4 วิธีในการสร้างตัวเองให้กลายเป็น Influencer บนโลกออนไลน์

  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  

bloger1

กับการเป็น Influencer บนโลกออนไลน์เดี๋ยวนี้มีมากมาย แต่ถ้าจะให้พูดโฟกัสเฉพาะในส่วนของภาคธุรกิจที่ไม่ใช่บันเทิง และเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ โดยเฉพาะ เมืองไทยอาจจะมีจำนวนไม่มากนัก

แต่ถ้าคุณเห็นว่าตัวคุณมีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่คุณทำ และคุณอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมนั้นๆ มาหลายปี และสามารถจัดการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลายให้ผ่านพ้นมาได้มากมาย จนกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญ และสุดท้ายคุณตระหนักว่าอยากที่จะแบ่งปันความรู้ต่างๆ ที่คุณสั่งสมมาให้คนอื่นๆ ได้รับรู้หรือนำไปใช้บ้าง นั่นคือคุณมีความคิดที่จะเป็น Influencer แล้วล่ะ

ทั้งนี้ ในการเป็น Influencer มีข้อได้เปรียบมากมาย ในทางหนึ่งคุณสามารถโฆษณาธุรกิจของคุณบนบล็อกได้ โดยผู้บริโภคจะให้ความสนใจและเชื่อถือในความเชี่ยวชาญของคุณ เมื่อผู้บริโภคหรือเจ้าของธุรกิจต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรมของคุณ พวกเขาก็จะมองมาที่คุณเพื่อมองหาคำแนะนำหรือชี้แนะแนวทาง และถ้าเขาต้องการซื้อสินค้า พวกเขาก็จะเชื่อถือข้อมูลจากคุณ และอาจจะกลายเป็นส่วนเสริมธุรกิจของคุณได้เช่นกัน

ดังนั้น เพื่อการสร้างตัวตนให้กลายเป็น Influencer บทความนี้มีข้อแนะนำดีๆ 4 ข้อมาฝากกัน

1.สร้างวิดีโอ  

วิดีโอเป็นวิธีที่ดีที่คุณจะแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นใคร และเพิ่มการเข้าถึงให้คุณได้ ไม่เช่นนั้นคุณก็จะไร้ตัวตนไปเลย ในวิดีโอคุณสามารถทำผ่านกล้องโดยการคุยกับผู้ฟังในหัวข้อต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นทันตแพทย์คุณอาจจะอัพวิดีโอทุกๆ สัปดาห์เพื่ออภิปรายถึงการดูแลฟันหรือยกเคสฟันต่างๆ ที่น่าสนใจขึ้นมาพูดให้ฟังก็ได้

ในการทำวิดีโอไม่จำเป็นต้องมีทีมงานใหญ่โตอะไร อย่างง่ายๆ ก็แค่บันทึกมันผ่านโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนของคุณเองยังได้เลย แล้วก็โพสต์มันลงบน Youtube เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับคอนเท้นต์มากกว่าคุณภาพของวิดีโอ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องของความยาววิดีโอด้วย ไม่ควรที่จะยาวกินไป เพราะ users ส่วนใหญ่ไม่ชอบดูวิดีโอที่ยาวนานเกิน 3 นาที

ตัวอย่างของคนที่จัดทำวิดีโอได้น่าสนใจ และสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้ด้วย ได้แก่ Tom Dickinson” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Blendtec ซึ่งวิดีโอของเขาสนุกและน่าสนใจมากทีเดียว

2.สร้างบล็อกของบริษัท

บล็อกบริษัทที่ดีจะต้องขับเคลื่อนทราฟฟิคบนเว็บไซต์ได้ด้วย โดยจะต้องทำให้ผู้บริโภคเข้ามายังบล็อกของคุณและทำให้พวกเขาค้นพบโปรดักส์ต่างๆ ได้ หรือบางทีก็อาจจะทำการแชร์โปรดักส์ที่น่าสนใจต่างๆ ของบริษัทคุณด้วย

ทั้งนี้ คุณอาจจะอัพเดทบล็อกบริษัทของคุณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่อย่าเน้นการโปรโมทสินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณบ่อยมากเกินไป (ใช้วิธีผสมผสานกันไปกับคอนเท้นต์ต่างๆ แต่จะต้องแน่ใจว่าเราไม่ได้โฟกัสที่จะขายของเพียงอย่างเดียว) เช่นเดียวกับการจัดทำวิดีโอ คือให้เน้นที่คุณภาพคอนเท้นต์เป็นสำคัญ

เพื่อที่จะทราบได้ว่าบล็อกโพสต์ของคุณได้รับความนิยมหรือไม่ อาจจะอินสตอลปุ่มโซเชียล มีเดียลงไปด้วย เพื่อให้เห็นว่ามีการแชร์เท่าไหร่หรือคนอ่านมีการแสดงความคิดเห็นอะไรบ้าง

ตัวอย่างที่ดี ได้แก่ Gary Vaynerchuk ซึ่งรันบล็อกได้อย่างน่าสนใจ และเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิผลสำคัญในวงการอุตสาหกรรม โดยมีคนฟอลโลว์ทวิตเตอร์ของเขามากกว่า 1 ล้านคน

3.โพสต์บน LinkedIn

LinkedIn คือที่ๆ คุณมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในธุรกิจเดียวกันหรือใกล้เคียงกับคุณได้ และเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการที่จะช่วยเพิ่ม B2B ได้อีก ซึ่งคุณสามารถโพสต์คอนเท้นต์ที่มีเนื้อหาพิเศษไปยัง LinkedIn หรือรีเพอโพสไปยังบล็อกบนเว็บของคุณก็ได้เช่นกัน หรืออาจจะแชร์ลงบนกรุ๊ปต่างๆ ตามโซเชียล มีเดียก็ได้ แต่จำไว้ว่าถ้าโพสต์ลงในกรุ๊ปอย่าให้ถี่มากนัก

ทั้งนี้ เนื้อหาคอนเท้นต์ควรที่จะมีคุณค่าพอในแวดวงธุรกิจของคุณหรือเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจตรงกับความต้องการ เช่น คุณอาจจะต้องการโพสต์เกี่ยวกับทิปส์ในการเป็นมืออาชีพธุรกิจขนาดเล็ก หรือคุยเกี่ยวกับหัวข้อยากๆ ซึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมของคุณต้องการรู้ แต่ผู้บริโภคอาจจะไม่เข้าใจก็ได้

4.เป็น Guest post บนบล็อกคนอื่น

เพื่อที่จะทำให้ข้อความของคุณถูกกระจายออกไป คุณจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายให้เป็นบล็อกระดับท็อปของวงการ และอาจจะเป็น guest post ในบล็อกอื่นๆ บ้าง อย่างไรก็ตาม จะต้องศึกษาให้ดีว่าบล็อกที่คุณลงไปนั้นใช่แนวทางของคุณหรือไม่ ทั้งนี้ guest posts จะนำมาซึ่งโอกาสทั้ง B2B หรือ B2C ด้วย

สำหรับคำแนะนำทั้ง 4 นี้ คุณสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวคุณเองและธุรกิจของคุณได้ เพื่อพัฒนาทั้งธุรกิจของคุณเองและคนอื่นๆ ค่ะ

แหล่งที่มา


  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!