Apple เปิดตัว iPhone SE มันคือ 6S ในร่างของ 5S นี่เอง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Apple ได้เปิดตัวโปรดักส์ตัวใหม่ iPhone SE ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ  Cupertino, California ซึ่งส่วนใหญ่มองว่ามันคือ iPhone 6S ที่อยู่ในร่างของ iPhone 5S เพราะมีฟีเจอร์ส่วนใหญ่เหมือนกับ 6S แต่เล็กกว่า ในขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ลองตามมาดูกันว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง

iPhone SE 1

-รูปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงกับ iPhone 5S มากทีเดียว มีสียอดฮิตของสาวๆ อย่าง โรส โกลด์ ด้วย (เหมือนกับ 6Sเลย)

-มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่า iPhone 6S Plus ซึ่งมีขนาดหน้าจอถึง 5.5 นิ้ว

iPhone SE 4
มีสีชมพู โรส โกลด์ ด้วย แล้วยังมีสีที่คุ้นเคยอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น สีทอง เงิน สีเทา

-ทั้งนี้ Apple บอกว่า ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่ยังชอบหน้าจอขนาดเล็กอยู่ ดังนั้น จึงได้ทำ iPhone SE ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ แต่ฟีเจอร์เด่นจาก 6S ก็มีให้ใช้อย่างครบถ้วน

-มีกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล ดีพอๆ กับ 6S เลย แล้วยังสามารถถ่ายภาพ Live Photo ได้ด้วย ซึ่งพัฒนาเหนือกว่า 5S รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ได้ ซึ่งคมชัดมากกว่า HD วิดีโอ

-ชิป A9 (64 bit) มีความเร็วเท่ากับ  iPhone 6S พร้อมชิป M9 จับความเคลื่อนไหว

iPhone SE 6

-มาพร้อมกับโลโก้ใหม่ “SE” ซึ่งดีไซน์บางกว่า 5S พร้อมกับวัสดุใหม่ ซึ่ง Apple บอกว่าทำให้เกิดรอยขีดข่วนน้อยลง

-ขอบที่ให้ความเป็นเนื้อด้านมากกว่ามันวาว ต่างจาก 5S ซึ่งค่อนข้างดีทีเดียว

-ยังคงใช้ processor แบบเดียวกับ 6S ซึ่งดีสำหรับการเล่นเกมส์

iPhone SE 2
โลโก้บางๆ
iPhone SE 3
ขอบด้านนะ ไม่ใช่ชอบชีส

-ด้วยหน้าจอเล็ก จึงเหมาะและถนัดกับการใช้มือเดียว แต่อาจจะให้ความรู้สึกเล็กไปหากคุ้นเคยกับการใช้หน้าจอใหญ่มาก่อน

– ราคาเริ่มต้นที่  $399 หรือประมาณ 15,000 บาท สำหรับรุ่น 16 GB และราคา $499 สำหรับรุ่น 64 GB

-แอปเปิลเปิดขาย iPhone SE ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ สำหรับ 12 ประเทศกลุ่มแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เปอร์โต ริโค สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ (ไม่มีไทย) ส่วนประเทศอื่นๆ จะเริ่มจำหน่ายภายในพฤษภาคม

ก็ถ้าใครชอบมือถือไซส์เล็กก็น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะได้ทุกอย่างเจ๋งๆ เช่นเดียวกับที่ iPhone 6S มีในราคาที่ถูกกว่า

ที่มา


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!