผลดี เกิดความต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทำให้รู้จักลังโคมมากขึ้น และนำทางไปสู่การเข้าร่วมกิจกรรมกับลังโคม ดังนั้น จึงมองว่า Facebook เปรียบเป็นช่องทางที่ใช้เป็นส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรมากกว่า” เรืองรัตน์ กล่าว

เรืองรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่นักการตลาดต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้สื่อเพื่อสื่อสารกับลูกค้า คือ ต้องเข้าใจลูกค้าให้มากที่สุดว่า ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ยังไง ถ้าออนไลน์เป็นสื่อหนึ่งที่เขาใช้เป็นประจำ เราควรจะเลือกสื่อออนไลน์และพิจารณาว่าจะทำอะไรกับเขาได้บ้าง เมื่อได้ตัดสินใจเลือกสื่อประเภทไหน ควรจะมองย้อนกลับไปที่ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นอย่างไร สามารถมีความสุขและตอบรับกับแบรนด์เราได้ยังไงบ้าง ยิ่งเป็นสื่อออนไลน์นักการตลาดต้องศึกษาเทรนด์ที่ลูกค้าสนใจให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ต้องเรียนรู้และรู้จักมากกว่าลูกค้า เพราะจะทำให้นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ดึงดูดใจมากขึ้น”

Source:  Ecommerce Magazine
logo_ecommerce


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •