5 วิธีวัดผลแคมเปญออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  

16583328_m

หนึ่งในเรื่องที่กลายเป็นปัญหาน่าปวดหัวสำหรับดิจิตอลมาร์เกตติ้งในทุกวันนี้คือการวัดความสำเร็จของแคมเปญหรือโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องจากหลายครั้งแม้ว่าเราจะโชว์ยอดวิว ยอดไลค์ ยอดคอมเมนต์ แต่ผู้จัดการก็มักขมวดคิ้วแล้วถามหา ROI (Return on Investment) จากเม็ดเงินที่ทุ่มลงไปให้แก่แผนกของคุณ

ต่อไปนี้เรามี 5 เครื่องมือที่น่าจะช่วยให้การวัดความสำเร็จเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น (หวังว่านะ)

1. เจาะจงสำรวจกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของแบรนด์คุณ

อย่าเหวี่ยงแหแล้วสร้างมาตรวัดความสำเร็จตามกลุ่มลูกค้าทุกคนที่เข้ามาชมหรือทำกิจกรรมกับแคมเปญของคุณ พวกเขาอาจไม่ใช่ potential consumers (ลูกค้าที่มีศักยภาพซื้อสินค้าบริการ) ก็เป็นได้ ลองตรวจข้อมูลเชิงลึกแล้วเลือกคนหยิบมือที่น่าจะเป็นผู้นำทางความคิดหรือน่าจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณแล้วค่อยศึกษาพวกเขาอย่างจริงจัง

2. ติดตามข้อมูลและผลจากการเสิร์จจากเว็บ

หากเป้าหมายแคมเปญของคุณคือการขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม (มีการรับรู้แบรนด์มากที่สุด) ได้ข้อมูลผู้บริโภค และสร้าง Web traffic คุณควรวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผลการค้นหาจากเว็บและวิธีการติดตามข้อมูลของคุณจากเว็บวิเคราะห์ต่างๆ เช่น Google และอื่นๆ ทั้งนี้ หากคุณต้องการดูแค่ผลของ marketing activity จริงๆ โดยไม่พิจารณา PR campaign เลยก็ให้แยกลิงค์ของแคมเปญที่มาจาก PR เป็นอีกลิงค์จะได้สามารถวัดผลแยกส่วนกันได้

3. ดูระดับ CTR (click through rate)และจำนวนดาวน์โหลด

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือยอดดาวน์โหลดหรือจำนวน CTR (หมายถึงยอดคลิกเข้าไปดู) ที่มีคนมาทำกับแคมเปญของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถวัดผลความสำเร็จผ่าน backlinks (ลิงค์ที่จะนำคุณกลับเข้ามาในเพจต้น) หรือ reference link ทั้งหมดนี้ก็สามารถใช้วัดความสำเร็จของแคมเปญได้เช่นกัน

4. นับยอดแชร์และบทสนทนา (คอมเมนต์) ที่เกิดขึ้น

หากคุณทำการสื่อสารถูกต้อง คุณจะเห็นว่าลูกค้าเริ่มตั้งบทสนทนาเกี่ยวกับแคมเปญของคุณมากขึ้นทุกขณะ ให้ลองเข้าไปอ่านคอมเมนต์แล้วจับให้ได้ว่าใครกันแน่ที่เป็น opinion leader (ผู้นำทางความคิด) ของกลุ่มลูกค้าของคุณ ไม่แน่มันอาจกลายเป็นไอเดียสำหรับแคมเปญครั้งใหม่ของคุณก็ได้

5. อย่าหลงลืมวิธีโบราณไปเสียล่ะ

ทางสายเก่าอย่าง advertising value equivalency (AVE)การนับพื้นที่โฆษณาหน่วยเป็น…ก็ยังน่าใช้อยู่ รวมถึงพื้นที่การประชาสัมพันธ์ที่สื่อมวลชนยอมให้ลงข่าวทั้งแบบฟรีและเสียเงิน

แม้ว่าการโฆษณาจะห่างไกลจากการวัดผลแบบ AVE มานานเนื่องจากมันบอกถึงความเกี่ยวข้องกับธุรกิจไม่ได้มากนักแต่ในบางสถานการณ์มาตรวัดเหล่านี้ก็ยังใช้ได้ผลดีอยู่นะ ต้องลองปรับใช้กันดูครับ

Source


  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง