Transformer เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่หลายคนชื่นชอบเพราะมีหุ่นยนต์เท่ๆ มาสู้กันเหมือนด้วยเทคโนโลยีหลุดโลก ขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นก็มีมังงะชื่อดังอย่าง Gundam ที่กลายเป็นตำนานของโลกหุ่นยนต์ไปแล้ว เมื่อทั้งสองชาติไม่ลดราวาศอกในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ บริษัท Suidobashi Heavy Industries จึงขอรับคำท้าจาก MegaBots ของสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ของใครเจ๋งที่สุด!
การประลองคือทั้งสองบริษัทคือการสร้างหุ่นยนต์หนักหลายตันที่มีคนขับบังคับอยู่ภายใน (การทำให้มันบังคับได้จากภายนอกขณะนี้ยังเป็นไปได้ยาก) แล้วนำมาต่อสู้กันเหมือนในหนัง โดยการประลองครั้งนี้เป็นโอกาสให้ MegaBots เผยโฉม MegaBot Mark II ซึ่งบริษัทเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์บังคับได้ที่มีฟังก์ชั่นเต็มอัตราศึกตั้งแต่บริษัทเคยมีมาต่อหน้าสาธารณะชน นอกจากมีความแข็งแกร่งมากแล้ว MegaBot Mark II มันยังมีปืนเพนต์บอลที่สามารถยิงสีไปยังรถด้วยความเร็ว 100 ไมล์ต่อชั่วโมงอีกด้วย
จดหมายท้าดวลจากฝั่งอเมริกา
httpv://youtu.be/XVJTGLL2SnI
Kogoro Kurata ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Suidobashi ตื่นเต้นกับคำท้าทายนี้มากและรับคำท้าทันที แต่ยังไม่วายแอบค่อนขอดปืนของหุ่นยนต์อเมริกัน
“ให้ตายเถอะพวก เอาจริงดิ แค่สร้างอะไรใหญ่ๆ แล้วเอามาปืนมาติดเหรอ อเมริกันสิ้นดี” Kurata กล่าวในวีดีโอ นอกจากนี้เขายังบอกว่าหุ่นยนต์อยู่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่มีการ์ตูน Gigantor ที่ออกฉายในญี่ปุ่นเมื่อปี 1964 ดังนั้น พวกเขามีความลึกซึ้งกับมันมากกว่าชาวอเมริกันแน่ๆ
จดหมายรับคำท้าจากฝั่งญี่ปุ่น
httpv://youtu.be/7u8mheM2Hrg
แต่จะว่าไปแล้วหุ่นยนต์ทั้งสองตัวนี้เป็นมวยถูกคู่เพราะ MegaBot Mark II ก็มีความสูง 15 ฟุตและขับเคลื่อนด้วยระบบรางเลื่อน 2 ข้าง ขณะที่ Suidobashi’s mech สูง 13 ฟุตขับเคลื่อนด้วยระบบสี่ล้อ แต่ที่แตกต่างคือหุ่นยนต์มะกันราคาแพงถึง 1.75 แสนดอลล่าร์ (ราว 6 ล้านบาท) หนักกว่า 6 พันกิโลกรัม ขณะที่ Suidobashi ราคาสูงกว่า 1 ล้านดอลล่าร์ (ราว 33 ล้านบาท) แต่หนักเพียง 3 พันกิโลกัรม ซึ่งทำให้หลายคนคาดว่า Suidobashi น่าจะมีความเร็วมากกว่าเพราะเทคโนโลยีของญี่ปุ่นมีความเหนือชั้นกว่ามากแม้จะมีราคาแพงกว่าอย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายญี่ปุ่นยังไม่เผยแพร่ภาพหุ่นยนต์ของฝ่ายตัวเอง
ศึกนี้มันหยดติ๋งแน่ๆ หากใครอยากติดตามดูก็ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดนะจ๊ะ เพราะตอนนี้ฝ่ายมะกันเขากำลังปรับปรุงหุ่นยนต์ให้พร้อมรบอยู่
