4 สิ่งที่มาร์เกตเตอร์ควรปรับเปลี่ยนก่อนการมาถึงของอัพเดทอีกระลอกของ Facebook

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

facebook-for-business-redesign

เร็วๆ นี้ Facebook เพิ่งประกาศเตรียมอัพเดท Timeline และระบบอื่นๆ ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถคลิก tools ที่ตัวเองมองหาได้ง่ายขึ้น (แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Facebook เปลี่ยนเพราะรู้สึกว่าระบบ Timeline เก่ามันใช้ยากเกินไป)

การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่สำคัญคือดีไซน์ single-column News Feed ใหม่ที่ช่วยให้สเตตัสอัพเดททั้งหมดปรากฏขึ้นในหนึ่งแถว และในส่วนของ ‘About’ ทางคอลัมน์ซ้ายมือถูกปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น อนุญาตให้เปลี่ยน admin roles ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ ‘pages to Watch’ ที่ช่วยให้แอดมินสามารถสร้างรายชื่อเพจที่มีลักษณะใกล้เคียงกับตัวเองและเปรียบเทียบผลการดำเนินงานได้

ทั้งนี้เพจดีไซน์ใหม่จะถูกอัพเดทในอีกสองสามอาทิตย์ข้างหน้า สำหรับในตอนนี้มีสองสามเรื่องที่แบรนด์และ E-commerce ควรทำ

1. อัพเดทข้อมูล ‘About’

ขณะนี้ Facebook กำลังพยายามเน้นความสำคัญของ ‘About’ มากขึ้น คุณต้องมั่นใจว่าข้อมูลเหล่านั้นอัพเดทอยู่เสมอเพราะข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปแสดงทางแถบซ้ายมือ ส่วนประเภทของข้อมูลที่ถูกนำไปแสดงขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจของคุณ ซึ่งตามการรายงาของ Facebook ระบุว่า ร้านค้าแบบมีหน้าร้านจะโชว์แผนที่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ ยอด ‘likes’ และยอดคนเยี่ยมชม ขณะที่สำหรับแบรนด์จะโชว์ แอพพลิเคชั่น รูปภาพ วีดีโอ รีวิว โพสต์บนเพจ และจำนวน ‘likes’ สำหรับ ร้านค้าออนไลน์เท่านั้นจะแสดงยอด ‘likes’ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ แอพพลิเคชั่น รูปภาพ วีดีโอ และโพสต์บนเพจ
ดังนั้น อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดและอธิบายธุรกิจของคุณอย่างละเอียด พร้อมใส่ลิงค์เผื่อผู้ใช้อยากจะคลิกเพื่อเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมบนเพจหลักของคุณ

2. ตัดสินใจว่าเพจคู่แข่งไหนที่คุณอยากชม

ฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook ที่น่าจะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นคือการจับเพจที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเพจของคุณมากเปรียบเทียบให้เห็น โดยข้อมูลที่จะถูกเปิดเผยคือ ‘Total Page likes’ ‘New Page likes’ ‘Posts this Week’ และ Engagement this week
แม้จะมีการเปิดให้ ‘ส่อง’ เพจกันอย่างอิสระระดับหนึ่ง แต่คุณควรเลือกคู่แข่งทางตรง (direct competitor) ของคุณเพื่อการศึกษาไว้ก่อน เนื่องจากเมื่อเพจเหล่านั้นมียอด likes พุ่งกระฉูด คุณจะสามารถจับความผิดปกติได้และรีบหาสาเหตุเพื่อนำมาปรับปรุงเพจของคุณได้ทันท่วงที

3. ชื่อและโลโก้สำหรับ custom apps

เมื่อ custom apps ถูกย้ายไปอยู่ทางด้านซ้ายของ Timeline ซึ่งอยู่ตำแหน่งใต้ ‘About’ เพียงเล็กน้อย ไอคอนของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีขนาด 111×74 pixels และชื่อของแอพฯ จะปรากฏอยู่ถัดจากไอคอน สิ่งที่คุณต้องทำคือการอัพเดทรูปภาพของแอพฯ แต่ละอันอย่างละเอียดพร้อมคำบรรยาย
ทริคในการออกแบบรูปภาพบนแอพฯ
3.1. เรียบง่ายที่สุด – เนื่องจากไอคอนนี้มีพื้นที่เล็กมาก ดังนั้นคุณจึงควรเลือกรูปภาพสักอันที่สะอาด ไม่มีรายละเอียดเยอะพร้อม background ที่เรียบง่ายกับ text เล็กน้อย
3.2. ใส่ calls to action ที่ชัดเจน – บอกแฟนๆ ของคุณอย่างตรงไปตรงมาว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร เข้าตอนนี้ คลิกเลย คอมเมนต์หน่อย การบอกตรงๆ จะช่วยให้แฟนๆ ไม่หลงทางว่าพวกเขาควรจะทำอะไร
3.3. ดีไซน์ล้อกับเพจ – หากคุณเป็นเพจไฮเทค ควรมีแอพฯหลากหลายและดีไซน์ที่ดูโปรฯมากเพื่อแสดงจุดยืนความเป็นผู้นำเทคโนโลยีของคุณ พยายามสร้างจุดร่วมระหว่างไอคอนเพื่อจะได้รู้ว่าแอพฯ เหล่านี้มีบริษัทของคุณเป็นผู้ผลิตร่วมกัน

4. อย่ากังวลกับ daily reach มากนัก

มาร์เกตเตอร์ส่วนใหญ่มักจะกังวลกับ ‘People talking about this’ มาก ซึ่ง Jon Loomer ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของ Facebook ระบุว่าเป็นความผิดพลาดของ Facebook ที่นำเสนอฟีเจอร์นี้ให้เราเห็นทุกวัน เนื่องจากสูตรการคำนวณยังคลุมเครือและยังไม่ทำให้มาร์เกตเตอร์เห็นเทรนด์ในการใช้เพจของตัวเองอีกด้วย
ในอนาคตจะมี layout หัวข้อ ‘This Week’ ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาของคุณที่กำลังแสดงอยู่ ‘page likes’ ‘Post Reach’ unread notifications และข้อความ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ธุรกิจเลิกกังวลเกี่ยวกับ daily reach และหันไปให้ความสำคัญกับเทรนด์ภาพใหญ่มากกว่า

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง