เว็บไซต์ Adage ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารเนสต์เล่เพื่อเล่าถึงที่มาของชื่อแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ 4.4 Kitkat ว่ามีที่มาอย่างไร?
ก่อนอื่น ไอเดียนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยเกิดจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทีมผู้บริหารของแอนดรอยด์ กำลังคิดชื่อระบบปฏิบัติการใหม่ของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา จะเน้นชื่อที่เป็นขนมหวาน และเรียงตามลำดับตัวอักษรทั้งหมด ได้แก่ Donut, Eclair, Froyo, Gingerbread, Honeycomb, Ice Cream Sandwich และ Jelly Bean
ซึ่งตัวอักษรต่อไปก็คือ K ทางทีมงานจึงเห็นว่าชื่อขนมหวานที่คนทั้งโลกรู้จักและขึ้นต้นด้วยตัว K จึงหนีไม่พ้น Kitkat ขนมปังช็อคโกแลตของเนสต์เล่ ดังนั้นทีมงานกูเกิลจึงติดต่อไปที่ JWT ที่เป็นเอเจนซี่ประจำของ Kitkat เพื่อเล่าถึงไอเดีย
ทางทีมงาน JWT จึงนำเรื่องนี้ไปบอกให้กับผู้บริหารเนสต์เล่ เมื่อฟังและพูดคุยกันระหว่างบอร์ดโดบใช้เวลาการประชุม 2 รอบ ทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง ทางเนสต์เล่ก็ตกลงเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ต่อสาธารณะ
จนในที่สุดดีลนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ 4.4 จึงมีชื่อเล่นว่า Kitkat โดยทางเนสต์เล่ให้เหตุผลที่ตอบตกลงข้อเสนอนี้ว่า…
1. แอนดรอยด์ มีบุคคลิกของแบรนด์ที่สอดคล้องกับ Kitkat ที่เป็นขนม กินแล้วสนุกสนาน ขำๆ
2. แอนดรอยด์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ Kitkat ที่เน้นเรื่องสารหลักที่โปรโมทคือ การทาน Kitkat ระหว่างการพักผ่อน คนเราส่วนใหญ่ก็ใช้มือถือแอนดรอยด์เพื่อการพักผ่อนอย่างเล่นเกมด้วย
ซึ่งดีลนี้เชื่อว่าไม่มีการจ่ายเงินให้กันและกัน เพียงแต่แลกสิทธิ์ระหว่างกัน นั่นคือ กูเกิลได้ใช้ชื่อ Kitkat ส่วน Kitkat ได้เอาโลโก้แอนดรอยด์ มาทำเป็นขนม Kitkat รูปหุ่นยนต์สีเขียว และได้เอารูปหุ่นยนต์นี้ไปสกรีนที่แพคเกจเพิ่มความไฮเทคนั่นเอง
และล่าสุดตอนนี้เว็บของ Kitkat เองก็เน้นย้ำว่าตัวเอง เป็นขนมหวานสุดไฮเทคไปเสียแล้ว มีการเอาส่วนผสมของขนมหวานไปเปรียบเทียบกับสเปคต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ สร้างความสนุกสนานและแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องต่อที่นี่