เล่าเบื้องหลังที่มาของชื่อแอนดรอยด์ 4.4 Kitkat

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

2013-09-08_13-15-36

 เว็บไซต์ Adage ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารเนสต์เล่เพื่อเล่าถึงที่มาของชื่อแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ 4.4 Kitkat ว่ามีที่มาอย่างไร?

ก่อนอื่น ไอเดียนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยเกิดจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทีมผู้บริหารของแอนดรอยด์ กำลังคิดชื่อระบบปฏิบัติการใหม่ของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา จะเน้นชื่อที่เป็นขนมหวาน และเรียงตามลำดับตัวอักษรทั้งหมด ได้แก่ Donut, Eclair, Froyo, Gingerbread, Honeycomb, Ice Cream Sandwich และ Jelly Bean 

ซึ่งตัวอักษรต่อไปก็คือ K ทางทีมงานจึงเห็นว่าชื่อขนมหวานที่คนทั้งโลกรู้จักและขึ้นต้นด้วยตัว K จึงหนีไม่พ้น Kitkat ขนมปังช็อคโกแลตของเนสต์เล่ ดังนั้นทีมงานกูเกิลจึงติดต่อไปที่ JWT ที่เป็นเอเจนซี่ประจำของ  Kitkat เพื่อเล่าถึงไอเดีย

ทางทีมงาน JWT จึงนำเรื่องนี้ไปบอกให้กับผู้บริหารเนสต์เล่ เมื่อฟังและพูดคุยกันระหว่างบอร์ดโดบใช้เวลาการประชุม 2 รอบ ทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง ทางเนสต์เล่ก็ตกลงเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ต่อสาธารณะ

จนในที่สุดดีลนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ 4.4 จึงมีชื่อเล่นว่า Kitkat โดยทางเนสต์เล่ให้เหตุผลที่ตอบตกลงข้อเสนอนี้ว่า…

1. แอนดรอยด์ มีบุคคลิกของแบรนด์ที่สอดคล้องกับ  Kitkat ที่เป็นขนม กินแล้วสนุกสนาน ขำๆ 

2. แอนดรอยด์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ Kitkat ที่เน้นเรื่องสารหลักที่โปรโมทคือ การทาน Kitkat ระหว่างการพักผ่อน คนเราส่วนใหญ่ก็ใช้มือถือแอนดรอยด์เพื่อการพักผ่อนอย่างเล่นเกมด้วย

 2013-09-08_13-13-15

2013-09-08_13-12-54

ซึ่งดีลนี้เชื่อว่าไม่มีการจ่ายเงินให้กันและกัน เพียงแต่แลกสิทธิ์ระหว่างกัน นั่นคือ กูเกิลได้ใช้ชื่อ Kitkat ส่วน Kitkat ได้เอาโลโก้แอนดรอยด์ มาทำเป็นขนม Kitkat รูปหุ่นยนต์สีเขียว และได้เอารูปหุ่นยนต์นี้ไปสกรีนที่แพคเกจเพิ่มความไฮเทคนั่นเอง

 2013-09-08_17-07-39

และล่าสุดตอนนี้เว็บของ Kitkat เองก็เน้นย้ำว่าตัวเอง เป็นขนมหวานสุดไฮเทคไปเสียแล้ว มีการเอาส่วนผสมของขนมหวานไปเปรียบเทียบกับสเปคต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ สร้างความสนุกสนานและแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี!

2013-09-08_13-15-13 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องต่อที่นี่ 

เมื่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ใหม่ใช้ชื่อ Kitkat ใคร Win ใคร In?

แหล่งข่าว 

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
mengxi
เพราะชอบหลบร้อนไปพักที่ห้องสมุดวารสารฯ เป้าหมายคือหยิบหนังสือ One show เล่มโตมาปราดดูโฆษณาเจ๋งๆ จากทั่วโลก เลยมาถึงวันนี้...วันที่เป็นคอลัมน์นิสต์และบล็อกเกอร์มานับทศวรรษ แต่ก็ยังสนุกกับการนำกรณีศึกษาใหม่ๆ ล้ำๆ ของวงการโฆษณา ทั้ง Offiline, Online, Mobile มาแบ่งปันกับคนคอเดียวกัน!