ผลประกอบการ Apple, Microsoft และ Amazon

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เห็นว่ามีข่าวออกมาพร้อมๆ กันกับผลประกอบการของ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ Apple, Microsoft และ Amazon ซึ่งทั้ง 3 ค่ายต่างมีผลประกอบการ และกำไรที่สวยงาม  แสดงว่ายุกต์เศรษฐกิจตกต่ำของอเมริกานั้นไม่ได้กระทบอุตสาหกรรมไอทีรุนแรงอย่างที่หลายๆ สื่อได้คาดการณ์เอาไว้

Apple กำไรเพิ่มขึ้น 50%

แน่นอนอยู่แล้วว่าผลประกอบการของ Apple ต้องเป็นที่ชื่นใจของ Steve Jobs อย่างแน่นอน เพราะคนทั่วโลกต่างใช้ iPhone กันเป็นส่วนใหญ่ และหลังๆ มานี้คอมพิวเตอร์ McIntoch ก็ได้รับความสนใจขยายเป็นวงการให้ต่างประเทศ  ทำให้ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม Apple มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งสร้างสถิติของไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงที่สุด

Steve Jobs ระบุว่า ผลของการขยายพื้นที่จำหน่ายไอโฟนสู่ตลาดใหม่เช่นจีนและเกาหลีใต้ ส่งผลให้ยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว โดยยอดจำหน่ายตลอด 3 เดือนปลายปี 2009 คือ 8.7 ล้านเครื่อง

กำไรของ Apple ตลอดไตรมาสคือ 3,400 ล้านเหรียญ (ราว 1.15 แสนล้านบาท) คิดเป็น 3.67 เหรียญต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบจากตัวเลข 2,300 ล้านเหรียญหรือ 2.50 เหรียญต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปี 2008 รายได้รวมของแอปเปิลคือ 15,700 ล้านเหรียญ (ราว 5.33 แสนล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 32% จาก 11,900 ล้านเหรียญที่เคยทำได้ในปีก่อนหน้า

นักวิเคราะห์เชื่อว่ารายได้รวมและกำไรพุ่งกระฉูดของ Apple ในไตรมาสนี้แสดงถึงความสามารถของ Apple ในการขายสินค้าโดยไม่ต้องลดราคาลง โดยสัดส่วนกำไรเฉลี่ยหรือมาร์จิ้นของ Apple ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2009 นั้นสูงสุด 40.9% เพิ่มขึ้นจาก 37.9% ในปีที่แล้ว

คอมพิวเตอร์แมคอินทอชก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเลขกำไรของ Apple เพิ่มขึ้น โดยยอดจำหน่ายตลอด 3 เดือนอยู่ที่ 3.36 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 33%

ส่วนยอด iPod มียอดจำหน่ายลดลง โดย Apple สามารถจำหน่ายไป 21 ล้านเครื่องคิดเป็นสัดส่วนลดลง 8% แม้ว่า Apple จะเปิดตัว iPod  Nano สีสันใหม่พร้อมกล้องดิจิตอลเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา

Microsoft กำไร USD 6,660 ล้าน

Windows 7 ระบบปฏิบัติการน้องใหม่ล่าสุดกลายเป็นแรงสำคัญที่ทำให้ Microsoft สามารถทำกำไรได้สูงถึง 6,660 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.26 แสนล้านบาท บนรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 14% เบ็ดเสร็จ 3 เดือนปลายปี 2009 Microsoft มีรายได้รวม 19,020 ล้านเหรียญ (ราว 6.46 แสนล้านบาท)

Microsoft ระบุว่าแรงผลักดันตัวเลขรายได้และกำไรในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2009 คือความต้องการ Windows 7 และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มากขึ้น โดยกำไรสุทธิของ Microsoft ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานั้นคิดเป็นอัตราเฉลี่ย 74 เซนต์ต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 57% เทียบจากไตรมาสเดียวกันในปี 2008

Microsoft ระบุว่าสามารถจำหน่ายลิขสิทธิ์ Windows 7 มากกว่า 60 ล้านก็อปปี้ คาดว่า Windows 7 นั้นสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้ Microsoft ถึง 500 ล้านเหรียญในเวลาเพียง 3 เดือน

สัดส่วนการใช้งานระบบปฏิบัติการของ Microsoft ยังคงคิดเป็น 90% ของคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

Amazon กำไรสูงถึง 71%

Amazon.com ประกาศตัวเลขกำไรก้าวกระโดดไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง Kindle เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Amazon มีกำไรสิทธิสูงถึง 384 ล้านเหรียญ (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 85 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่า 225 ล้านเหรียญที่คิดเป็น 52 เซนต์ซึ่งทำได้ในปี 2008

Amazon ระบุว่าสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 42% โดยตลอด 3 เดือนสามารถทำได้ 9,520 ล้านเหรียญ (ราว 3.23 แสนล้านบาท) จำนวนนี้รวมรายได้ 200 ล้านเหรียญจากร้านรองเท้าและเครื่องประดับออนไลน์นาม Zappos ซึ่ง Amazon เพิ่งควักกระเป๋าซื้อกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว

Amazon ระบุว่ารายได้จากการขายหนังสือ แผ่นซีดี ดีวีดี และสื่ออื่นๆนั้นเพิ่มขึ้น 29% เป็น 4,680 ล้านเหรียญ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องมือจักรกลทั่วไปสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 60% เป็น 4,610 ล้านเหรียญ โดยพื้นที่อเมริกาเหนือนั้น Amazon สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 37% น้อยกว่าพื้นที่อื่นๆที่สามารถทำได้เพิ่มขึ้นถึง 49%

ไม่มีข้อมูลว่า Amazon สามารถจำหน่ายเครื่องอ่าน e-Book เป็นจำนวนเท่าใดตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา โดยสำหรับไตรมาสปัจจุบัน Amazon คาดว่าจะสามารถทำรายได้ 6,450-7,000 ล้านเหรียญตลอดเดือนมกราคมถึงมีนาคมนี้ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 32-43%

ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •