Trend of Truth 7 แนวโน้มอุตสาหกรรมโฆษณา ในมุมมอง Rabbit’s Tale

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

12325970_10153351620861020_1586117776_o

เอ่ยชื่อ Rabbit’s Tale ดิจิทัลเอเจนซี่รุ่นใหม่ โดย 4 ประสาน Digital Native บี, ปอม, แม็ค และเล็ก  ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในเอเจนซี่ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด เพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดด และผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาได้ไม่ธรรมดา ครั้งนี้ ทั้ง 4 คน เลยมาแชร์มุมมอง ในฐานะคนโฆษณารุ่นใหม่ กับแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในปี 2016 ได้อย่างน่าสนใจ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ลองไปฟังกันดู

1) The (almost) Last Group of Digital Immigrant

ถ้าแบ่งกลุ่มคนในสังคมง่ายๆ ตอนนี้ ถ้าอายุต่ำกว่า 30 ลงมา อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม Digital Native (เช่นเดียวกับทั้ง 4 คน) ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับความเป็นดิจิทัลอยู่แล้ว แต่ถ้าคนที่อายุ 30 ขึ้นไป อาจจะเรียกรวมๆ ว่า Digital Immigrant ซึ่งปัจจุบันเริ่มขยับมาใช้งานดิจิทัลกันหมดแล้ว และเชื่อว่าปีนี้ คนกลุ่มสุดท้าย อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไปจะขยับเข้ามาสู่ดิจิทัลกันเกือบหมด

สิ่งที่ชี้วัดการเคลื่อนย้ายได้ชัดเจนคือ จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50% ทำให้ Internet User ขยายตัวไม่ใช่แค่ กทม หรือ หัวเมือง แต่รวมถึงต่างจังหวัด และจำนวนผู้ใช้ LINE กว่า 33 ล้านราย มีกลุ่มของผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า คนไทยกำลังเคลื่อนย้ายมาสู่ดิจิทัลจนเกือบครบทั้งหมดแล้ว และนั่นทำให้วงการโฆษณาต้องคิดการใช้ดิจิทัลเพื่อสนองคนกลุ่มนี้มากขึ้น

rabbit1

2) Micro–Wave

กระแส Micro กำลังมาแรงมาก ซึ่งเกิดขึ้นจากดิจิทัล ที่ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายแบบแยกย่อยและลงลึกได้มากขึ้น เช่น Micro Targeting, Micro Audience, Micro Influencer หรือแม้แต่ Micro Payment การทำการตลาดสามารถเจาะกลุ่มที่มีความเฉพาะได้มากขึ้น ใช้เครื่องมือที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภค ซึ่งเชื่อว่ากระแส Micro จะมีบทบาทมากกว่าวิธีการแบบ Mass แบบเดิมๆ

3) Useful Marketing

การทำการตลาดต้องเน้นประโยชน์ที่จะได้รับมากขึ้น แปลว่าการทำโฆษณาแบบ Ad Push จะไม่ได้ผลอีกต่อไป ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกมากขึ้น และปฏิเสธโฆษณาที่ยัดเยียด ไม่สร้างสรรค์ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนั้นนักการตลาดต้องคิดใหม่ สร้างโฆษณาที่มีประโยชน์มากๆ ทั้งเรื่องชอง Functional, Emotional และ Value ใครมีคุณค่ามากกว่าจะเป็นผู้ชนะ

4) Startupper

Startup กำลังเป็นกระแสหลักในโลกธุรกิจดิจิทัล แต่เชื่อว่าในปีนี้จะเห็น Startupper หรือ Startup ที่พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกด้วยการทำ Digital Marketing Campaign อย่างจริงจังมากขึ้น นอกจากจะสอดคล้องกับบุคลิกของธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีในการ Disrupt แล้ว ต้องใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น จะเห็นได้จากการทำโฆษณาที่สร้างสรรค์ของ Grab เป็นต้น

รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า Digi – SME เป็นกลุ่มธุรกิจ SME ที่ใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลอย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์ เช่น เจคิว ปูม้านึ่ง ที่สร้างปรากฏการณ์ขายปูผ่าน Facebook และมีเป้ายอดขายปีนี้ 1,000 ล้านบาท

ThinkstockPhotos-451929683

5) e-Silkroad

เส้นทางสายไหม 2.0 สู่ประเทศจีนในรูปแบบใหม่ คงไม่ใช่การขนสินค้าไปขายแบบเดิมๆ แต่คือ การใช้เครื่องมือทางดิจิทัลเพื่อจับลูกค้าผู้บริโภคชาวจีน โดยปี 58 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทย 8 ล้านคน และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ดังนั้นนักธุรกิจที่มองตลาดจีน นอกจากภาษาจีนแล้วต้องมองถึงเทคโนโลยีที่ใช้เจาะตลาดจีนด้วย เช่น WeChat, Weibo, Alibaba, Alipay เป็นต้น การดูแลและบริหารช่องทางเหล่านี้ จะช่วยให้เข้าถึงตลาดจีนได้ง่ายขึ้น

6) Brand Transparent and Authenticity

ในยุคที่โซเชียลมีเดีย มีพลังในการตรวจสอบและคว่ำบาตรได้ แบรนด์ต่างๆ ต้องเน้นความเปิดเผย จริงใจ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีกรณีศึกษาเกิดขึ้นมากมาย จากการทำตลาดแบบไม่จริงใจ เช่นใน Pantip, Facebook หรือ Youtube ซึ่งเกิดเป็นผลลบกับแบรนด์ และยากจะแก้ไข

7) Re-scaling Production House

ปี 59 จะเกิดการสร้างสรรค์ Video Content เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ส่งผลให้เกิดการปรับตัวของ Production House เนื่องจาก Brand มีความเชื่อว่าการใช้งบประมาณจะต่ำกว่า TVC และต้องการผลิตผลงานออกมาถี่กว่าเดิม เพื่อใช้ในช่องทางดิจิทัล ดังนั้น Production House อาจต้องปรับตัวลด Scale งาน มีการทำ Cost-Leadership หรือ Agile Working เพื่อให้อยู่รอดและรักษาการเติบโตได้

ถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจของดิจิทัลเอเจนซี่ที่เติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมา

ThinkstockPhotos-486352818


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •