สัมภาษณ์ ความสำเร็จของหนังสั้นโครงการสานรัก ยอดวิวกว่า 7 ล้านวิว

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เพียงหนึ่งเดือนจาก เมื่อต้นเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา ที่ทาง โครงการสานรัก สนับสนุนสถาบันครอบครัว จากเอไอเอส ได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสังคมชุด “แรงบันดาลใจ” ซึ่งมีทั้งหมด 3 เรื่อง คือ “ลองดู”, “สับปะรด” และ “นางรำ” โดยทั้ง 3 เรื่องได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของเด็ก 3 คน จากโครงการสานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จอย่างมากมายด้วยยอดวิวรวมกันได้กว่า 7 ล้านวิวใน 1 เดือน

หากใครได้มีโอกาสชมหนังสั้น 3 เรื่องนี้ จะไม่แปลกใจถึงความสำเร็จในครั้งนี้เพราะทั้ง 3 เรื่องเป็นเรื่องจริงที่ น่าติดตาม เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่เกิดจากความรักและความเข้าใจจากคนในครอบครัว โดยเฉพาะจากมารดาที่ไม่ได้มีสมบัติติดตัวมากมาย มีเพียงความเข้าใจและการสนับสนุนให้ลูกได้เรียนรู้ในหลายรูปแบบทั้งเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก จากการสังเกต หรือจากการได้สานต่อความฝันของตนเอง ทำให้เด็กสามารถเติบโตขึ้นมาและประสบความสำเร็จในชีวิต โดยมีครอบครัวเป็นรากฐานอันสำคัญ

ais-sarnrak2-1

จากที่เคยได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ คุณวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ผู้เป็นกำลังสำคัญโครงการสานรัก สนับสนุนสถาบันครอบครัว เมื่อช่วงแรกที่เปิดตัวหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง ทำให้เราทราบถึงแนวคิด ที่มา และได้เห็นถึงความตั้งใจในการช่วยเหลือสังคม ทำให้รู้ว่าโครงการนี้ได้ส่งเด็กไทยเรียนจบปริญญาตรีแล้วกว่า 100 คน และเมื่อหนังสั้น 3 เรื่องนี้ ประสบความสำเร็จมียอดวิวรวมกว่า 10 ล้านวิว ทำให้วันนี้ ทาง MarketingOops.com ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณวิไล เคียงประดู่ อีกครั้ง

คุณวิไล เล่าถึงที่มาของหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง

เอไอเอส มองเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดแนวคิด และแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้แบบไม่สิ้นสุด ทำให้เด็กมีพลังและขับเคลื่อนตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองฝันไว้ โดยเฉพาะเด็ก 3 คนนี้ ที่มีความโดดเด่นต่างกันคนละด้าน ต่างคนต่างประสบความสำเร็จและถือเป็นคนเก่งหัวใจแกร่ง ที่เราคิดว่าน่าจะหยิบยกแต่ละประเด็นนำมาสร้างเป็นหนังสั้น

คนแรกคือ จู้ จากหนังสั้นเรื่อง “ลองดู” (We can try)

เป็นเรื่องราวการเรียนรู้จากการทดลอง ของจู้ น.ส.เนตรนภา แซ่หลี ที่มีแม่เป็นคนปลูกฝังวิธีการคิด การทดลองและลงมือทำ โดยไม่กลัวความล้มเหลว เริ่มต้นจากการทดลองปลูกถั่วงอกขาย ลองผิดลองถูก จนปัจจุบันจู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์สมความตั้งใจ

คนที่สอง คือ นิล จากหนังสั้นเรื่อง “สับปะรด” (Pineapple)

เป็นเรื่องราวการเรียนรู้จากจากการสังเกต ของนิล น.ส.อัจฉรา พูนสวัสดิ์ ที่แม่มีวิธีการสอนโดยให้นิลเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักสังเกต ฝึกให้กล้าคิด กล้าทำ โดยมีแม่คอยดูและเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ ทำให้วันนี้นิลสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และได้เป็นคุณครูถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆต่อไป

คนที่สาม คือ เล็ก จากหนังสั้นเรื่อง “นางรำ” (Traditional Thai Dance)

เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของเล็ก น.ส.ระวีวรรณ เกลี้ยงทองคำ และแม่ที่เป็นนางเอกลิเกเก่า ผู้ที่ชอบร้อง ชอบรำ และถ่ายทอดการร้องรำมาให้เล็กตั้งแต่เด็กๆ และรับจ้างรำตามงานต่างๆ แต่เมื่อโตขึ้นเล็กเริ่มไม่แน่ใจ ในสิ่งที่ทำ ว่าเธอชอบจริงๆหรือแค่ต้องการหารายได้ช่วยครอบครัว แล้วเล็กก็ค้นพบว่าเธอรักและชอบ ในนาฏศิลป์ไทยจริงๆ จนเป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากที่จะส่งต่อนาฏศิลป์ไทยให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งเป็นชื่อของหนังสั้นชุดนี้ว่า “นางรำ” หรือ “Traditional Thai dance”

ais-sarnrak2-2

ais-sarnrak2-3

ช่องทางที่ใช้ในการโปรโมทหนังสั้น

“ทางโครงการสานรักได้เปิดตัวหนังสั้นทั้ง 3 เรื่องนี้เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยเลือกช่องทางออนไลน์เป็นสื่อแรกในวันที่ 27 สิงหาคม และตามด้วยสื่อทีวีทางช่องฟรีทีวีในวันที่ 29 สิงหาคม โดยสื่อออนไลน์ที่เลือกนั้น มีทั้ง Facebook, YouTube, LINE Official Account ของเอไอเอส, Intranet เน็ตเวิร์คภายในของทางบริษัทเพื่อสื่อสารถึงพนักงาน และที่สำคัญ คือ พนักงานเอไอเอส ที่ชอบหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง ก็มีการแชร์ผ่านสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของตัวเองทั้งทาง Facebook และ LINE ด้วย” คุณวิไลกล่าว

สถิติการรับชมหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง

จากสถิติการรับชมหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งตอนแรกคาดว่ายอด 3-4 ล้านวิว เราก็ดีใจมากแล้ว แต่ตอนนี้มันเกินความคาดหวังไปแล้วด้วยยอดวิวเกือบ 7 ล้านวิว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากยอดวิวบน YouTube และตัวเลขสถิติจากวิดีโอที่เรานำไปเผยแพร่ผ่านทาง Facebook ซึ่งความยาวของแต่ละเรื่องประมาณ 3 นาที แต่หลังจากที่ปล่อยหนังสั้นทั้งสามเรื่องผ่านสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้ง YouTube, Facebook และ LINE พบว่ามียอด Engagement ที่สูงมาก ทั้ง Like, Comment และการ Share เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงยอดวิวที่มีจำนวนวิวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคนส่วนมากจะชมภาพยนตร์จนจบ และยังคลิกชมหนังเรื่องถัดไปที่มีแนะนำต่อในทันที – คุณวิไลกล่าว

ais-sarnrak2-4ais-sarnrak2-5

ก้าวต่อไปของ เอไอเอส และโครงการสานรัก

ทางเอไอเอสวางแผนไว้ว่า เราอยากจะจุดประกายความคิดของทุกๆ ครอบครัว ว่าการที่อยู่ร่วมกันในครอบครัว ซึ่งถือเป็นจุดเล็กที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมไทย เป็นเรื่องที่สำคัญเราจึงต้องการปลูกฝังให้ครอบครัวแข็งแรง เพราะถ้าสถาบันนี้แข็งแรงแล้ว จะส่งผลต่อไปยังประเทศชาติให้แข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปนิสัย เรื่องของความมีระเบียบวินัย และเรื่องของวัฒนธรรม เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก เขาก็สร้างมาจากครอบครัวของเขานี่แหละค่ะ ทั้งวินัยต่างๆ ความซื่อสัตย์ ความขยัน และการเรียนรู้ ซึ่งเราก็อยากทำให้ประเทศของเราเป็นแบบนี้ อยากให้ทุกครอบครัวมองเห็นว่า เวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมีคุณค่าเสมอ อยากให้ตระหนักเรื่องนี้ไว้เสมอ คุณวิไลกล่าวทิ้งท้าย

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •