[Case Study] 7 แรงบันดาลใจจากแบรนด์ดัง ในการใช้ Mobile Marketing

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

ในปีที่ผ่านมา รวมถึงปีนี้ และในปีถัดไป แนวโน้มการใช้สมาร์ทโฟนจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักการตลาดต้องพัฒนากลยุทธ์ และทักษะการทำงานเพื่อให้ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mobile Marketing ที่จะมีผลอย่างมากในการทำธุรกิจ และผลิตแคมเปญ

Smart Insights จึงได้ยกตัวอย่างแบรนด์ดัง ที่ใช้ Mobile Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะสร้างแรงบันดาลใจให้นักการตลาดยุคนี้ ให้ความสำคัญ Mobile marketing มากขึ้น

1. IKEA catalogue app

2014-Ikea-Catalog-App-higlight

IKEA ได้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยการผลิตแอพพลิเคชั่น IKEA catalogue ออกมา เพื่อยกระดับการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ง่ายขึ้น โดยเปลี่ยนแคตตาล็อกเล่มใหญ่ ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโต้ได้ เพียงแค่ผู้ใช้งานสแกนภาพสินค้าจากหน้ากระดาษ คุณก็จะได้รายละเอียดต่างๆ ครบถ้วน รวมถึงยังรับชมได้ทั่วโลก นอกจานั้นจะมีข้อมูลครบเหมือน แค็ตตาล็อกฉบับเป็นเล่มแล้ว ตัวแอพฯ ยังมีลูกเล่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการชมตัวอย่าง เฟอร์นิเจอร์แบบ 3 มิติ และคลิปวีดีโอแนะนำสินค้า

สำหรับค่าเฉลี่ยการใช้แอพฯ อยู่ที่ประมาณ 8 นาที ซึ่งแตกต่างจากแอพฯ แคตตาล็อกอื่นๆ อยู่ที่ 3 นาที

IKEA ได้เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบเดิมๆ ให้กลายเป็นเรื่องสนุกสนาน และยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก เพราะมีการดาวน์โหลดแอพฯ ไปแล้วกว่า 6.2 ล้านครั้ง

2. Nissan

Screen-Shot-2015-07-07-at-13.17.10

ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nissan ก็ได้แสดงศักยภาพให้เห็นถึงคุณลักษณะเฉพาะตัวของอุปกรณ์ (หน้าจอทัชสกรีน) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ WiFi Hotspots เพื่อใช้อินเตอร์เน็ต ค้นหาเว็บไซต์ ดูวิดีโอ และรับข่าวสารได้ตลอดเพียงปลายนิ้วสัมผัส รวมถึงยังสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ ของรถได้อีกด้วย

3. Audi start-stop app

Screen-Shot-2015-07-07-at-13.17.14

ออดี้ (Audi) ค่ายรถยนต์จากประเทศเยอรมนี ได้เปิดตัวแอพพลิชั่น ที่มีชื่อว่า Audi Start-Stop ซึ่งจะช่วยให้การขับรถในเมืองง่ายขึ้น ทำหน้าที่ร่วมกับระบบการตรวจจับสัญญาณไฟจราจร ซึ่งออกแบบให้ทำงานร่วมกับรถยนต์ได้

รวมถึงยังมีระบบตรวจจับสัญญาณไฟเพื่อรับข้อมูลการเปิดปิดสัญญาณไฟในแต่ละแยกเพื่อระบุเวลาที่เหลือของไฟเขียว และคำนวณร่วมกับระยะทางว่าผู้ขับขี่จะต้องใช้ความเร็วเท่าไรจึงจะพ้นแยกได้ทันเวลา หรือเมื่อผู้ขับขี่ติดไฟแดง ก็จะแสดงในหน้าจอว่าจะต้องรอนานเท่าไร รวมทั้งตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ในรถยนต์ที่มีระบบ Start-Stop และจะติดเครื่องก่อนไฟเขียวประมาณ 5 วินาที โดยอัตโนมัติ คาดว่าระบบดังกล่าวจะช่วยลดการใช้น้ำมันถึง 900 ล้านลิตรต่อปี ในประเทศเยอรมนี และลดไอเสียได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ต่อคันเลยทีเดียว

4. Nivea Sun

maxresdefault-700

อีกหนึ่งแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ และเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริง คือแคมเปญของ นีเวีย ซัน ที่ทีมงานจะแจกสายรัดข้อมือที่มีแผ่นพลาสติกกลมๆ ติดมาด้วย เรียกว่า “protect strip” ซึ่งจริงๆ แล้วพลาสติกชิ้นนี้จะทำงานด้วยระบบ iBeacon เมื่อพ่อแม่โหลดแอพฯ แล้ว ก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้ลูกวิ่งเล่นได้ในระยะไกลเท่าไร หากเด็กๆ วิ่งออกไปไกลเกินกว่าที่กำหนด ระบบก็จะแจ้งเตือนมายังผู้ปกครอง ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกๆ ของพวกเขาจะไม่หายไปไหน หรืออยู่ไกลเกินกว่าที่สายตาจะมองเห็น

The protection ad

5. Hiscox WiFi แคมเปญ

jiwire

เมื่อมาถึงในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน แคมเปญที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้น Free WiFi โดยทาง Hiscox ได้ติดตั้ง Hotspot เพื่อให้บริการ WiFi ผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั่ว Covent Garden เมื่อผู้ใช้งานต้องการใช้ WiFi ก็ต้องเข้าสู่ระบบของ Hiscox โดยต้องเจอกับหน้าโฆษณาที่ได้รับการปรับให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยอยู่ในแถบ Covent Garden กรุงลอนดอน

ซึ่งแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีอัตราการคลิกโฆษณาสูงกว่าเดิมถึง 5 เท่า

6. Halifax ซื้อบ้านผ่านแอพฯ

Screen-Shot-2015-07-07-at-13.17.25

Halifax ช่วยให้การซื้อบ้านเป็นเรื่องง่าย ด้วยการใช้แอพฯ ค้นหาบ้านที่ต้องการ ซึ่งผู้ใช้สามารถดูรอบบริเวณบ้าน ภายในบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนสมาร์ทโฟน รวมถึงยังตรวจสอบราคาได้อีกด้วย ปัจจุบันแอพฯ The App helped Halifax มีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน

7. Bitcoin Billionaire

จากตัวอย่างที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นแบรนด์สินค้าทั้งสิ้น สำหรับกรณีนี เราขอยกตัวอย่างเกม Bitcoin Billionaire ที่มีโฆษณาอยู่ด้วย เนื่องจาก Bitcoins เป็นเกมเสมือนจริง ที่จะให้ผู้เล่นสร้างอาณาเขตของตัวเอง มันเป็นเกมที่สนุก และง่ายต่อการเสพย์ติด ยิ่งมีผู้เล่นมากเท่าไร โฆษณาที่อยู่ในเกมก็จะสร้างรายได้มากขึ้นเท่านั้น

โดยโฆษณาเหล่านี้จะปรากฏอยู่ในเกม เป็นส่วนหนึ่งของเกม ไม่ใช่แบนเนอร์ที่อยู่ด้านบน หรือด้านล่างของจอ และไม่ใช่ Pop-up ที่ทำให้ผู้เล่นรำคาญ หากผู้เล่นต้องการสร้างความได้เปรียบในเกม ก็ต้องดูโฆษณาเพื่อเป็นการตอบแทน นั่นหมายความว่า ผู้ใช้มีโอกาสจะคลิก และมีส่วมร่วมกับโฆษณานี้มากขึ้น

จากทั้งหมดที่ยกตัวอย่างไป จะเห็นได้ว่าแคมเปญเหล่านี้จะเน้นสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ใช้กับแบรนด์ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสนุกกับแอพฯ มากกว่ารำคาญโฆษณาต่างๆ จากแบรนด์ มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงเป้าหมายผ่านแอพฯ ที่มีประโยชน์ และบริการที่ได้รับ

หลายแบรนด์อาจะยังใช้ประโยชน์จากสมาร์ทโฟนไม่คุ้มค่า ทั้งหน้าจอ Touch Screen การติดตาม location tracking และกล้องที่อยู่กับตัวเครื่อง ทั้งหมดนี้แบรนด์สามารถนำไปต่อยอดแคมเปญได้หลากหลาย อย่ามองว่าการโฆษณาบนสมาร์ทโฟนจะมีแค่แบนเนอร์ หรือส่งข้อความผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ แต่คุณยังต้องคำนึงถึงการใช้ความคิดสร้างสรรรค์ คิดนอกกรอบ เพื่อแสดงศักยภาพของแบรนด์ออกมาให้ได้มากที่สุด

แหล่งที่มา


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •