คำนวนงบประมาณที่จะใช้ในการทำ Google Ads ด้วยตัวเองกันด้วย 5 ขั้นตอนนี้ 

  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  

คำนวนงบประมาณที่จะใช้ในการทำ Google Ads ด้วยตัวเองกันด้วย 5 ขั้นตอนนี้ 
คำนวนงบประมาณที่จะใช้ในการทำ Google Ads ด้วยตัวเองกันด้วย 5 ขั้นตอนนี้

นักการตลาดหลาย ๆ คนในตอนนี้อาจจะต้องทำอะไรเองหลาย ๆ อย่าง หรือมาตรวจสอบงานของคนที่เกี่ยวข้อง หรือบางคนก็ทำงานเป็นเจ้าของกิจการเอง ซึ่งแน่นอนด้วยการทำธุรกิจในยุคนี้ การซื้อโฆษณานั้นเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้แบรนด์สินค้าและบริการ ได้รับความสนใจและทำให้ผู้บริโภคหาเจอเช่นกัน โดยเฉพาะ google ads ที่เป็นส่วนสำคัญในการทำให้คนที่กำลังมีปัญหา สามารถเข้ามาเจอและสร้างการตัดสินใจให้เกิดการซื้อขายอย่างทันทีขึ้นมาได้ 

ปัญหาสำคัญสำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับ Google Ads ที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เริ่มวางแผนงบประมาณโฆษณาว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ดี หรืออยู่ในตำแหน่งที่ว่า งบประมาณที่คนอื่นวางไว้นั้นเหมาะสมหรือไม่ ในบทความนี้จะพาคุณไปช่วยคำนวนงบประมาณในการวางแผนโฆษณาว่า จะต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน ด้วย 5 ขั้นตอนนี้ 

    1. วางเป้าหมายของการโฆษณา ว่า เมื่อคุณซื้อโฆษณาของ Google แล้ว คุณจะอยากได้เป้าหมายอะไร ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การซื้อเพื่อ Awareness, Traffic, imp, Conversion, visits จนถึงให้ดาว์นโหลดแอพ และ Engagement ต่าง ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว คนซื้ออยากจะได้ conversion แต่ใน Conversion ก็มีหลายแบบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเลย, ลงทะเบียนเอาไว้, โทรมาถาม, สมัครอีเมล์ หรือเข้าถึงหน้าที่ต้องการ ดังนั้นการเข้าใจว่าเป้าหมายที่อยากจะซื้อโฆษณาและผลลัพท์ที่ต้องการหลังจากการซื้อนั้นมีสำคัญอย่างมากในการที่จะใช้เงินให้ถูกทาง 
    2. Keyword search เมื่อเลือกเป้าหมายได้แล้ว สิ่งสำคัญอย่างมากที่จะทำให้การใช้เงินนั้นถูกต้องคือการทำ Keyword Search ขึ้นมา เพื่อหาคำหรือวลีใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตัวเองที่กำลังลงโฆษณา หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ ออกมา นักการตลาดและคนที่เกี่ยวข้องควรจะคิดถึง คำที่จะทำให้คนค้นหาสินค้าของตัวเองเจอ หรือสิ่งที่คนกำลังอยากหาหรืออยากได้อยู่ออกมา หรือแม้กระทั่งการค้นหาที่ใกล้เคียงก็เจอสินค้าคุณ โดยการใช้ Google Keyword Planner tool ที่จะให้ข้อมูล keyword ต่าง ๆ ที่คนค้นหาในแต่ละเดือน และให้ข้อมูลราคาของ CPC (cost-per-click) โดยเฉลี่ยว่ามีราคาเท่าไหร่  
    3. Spreadsheet เมื่อได้ข้อมูลคำต่าง ๆ ที่ต้องการแล้ว สิ่งต่อมาต้องมีทักษะในการใช้ Excel หรือ numbers ใน macs เล็กน้อย นั้นก็คือ เอาคำต่าง ๆ ที่ค้นหาแล้วว่าตรงกับแบรนด์สินค้าและบริการนั้น เอามาใส่ Spreadsheet ดู  และเติมช่องต่าง ๆ ดังนี้ Keyword | Theme | Low Range Bid | Top Of Page Bid | Avg. Monthly Search Volume ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ใน Google  Keyword Planner tool มีให้เรียบร้อยแล้ว
    4. เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าว ก็เอามาคำนวนราคาที่จะซื้อ โดยราคาที่ได้ออกมานั้นจะเป็น Average CPC และ Traffic ที่จะได้ในแต่ละเดือนคร่าว ๆ โดยการเข้าสูตรหาค่าเฉลี่ยใน Excel และค่า Median ต่าง ๆ กับช่อง Low Range Bid, high range bid ออกมา ซึ่งสามารถพิมพ์สูตรดังนี้ 
      1. =AVERAGE(range:range)
      2. =MEDIAN(range:range)
    5. เมื่อได้ราคาเฉลี่ยของ CPC ของแต่ละ Keyword ออกมา หรือค่า Search Volume โดยเฉลี่ยออกมา คราวนี้ก็มาคำนวนหา Return On Ad Spend (ROAS)  เพื่อที่จะไปคำนวนกลับว่า จะต้องใช้เงินในการทำโฆษณามากน้อยแค่ไหนใน Google Ads ออกมา ซึ่งตรงนี้นักการตลาดและคนที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ข้อมูลในอดีตออกมาก็ได้ว่า เคยใช้เงินมากน้อยแค่ไหนในการได้ลูกค้าหนึ่งคนเข้ามา และข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็น monthly traffic volume ที่เคยได้, Conversion rate จาก Traffic ที่ได้มา และเปลี่ยนมาเป็นลูกค้า และ average order value หรือมูลค่าการขายที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ยต่อการซื้อ ทั้งหมดนี้จะสามารถมาคำนวนยอดขายรายเดือนได้ ตัวอย่างเช่น 
      1. มี Traffic เข้ามา  10,000 ครั้งโดยเฉลี่ย
      2. CPC ที่ 50 บาท
      3. 1% Conversion 
      4. Basket size 1,500 บาท 

เมื่อนำมาคำนวนจะได้ 1% conversion rate จาก 10,000 click จะได้ 100 conversion แต่ละ conversion จะได้ Basket size 1,500 บาท ทั้งหมดจะเป็น 150,000 บาท ราคาต่อ CPC 5 บาท ดังนั้น 10,000 clicks ที่ได้มาจะต้องใช้เงิน 5×10,000 ทั้งหมดเท่ากับ 50,000 บาท เมื่อนำมาคำนวน Return On Ad Spend จากสูตร Revenue ÷ Advertising Costs จะเท่ากับ 150,000/50,000 = 3 ดังนั้น ROAS ที่ลงไปทุก ๆ บาท จะได้เงิน 3 บาทกลับมา 

จากสูตรได้และการคำนวนนี้ ซึ่งนักการตลาดต้องมาลองคำนวนว่าคุ้มค่ากับการลงทุนกับโฆษณาหรือไม่ และด้วยข้อมูลนี้จะเอามา Optimised ต่อได้ว่าจะทำอย่างไรให้ค่าโฆษณาลดลง และได้ผลเพิ่มขึ้น สร้าง ROAS ที่ดีขึ้นมาได้ 


  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ