New York Times เปรี้ยว! ลงโฆษณากัญชาเต็มหน้า-เป็นครั้งแรกของสิ่งพิมพ์อายุ 163 ปี

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

leafly-nyt-full-page-ad

คนที่ติดตามข่าวใกล้ชิดคงทราบข่าวกันก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเปิดให้บางรัฐของสหรัฐอเมริกาสามารถค้าขายกัญชากันได้อย่างเสรีท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการขายสิ่งเสพติดชนิดนี้อาจทำให้คุณภาพชีวิตประชากรแย่งลง

ล่าสุด Leafly บริษัทเว็บไซต์และโมบายแอพฯที่ช่วยชาวสหรัฐฯหาและรีวิวกัญชาในพื้นที่ใกล้เคียงตัดสินใจซื้อโฆษณาเต็มหน้าในหนังสือพิมพ์ New York Times ฉบับวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นโฆษณาชิ้นประวัติศาสตร์เพราะเป็นการโฆษณาขายกัญชาเชิงธุรกิจบนหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 163 ปี

Scott Lowry ผู้จัดการแบรนด์ของ Privateer Holdings ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Leafly ระบุว่า การตรวจเช็คโฆษณาชิ้นนี้เป็นไปอย่างเข้มข้นหากแต่หนังสือพิมพ์ไทมส์ไม่มีจุดยืนในการแทรกแซงความคิดสร้างสรรค์ของลูกค้า

“เราคิดว่าเรากำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คิดดูสิ หากย้อนเวลาไปสัก2-3ปีที่แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หรือแม้แต่ถ้าย้อนเวลาก่อนหน้านี้หลายๆ เดือน ไทมส์ไม่น่าจะยอมให้เราลงโฆษณาแบบนี้หรอก” Lowry กล่าวโดยโฆษณาชิ้นปัจจุบันมีเนื้อหาสนันสนุนการใช้กัญชาเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม โฆษณากัญชาชิ้นนี้ก็ยังนำเสนอสินค้าในลักษณะการใช้กัญชาเชิงการแพทย์ ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานและความพึงพอใจส่วนบุคคล โดยไทมส์คิดค่าลงโฆษณาชิ้นนี้แพงเป็นพิเศษ ราคาถ้วนๆ ไม่ได้รับการเปิดเผยแต่ไทมส์น่าจะสนนราคาให้ Leafly ไม่ต่ำกว่า 1.79 แสนดอลล่าร์ (ราว 5.7 ล้านบาท) สำหรับจุดยืนของไทมส์ ก่อนหน้านี้พวกเขาลงข่าวเพื่อต่อต้านการห้ามจำหน่ายกัญชามาหลายครั้งและน่าจะมีโฆษณาลักษณะใกล้เคียงกันนี้ออกมาอีก

ด้าน Leafly มียอดผู้เยี่ยมชมกว่า 4 ล้านต่อเดือนและมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกว่า 1.6 ล้านครั้ง ถือว่าเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับอานิสงส์มหาศาลจากกฏหมายยกเลิกการห้ามจำหน่ายกัญชาในบางรัฐของสหรัฐ

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง