มีการแสดงทัศนะจากคนในวงการโทรคมนาคมเป็นห่วงว่า dtac ที่พลาดการประมูลคลื่นใหม่ไป 2 รอบ (ยังไม่รับประมูล 900 รอบใหม่ที่จะมาถึง) จะมีคลื่นเพียงพอสำหรับให้บริการหรือไม่ ซึ่ง dtac ตอบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แม้จะไม่มีคลื่นใหม่เลย แต่ในช่วงเวลา 3 ปีจากนี้ dtac ยังมีคลื่นในมืออยู่อย่างเหลือเฟือ ทั้ง 850, 1800 และ 2100 MHz
และวันนี้ ลาร์ส นอร์ลิ่ง CEO ของ dtac ก็ออกมาตอกย้ำว่า ด้วยชุดคลื่นความถี่ดังกล่าว ที่มีความถี่รวม 50 MHz มากพอสำหรับการให้บริการดิจิทัลสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ดีแทคจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน ดีแทคมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตของฐานลูกค้าก่อนที่จะมีคลื่นความถี่ตามชุดที่ถือครองหมดสัมปทานประมาณปี พ.ศ. 2561 เพิ่มเติมจากคลื่น 2100 MHz ที่ดีแทคยังถือครองใบอนุญาตซึ่งมีอายุใช้งานถึงปี พ.ศ. 2570
เหมือนที่ dtac เคยมีหนังสือออกมาก่อนหน้านี้ แนะนำให้หน่วยงานกำกับดูแลควรวางแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ (Spectrum Roadmap) ประมูลคลื่นความถี่ในอนาคต พิจารณานำคลื่นความถี่อื่นๆ เช่น 700MHz, 2600MHz ออกมาประมูล เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์กับประเทศ
ขณะที่ครั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแล ควรกำหนดให้คลื่นความถี่ถูกนำออกมาประมูลล่วงหน้าก่อนหมดอายุสัมปทาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นที่เป็นอยู่ เช่น ผู้บริโภคมีปัญหาซิมดับ ซึ่ง จะทำให้ภาครัฐสามารถบริหารจัดการคลื่นความถี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรากฐานที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจโทรคมนาคม
สำหรับคลื่นความถี่ในปัจจุบัน dtac กำลังขยายเครือข่าย Super 4G บนคลื่น 1800MHz โดยเพิ่มแบนด์วิธเป็น 20MHz จากเดิม 15MHz
ในพื้นที่กรุงเทพเพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมประมาณกลางปีนี้ นอกจากนั้น dtac ยังพร้อมให้บริการ 4G บนคลื่น 2100 MHz ทั้ง 878 อำเภอทั่วไทยภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และ Super 4G บนคลื่น 1800MHz ทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทยราวกลางปีนี้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ลูกค้าที่ใช้งานในพื้นที่หรือเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยจะสัมผัสได้กับประสบการณ์ใช้งานดิจิทัลบนมือถือในด้วยคุณภาพสูงสุดจากโครงข่าย dtac Super 4G
