3 บทเรียนจากธุรกิจที่โตจาก Startup ว่าจะครองความเป็นหนึ่งได้อย่างไร

  • 12
  •  
  •  
  •  
  •  

ยุคนี้คือยุคแห่งการ Disruption อย่างแท้จริง ถ้าธุรกิจที่มีนั้นไม่ Transformation ตัวเองหรือ Disrupt ตัวเอง ก็จะมีผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ ที่มองเห็นโอกาสนั้นแล้วมา Disrupt ธุรกิจที่มีมาในอดีตทิ้งซะ ซึ่งทำให้ในยุคนี้หลายธุรกิจพยายามหาทางออกหรือ Transformation ตัวเองให้เร็วที่สุด หรือ Disruption Business ที่เกิดมาก็พยายามที่จะครองตลาดให้ได้นานที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ใครแย่งตลาดไป ซึ่งเมื่อคุณครองตลาดจากการ Disrupt ได้แล้ว ทำยังไงถึงจะครองความเป็นหนึ่งได้ต่อไป

disruption-wheel

ความสำเร็จของธุรกิจในยุคนี้ที่แท้จริงนั้นคือการที่คุณจะครองความเป็นหนึ่งได้นานแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็น Startup เกิดใหม่หรือเป็นแบรนด์ที่มาในแต่อดีตที่ยังครองความเป็นหนึ่งมาได้ ยุคนี้ช่วงเวลาการวัดตัวจริงนั้นคือการที่คุณสามารถยังอยู่ในสมรภูมิธุรกิจนี้ได้จนไม่มีใครล้มคุณได้ หรือไม่ถูกเขี่ยออกจากตลาดไป ซึ่งมีหลาย ๆ แบรนด์ที่สามารถครองความเป็นหนึ่งในยุคนี้จากแบรนด์เกิดใหม่ได้ เช่น Uber , Google หรือ อื่น ๆ และมีบทเรียนที่ทำให้นักการตลาดหรือ Startup ที่กำลังอยากจะกลายเป็นแบรนด์ที่คนใช้ทั่วไปได้เรียนรู้ว่า ทำอย่างไรถึงจะโต จากแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จักจนสามารถครองตลาดได้นาน วันนี้เรามีบทเรียนมาให้เรียนรู้กัน

Screen Shot 2559-05-28 at 10.21.30 AM

1. ทำบริษัทหรือธุรกิจให้แกร่งในขณะที่โต : Uber เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เพราะมีการโตจาก Startup เล็ก ๆ กลายเป็น Global Brand ที่ไม่มีใครนั้นไม่รู้จัก ซึ่ง Uber นั้นเกิดเมื่อปี 2009 จนถึงปีนี้ 2016 เพียงเวลาแค่ 7 ปี Uber ก็ปรากฏตัวที่ 400 เมืองทั่วโลก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 62.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา อัตราการโตของ Uber นั้นเร็วกว่า Facebook อยู่อย่างมาก และการโตของธุรกิจ Uber นั้นเกิดจากโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า Sharing Economy ซึ่งเป็นการให้คนที่เอาของที่ไม่ได้ใช้มาปล่อยให้คนอื่นได้เช่าใช้งานต่อ โดย Startup ของเป็นตัวกลางที่เอาผู้ปล่อยเช่ากับคนขอเช่ามาเจอกัน ซึ่งในกรณี Uber คือการให้คนที่มีรถยนต์สามารถมาขับรับส่งผู้โดยสารที่ไม่อยากไปกับข่นส่งสาธารณะหรือ Taxi แล้วแข่งขันกันด้วยราคากับคุณภาพที่ดีกว่า

httpv://www.youtube.com/watch?v=G8VjcZeuvmo

ด้วยกระแสบอกปากต่อปาก และพลังของ Viral Promotion ทำให้ Uber นั้นโตอย่างรวดเร็ว ความท้าทายของ Uber ในช่วงที่โตอย่างรวดเร็วนี้คือคือการทำให้ธุรกิจตัวเองสามารถดำเนินงานได้ทันความเร็วที่โตขึ้น ซึ่งคือการหาพนักงานที่ให้ทันต่อความต้องการที่โตขึ้นและการขยายออฟฟิสเพื่อรองรับการโตนี้ ซึ่งจะสามารถทำให้ธุรกิจนั้นไม่ล้มก่อนที่จะโตต่อไปได้เพราะว่าขาดทรัพยากรคนทำงานที่ไม่เพียงพอต่อการโตนั้น และในขณะที่โตนี้ ธุรกิจก็ยังต้องมั่นใจว่ายังสามารถให้บริการที่ดีกับผู้ใช้บริการหรือผู้มาร่วมบริการนี้ได้ด้วย

Screen Shot 2559-05-29 at 11.10.05 AM

2. คงแกนหลักธุรกิจในขณะที่แบรนด์ให้เติบโต : แบรนด์ที่เพิ่งเกิดนั้นต้องมีการที่หาจุดที่ทำธุรกิจได้ดีและเหมาะสมในขณะที่โตอย่างระมัดระวัง การทำให้ธุรกิจมีความพอดีกับการขยายตลาดไปในกลุ่มที่ผู้บริโภคนั้นใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงแกนหลักในการทำธุรกิจของตัวเองที่เริ่มต้นมาก อย่างเช่นแบรนด์เบียร์ขื่อดังอย่าง BrewDog ที่เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้ก่อตั้งนั้นอยากทำ Craft Beer และให้คนนั้นได้สัมผัส Craft beer ที่ดีกว่าเบียร์ทั่วไปตามตลาด ซึ่งมีวิธีการโตของเบียร์นี้ที่แตกต่างจากการทำตลาดอื่นของเบียร์ทั่วไป โดยให้คนนั้นมาร่วมลงทุนในบริษัทแลกกับหุ้นที่จะได้ไปหรือแลกกับการเข้าถึงเบียร์ใหม่ ๆ ที่จะทำตลาดออกมา และใช้คนกลุ่มนี้ในการเติบโตตลาดต่อไป เมื่อตลาดของตัวเองนั้นโตขนาดที่มีร้านสาขาตัวเองที่ให้บริการ Craft beer กว่า 40 ประเทศทั่วโลก และขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทาง Brewdog เองก็ต้องคงแกนหลักในการทำธุรกิจนั้นไว้

httpv://www.youtube.com/watch?v=FFMOVOSvHq4

แกนหลักของ Brewdog นั้นคือ Craft beer และการให้คนนั้นสามารถทำ DIY Beer ได้ โดยเป็นการแจกสูตรเบียร์ที่สามารถให้คนไปทำเองได้ ผ่านโลกออนไลน์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ Brewdog แตกต่างจากบริษัทเบียร์อื่น วิธีคิดของ Brewdog คือ การคิดแบบ Punk ซึ่งมีความกบฏและล้มล้างกระแสที่เคยเป็นมาในอดีต ทาง Brewdog เองนั้นไม่ได้แค่สนใจใน Craftbeer แต่มองไปถึงว่าจะทำสงครามจนล้มล้างบริษัทเบียร์ใหญ่ ๆ ในโลกได้อย่างไร

Screen Shot 2559-05-29 at 11.06.50 AM

3. เข้าเสี่ยงเสมอ : ทางผู้บริหาร Google EMEA ได้ออกมาให้ความเห็นว่าแบรนด์ที่อยากครองตลาดนั้นไม่มีวันพัก หรือไม่ยอมหยุดนิ่งแม้ว่าจะกลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดแล้วหรือกลายเป็นที่หนึ่งในตลาด เพราะไม่อย่างนั้นธุรกิจนั้นอาจจะถูก Disrupt ได้เสมอ ไม่ว่าจะเล็ก ใหญ่หรือเป็น Startup มาก็ตาม กุญแจความลับในเรื่องที่จะอยู่รอดและครองความเป็นหนึ่งได้นั้นคือการมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและพนักงานที่ดี Mission ของ Google นั้นการจัดระเบียบข้อมูลของโลก ให้เข้าถึงได้และทุกคนใช้งานได้ ซึ่งก็ยังเป็นเป้าหมายของ Google ในทุกวันนี้ที่คนใน Google ต้องมุ่งความสนใจและมองหานวัตกรรมที่จะทำให้ Mission นี้เป็นจริง

Screen Shot 2559-05-29 at 11.12.05 AM

การเข้าเสี่ยงนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ครองความเป็นหนึ่งได้ ทาง Google EMEA นั้นบอกว่าทุกครั้ง ๆ ที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมายย่อย ๆ เป้าหมายหนึ่งทาง Google จะทำคำถามสำคัญ ๆ ในสิ่งที่ตัวเองทำและเดิมพันในเทคโนโลยีที่จะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอนาคต และไม่ใช่ทุกเดิมพันจะสำเร็จอย่างเช่น Google Glass ที่ Larry Page เดิมพันเข้าไปดูแลเอง ก็ยังล้มลงได้ แต่ Google ก็ยอมเสี่ยงที่จะทำ เพราะการเสี่ยงถ้าสำเร็จก็เติบโตเลย อย่างเช่นการเข้าซื้อ Youtube มาก็เป็นการเสี่ยงทางธุรกิจอย่างหนึ่ง ในทุกวันนี้ Google ก็ยังเสี่ยงที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นมากมาย

httpv://www.youtube.com/watch?v=4EvNxWhskf8

จากบทเรียนทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การทำให้แบรนด์นั้นโตและครองความเป็นหนึ่งของแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมมีเรื่องที่ต้องทำเพื่อให้รักษาสิ่งที่เป็นมาในอดีต รวมทั้งการที่ต้องเสี่ยงเพื่อให้โตขึ้นในอนาคตอีกด้วย บทเรียนทั้ง 3 นี้น่าจะช่วยธุรกิจเกิดใหม่และธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้เรียนรู้กัน

Copyright © MarketingOops.com


  • 12
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ