Video Content เป็น Content ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ และผู้บริโภคมีอัตราการเสพและผลิต Content จำนวนนี้เยอะมากผ่านโลกออนไลน์ และ บริการ social network ต่าง ๆ ด้วยการที่ผู้บริโภคมีการชอบดูและส่งต่อวิดีโอเช่นนี้ ทำให้นักการตลาดในแบรนด์และเอเจนซี่ต่าง ๆ นิยมที่จะผลิตเนื้อที่เป็นรูปแบบวิดีโอออกมา แล้วทำการฝากโพสไปตามเว็บต่าง ๆ หรือเพจต่าง ๆ รวมทั้งการใช้สื่อโฆษณาโปรโมท แต่จากเทรนด์ล่าสุดนี้จะทำให้การผลิตวิดีโอในรูปแบบเดิมนั้นหมดไป
ก่อนอื่นนั้นต้องเข้าใจรูปแบบการชมสื่อเคลื่อนไหวเช่น TV หรือวิดีโอในรูปแบบเดิมนั้น จะเป็นรูปแบบจอแนวนอนหรือสัดส่วนที่เรียกว่า 4:3 ด้วยรูปแบบขนาดจอ 4:3 นี้อยู่ใน Consumer Journey ของผู้บริโภคมากว่า 40 ปี เมื่อระบบดิจิทัลเข้ามาทำให้การรับชมจอแบบ 4:3 นั้นค่อย ๆ ลดลง และจอที่มีสัดส่วนแบบจอกว้างหรือ Wide screen ในขนาด 16:9 เริ่มเพิ่มสูงขึ้นแทนแต่การดูวิดีโอเหล่านี้นั้นก็ยังมีรูปแบบในแนวนอน จนเมื่อมีการเข้ามาของมือถือที่กล้องที่ถ่ายวิดีโอได้ อัตราการทำเนื้อหาวิดีโอนั้นยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และเริ่มปรากฏวิดีโอที่ถ่ายโดยวิธีการถ่ายแนวตั้ง ซึ่งเป็นการถ่ายในแนวที่คนถ่ายนั้นมีความถนัดการสร้างวิดีโอ Content แบบนี้ แต่การรับชมนั้นยังเป็นแนว 4:3 หรือ 16:9 เช่นเดิม ทำให้อรรถรสการรับชมนั้นไม่เต็มอิ่ม และหลาย ๆ คนรู้สึกว่าวิดีโอแบบนี้ไม่น่าดู ซึ่งทำให้คนดูวิดีโอแนวนอนต่อไปและการทำโฆษณาแบบวิดีโอแนวนอนนั้นมีมาถึงจนในปี 2013-2014 นี้
แต่การทำวิดีโอแนวนอนนี้จะกลายเป็นสิ่งล้าหลัง และการทำวิดีโอและชมวิดีโอรูปแบบแนวตั้งนั้นจะเข้ามามีความสำคัญแทน เมื่อ Application อย่าง Snapchat นั้นเกิดขึ้นมา ทำให้การทำ Video Content ที่ส่งถึงกันและแชร์กันนั้นกลายเป็นเรื่องที่ทำง่ายขึ้นนอกจากการทำ Video Chat และด้วยพฤติกรรมที่ถ่ายวิดีโอแนวตั้งนี้เอง ทำให้การสื่อสารผ่าน Snapchat นั้นกลายเป็นแนวตั้งทั้งหมด จากการศึกษาและค้นคว้าใน Snapchat พบว่า User ของตัวเองนั้นมีการใช้วิดีโอแนวตั้งและมีอัตราการใช้งานเช่นนี้เพิ่มขึ้นและมีอัตราการดูวิดีโอโฆษณาแบบแนวตั้งนี่มีอัตราชมจนจบมากกว่าแบบแนวนอนถึง 9 เท่า เพราะสามารถรับชมได้เลยไม่ต้องเปลืองแรงในการพลิกจอ
ด้วยการที่เข้าใจผู้บริโภคที่มีกว่า 100 ล้านคนและมีการชมวิดีโอแนวตั้งมากกว่า 2 พันล้านคนต่อวันของ Snapchat เริ่มผลักดันในผู้ผลิต Content, Brand ต่าง ๆ และ Advertising Agency ต่าง ๆ ให้ทำ Video แนวตั้ง Social network ที่เป็นแนววิดีโอที่ออกตามหลัง Snapchat เช่น Meerkat และ Periscope นั้นก็ทำตามสิ่งที่ Snaochat ทำนั้นคือการให้คนผลิตและรับชม Content video ในรูปแบบแนวตั้งแทน แต่หลาย ๆ แบรนด์และเอเจนซี่นั้นยังไม่รู้สึกไม่พร้อมและไม่กล้าที่จะเสี่ยง จนกระทั่งที่งาน Cannes Lions International Festival of Creativity ทาง Evan Spiegel CEO ของ Snapchat ก็ได้ขึ้นเวทีและได้พูดเรื่อง Vertical video หรือวิดีโอแนวตั้งนั้นสำคัญอย่างไร และทำให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Millennials นั้นได้เพราะคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ไลฟสไตล์และการใช้ชีวิตกับมือถือ ซึ่งทำให้ Snapchat และบริการ Mobile Video Streaming ทั้งหลายนั้นเข้าไปตอบโจทย์ พร้อมการถ่ายทำแนวตั้งและเสพวิดีโอแนวตั้งนั้นตอบโจทย์ไปอีก ความสำคัญและ insight นี้เองทำให้หลาย ๆ Agency หรือ Holding Company Group สนใจจน Sir Martin Sorrel CEO ของ WPP Group นั้นประกาศความร่วมมือในการทำ Content แนวตั้งนี้เพื่อตอบโจทย์คนวัยรุ่นที่งาน Cannes Lionsโดยการตั้งบริษัทที่จะรองรับความต้องการนี้ขึ้นมาในชื่อ Truffle Pig
ในตอนนี้มีหลาย ๆ แบรนด์และผู้ลงโฆษณาหลายเจ้าทำ Video Vertical Content เองแล้ว เช่น Burger King, Macy’s และ Spike หรือหลาย ๆ แบรนด์ก็ใช้วิดีโอแนวตั้งในการถ่ายทอดภาพวิดีโอเช่นร้านค้าต่าง ๆ ใช้ภาพแนวตั้งในการให้เห็นภาพการลองชุดหรือชุดทั้งตัวต่าง ๆ แบรนด์ค่ายรถยนต์เองก็ใช้วิดีโอแนวตั้งในการเปิดตัวรถยนต์ที่ New York Auto Show แต่หลายแบรนด์ก็รอดูทีท่าว่าเทรนด์จะอยู่รอดต่อไปหรือจะหายไปจากกระแสก่อน ล่าสุดนั้น Social network ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Facebook นั้นได้ประกาศเช่นกันว่า กำลังทดสอบโฆษณาวิดีโอ 2 รูปแบบอยู่คือ 360 องศาที่จะเคลื่อนที่ไปตามนิ้วของคนดูและ Vertical Video เพื่อให้คนนั้นมีปฏิสัมพันธ์สูงสุดบนมือถือ และ Twitter ก็กำลังทดสอบการทำ Vertical Video แทนวิดีโอแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสตอนนี้เช่นกัน
การถ่ายทำวิดีโอแนวตั้งในอดีตนั้นถูกมองว่าเป็นเป็นเรื่องน่าขำ และ มีหลาย ๆ คนต่อต้าน เพราะด้วยกายวิภาคของตามนุษย์และพฤติกรรมของการรับชมของมนุษย์นั้นไม่ถูกออกแบบมาให้มองอะไรแนวตั้ง หรือ ขึ้นลง แต่ถูกออกแบบมาให้มองอะไรแนวนอน ทำให้หลาย ๆ คนและหลาย ๆ แบรนด์นั้นยังตั้งแง่กับเรื่องนี้ เพราะหลาย ๆ Content นั้นก็ยังไม่ถูกออกแบบมาให้เพื่อดูแนวตั้งหรือไม่เหมาะกับแนวตั้ง เช่นการรับชม Series ละครต่าง ๆ หรือ การรับชมกีฬาต่าง ๆ ที่คนนั้นอยากจะเห็นภาพใหญ่ไม่ใช่ภาพเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง เหมือนในแนวตั้งนี้ นอกจากนี้เองผู้เล่นวิดีโอรายใหญ่อย่าง Youtube, Vimeo นั้นก็ยังไม่มีท่าทีใด ๆ ต่อวิดีโอแนวตั้ง และยังจะให้ความเห็นเรื่องนี้เป็นเทรนด์แค่ชั่วครั้งชั่วคราวด้วย
ทั้งนี้อาจจะต้องพิจารณาเรื่องนี้ตามวัตถุประสงค์และเหตุผลต่าง ๆ ในการสร้าง Video Content ว่า Video แบบใดที่จะเหมาะกับ Platform ใด ในความเห็นส่วนตัวคือการทำ Video Content เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมคนละแบบออกจากกัน เช่น
- Vertical Video Content สำหรับการรับชมผ่านมือถือ
- Horizontal Video Content สำหรับการรับชมผ่าน Desktop
และการให้ทั้ง 2 รูปแบบวิดีโอนั้นเชื่อมถึงกัน เพื่อการรับชมที่ไม่ติดขัดและเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคในการถืออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังลองนึกถึงการใช้ Vertical Video กับสื่ออื่น ๆ เช่น OOH หรือ Digital Biilboard ต่าง ๆ ที่เป็นแนวตั้งอยู่แล้ว ก็สามารถนำไปสามารถประยุกค์ใช้ได้ต่ออีกมากมาย นอกจากอุปกรณ์มือถืออีก
httpv://www.youtube.com/watch?v=9JYZqg0511M
ในตอนนี้เทรนด์ Vertical Video นั้นเป็นเทรนด์ที่ต้องจับตามองว่าจะอยู่หรือไป แต่การลองศึกษาและเตรียมตัวไว้นั้นไม่เสียหาย ซึ่งเผื่ออนาคตนั้น Snapchat จะกลายเป็นเครื่องมือต่อไปที่คนไทยใช้ (ในตอนนี้ก็เริ่มมีคนไทยและดาราใช้แล้ว) และ Facebook นั้นปล่อย Vertical Video Ads ออกมา ในตอนนั้นเองจะได้มี Content ที่รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว และนำหน้ากระแสก่อนใคร
