3 วิธีสร้างแอพฯ ให้โดดเด่น

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

20150310141152-cia-sought-hack-apple-iphones-nearly-decade

ปัจจุบันมีแอพฯ ถือกำเนิดขึ้นกว่า 1.5 ล้านแอพฯ ทั่วโลก แต่อันที่จริงแล้วมีเพียงแอพฯ อันดับที่ 1-25 เท่านั้นที่จะมีคนรู้จักและใช้เยอะจริงๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ความฝันสูงสุดของนักพัฒนาคือการติดชาร์จ 1%   ของ App Store

แม้ดูเหมือนว่าการดันแอพฯ ให้กลายเป็น 1 ใน 25 อันดับนั้นต้องใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อทำให้เกิดการไวรัลแต่มันก็อาจไม่ได้ผลกับทุกๆ แอพฯ หรอกนะ การจัดอันดับทั้งบน App Store และ Google Play ที่สำคัญคือมันนับเอายอดดาวน์โหลดเป็นหลักในการจัดอันดับทางที่ดีที่สุดในการขึ้นอันดับคือการโฟกัสที่ตลาดระดับภูมิภาคหรือประเทศที่คุณน่าจะมีศักยภาพพอ อย่างเช่น หากคุณอยากเป็น 1 ใน 25 ของญี่ปุ่น คุณต้องการยอดดาวน์โหลดเพียง 40%   เมื่อเทียบกับยอดดาวน์โหลดที่จำเป็นต้องใช้ในการขึ้นอันดับในสหรัฐฯ

ปัญหาใหญ่ตามมาคือคุณเองก็ไม่รู้ว่าควรจะโฟกัสที่ตลาดไหนดีซึ่งเราเสนอว่าปัจจัยที่ควรพิจารณาคือความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและความคิด ยิ่งต่างมากโอกาสที่คุณจะดังก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น เราจึงขอเสนอหลักการ 3 ข้อให้คุณพิจารณาเพื่อดันให้แอพฯ กลายเป็นดาวค้างฟ้า

1. ส่งไกลไปทั่วโลก

ในโลกโลกาภิวัฒน์ แอพฯ ที่ดังในประเทศหนึ่งก็จะดังข้ามประเทศไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม คุณควรเลือกประเทศที่มีศักยภาพและมีวัฒนธรรมรวมถึงภาษาไม่แตกต่างจากคุณมากนัก เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น คุณยังต้องพยายามโฟกัสกลุ่มเป้าหมายของคุณในประเทศนั้นๆ ให้เฉพาะ อย่าใช้วิธีหว่านโฆษณาออกไปแล้วหวังว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเดินมาเจอโฆษณานั้นพอดี

การสร้างแอพฯ เวอร์ชั่นใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างเช่น การ localize แอพฯ ให้เข้ากับท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น หรือทำให้แอพฯ เหมาะกับองค์กรทางธุรกิจยิ่งขึ้น

2.แอพฯ เป็นกระบุง

เพิ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาแต่มันก็เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ปัจจุบันนักพัฒนาสามารถขายแอพฯ เป็น bundle (มัดรวมหลายๆ แอพฯ) ได้สูงสุดไม่เกิน 10 แอพฯ ใน App Store ประโยชน์ของมันคือ app bundle จะช่วยให้ผลการค้นหาเจอคุณได้ง่ายขึ้นเพราะมีหลายๆ แอพฯ อยู่ในที่เดียว แต่ปัญหาคือต่อให้พวกเขาโหลดแอพฯ อื่นๆ ไปใช้ ผู้ใช้อาจใช้แอพฯ เพียงแค่ 1 ใน 10 ของทั้งหมดเท่านั้น ไม่มีอะไรมาการันตีว่าพวกเขาไม่ได้ซื้อเพราะชอบของถูกของฟรีหรอกนะ

3.เก็บรักษา

แล้วการเก็บรักษาผู้ใช้ไว้ล่ะ? มันยากยิ่งกว่าการกระตุ้นให้พวกโหลดคอนเทนต์ซะอีก Flurry บริษัทวิเคราะห์สถิติด้านโมบายระบุว่าแอพฯ จะยังถูกใช้เพียง 5% หลังจากผู้ใช้โหลดไปแล้ว 1 ปี อันที่จริงแล้ว แอพฯ ส่วนใหญ่ถูกลบทิ้งไปหลังจากใช้งานได้แค่ครั้งเดียว นั้นไม่น่าแปลกใจเพราะผู้ใช้ทั่วไปเฉลี่ยใช้แอพฯ เพียง 10-20 แอพฯ เท่านั้น

การสร้างโปรดักซ์ที่ดีคือการโฟกัสที่กลุ่มประชากรเฉพาะจากนั้นจึงพยายามเข้าใจพวกเขาให้ดีที่สุด การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสร้างแอพฯ ได้เฉพาะกลุ่มและกลายเป็นขวัญใจของกลุ่มนั้นโดยไม่ต้องสนใจกลุ่มอื่น

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง