เรียนกลยุทธ์การตลาดจากกลยุทธ์เพื่อเอาชนะของทีม Premier League อย่าง Leicester City

  • 66
  •  
  •  
  •  
  •  

ในทุก ๆ การแข่งขันนั้นต้องมีการใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งชี้วัดกันเลยว่าทีมจะไปได้ไกลหรือไม่ได้ไกลจากผู้จัดการทีมที่เป็นคนวางกลยุทธ์หรือ GM ที่เป็นคนวางกลยุทธ์กัน ซึ่งตัวกลยุทธ์นี้ทำให้กีฬาซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Unfair Game นั้นทำให้ทีมเล็กกว่า สามารถเอาชนะทีมใหญ่กว่า ทีมที่มีเงินน้อยกว่าเอาชนะทีมที่มากกว่าได้ และวันนี้ผมจะเอากลยุทธ์ของทีมฟุตบอลชื่อดัง ที่มีเจ้าของเป็นคนไทยมาเป็น Case Study เล่าให้ฟังกันครับ

ภาพจาก BBC.co.uk
ภาพจาก BBC.co.uk

ทีมสโมสร Leicester City หรือชื่อฉายาใหม่คือ จิ้งจอกสยาม กลายเป็นทีมที่ทุกคนกล่าวขวัญถึงมากที่สุดอีกทีมในปีนี้จากเป็นทีมที่ไม่ค่อยมีคนสนใจและไม่ได้เป็นหัวแถวในตาราง Premier League แต่ในตอนนี้นั้นทีม Leicester City นั้นกลับมาเป็นที่ 1 ของตารางการแข่งขันฟุตบอลอยู่ในตอนนี้ และทีมนี้ที่สำคัญคือมีเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย อย่างกลุ่ม King Power อีกด้วย แต่วันนี้เราจะไม่มาคุยเรื่องฟุตบอล แต่จะมาคุยเบื้องหลังกลยุทธ์ของทีมสโมสรจิ้งจอกสยามนี้กันว่า มีกลยุทธ์อย่างไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จแบบนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งสโมสร Leicester City นั้นเข้ามาเล่น Premier League จากการเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 1 มาเป็น Premier League และอย่างที่หลายคนมีความคิดในการเลื่อนชั้นคือเป้าหมายหลังจากการเลื่อนชั้นนั้นคือการอยู่รอดให้ได้ใน Premier League และไม่ตกชั้นไปอีกรอบ ซึ่งหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมาเป็น Claudio Ranieri สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่นักการตลาดนั้นสามารถเอามาเป็นบทเรียนได้อย่างดีในการทำกลยุทธ์เพื่อการเป็นที่ 1 แบบนี้ (ไม่ใช่เพราะพระคุณเจ้าไปพรมน้ำมนต์อย่างที่ทุกคนเห็นแน่นอน)

Leicester-City2

1. การวิเคราะห์ปัญหา Claudio Ranieri เข้ามาคุมทีม Leicester City ในเดือนสิงหาคมปี 2015 นั้น Claudio Ranieri ได้ศึกษาวิดีโอการเล่นของทีมที่จะเข้ามาคุมของฤดูกาลก่อนหน้า และเมื่อไปคุยกับนักเตะนั้นแลัว Claudio Ranieri พบว่าทีมนั้นกลัวการเล่นแบบยุทธวิธีแบบของคนอิตาลีอย่างมาก และทีมนั้นไม่เชื่อว่าจะเล่นแบบนั้นได้ แถมตัว Claudio Ranieri เองก็คิดเช่นนั้นถ้ายังไม่มีการปรับปรุงความคิดของทีม ซึ่ง Claudio Ranieri คิดว่าการที่จะสามารถมีแผนการเล่นอะไรใหม่หรือระบบการเล่นใหม่ ๆ ได้ สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นผู้จัดการทีมที่ต้องทำคือการสร้างทีมจากคาแรคเตอร์ของผู้เล่นที่มีอยู่ในตัวของผู้เล่นเอง ซึ่งจากตรงนี้เองที่น่าสนใจ เพราะเป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดหลายคนพลาดไปหลาย ๆ ครั้ง

ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082
ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082

บทเรียนการวิเคราะห์ปัญหา ว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นจากอะไรเป็นเรื่องสำคัญก่อนวางกลยุทธ์ทั้งสิ้น นักการตลาดหลายคนเข้ามาทำการตลาดโดยจะเอาแผนพัฒนาการตลาดหรือแผนการทำงานมาใช้ทันที โดยไม่ศึกษาว่าองค์กร คนทำงานและผู้ซื้อนั้นมีเบื้องหลังมาอย่างไร และจะทำอย่างไรจะให้เค้าร่วมมือ หรือสร้างการตลาดแผนใหม่นี้จากตัวตนเดิมที่องค์กรเคยเป็นมาได้อย่างไร กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เพราะจะได้แก้ปัญหาที่ถูกต้องมากขึ้น

2. แตกกลยุทธ์การแก้ไขปัญหานั้นตามลำดับความสำคัญ ซึ่ง Claudio Ranieri พบจากการวิเคราะห์ปัญหาของ Leicester City นั้นว่าทีมนั้นไม่มีทักษะของการครองบอลที่ดี ซึ่งทีม Leicester City นั้นสร้างทีมที่มีผู้เล่น 11 คนที่มีค่าตัวรวมกันยังไม่ถึงครึ่งของค่าตัว Wayne Rooney ทำให้ Claudio Ranieri รู้ได้ทันทีว่าถ้าเค้าเล่นเกมนี้เหมือนคนอื่นแล้ว เค้าจะไม่มีวันเอาชนะแน่นอน ดังนั้นเค้าจึงมองหาทางอื่นเพิ่มเติมจนพบทางที่ดีกว่า นั้นคือไม่เล่นเกมที่ใช้ทักษะการครองบอล แต่ไปเล่นเกมที่ทีม Leicester City นั้นมีความได้เปรียบกว่า นั้นคือ ความเร็วและความมุ่งมั่นอย่างมีวินัยของทีม ซึ่งเมื่อไปมองสถิติการชนะของทีม Leicester City นั้น % การครองบอลจะอยู่ที่ 60-65% เท่านั้น แต่กลับชนะได้ในทุกสัปดาห์ และบ่อยครั้งที่การชนะของทีมจบลงด้วย % การครองบอลที่ 30-35% เท่านั้น Claudio Ranieri สร้างวิธีใหม่ในการเล่นเกมนี้ขึ้นมา แทนที่จะควบคุมการครองบอล การควบคุมเกม Claudio Ranieri ใช้ความเร็วและการประกบของลูกทีม เพื่อหยุดการบุกของทีมอื่นและโต้กลับอย่างรวดเร็วแบบเฉียบคม

ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082
ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082

บทเรียนนี้ของนักการตลาดคือกลยุทธ์นั้นไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเครื่องมือใด และเครื่องมือหนึ่งอีกด้วย มันคือการไปศึกษาอย่างถ่องแท้ในสถานการณ์และจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน และวิเคราะห์ออกมาจนละเอียด มองหาทางใหม่ ๆ ที่ไม่ยึดติดกรอบเดิมในการเอาชนะตลาดขึ้นมาได้ หลายครั้งกลยุทธ์ทางการตลาดเกิดขึ้นจากคำถามนี้คือ ใครจะเป็น Target เรา, เราจะชนะตลาดได้อย่างไร และ ทำอย่างไรที่เราจะมีกลยุทธ์หรือมีวิธีการทำการตลาดจากคนอื่น

 

3. วางยุทธวิธีให้เข้ากับกลยุทธ์ของตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ Claudio Ranieri หลังจากวิเคราะห์ปัญหาและมีกลยุทธ์ที่จะใช้แล้วนั้น เค้าก็วางยุทธวิธีหรือ Tactics ที่จะใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่จะชนะในการแข่งทุกนัด ซึ่งยุทธวิธีที่ใช้คือการวางบอลยาว เพื่อเล่นเกมที่เร็วขึ้นจนคู่แข่งตามไม่ทัน ซึ่งนักเตะจะทำการเกาะคู่แข่งหรือประกบคู่แข่งจนไม่สามารถเล่นเกมตัวเองได้ และสามารถแย่งบอลกลับมาโต้กลับอย่างรวดเร็ว และ Claudio Ranieri  วางผู้เล่นที่จะเอาประตูมาให้ได้นั้นไปอยู่ในแดนหน้า เพื่อรอคอยบอลที่จะถูกโยนมาจากการตัดเกมของแดนกลางและแดนหลังของทีม

ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082
ภาพจาก http://www.bbc.com/sport/football/35553082

บทเรียนนี้จาก Claudio Ranieri คือยุทธวิธีหรือ Tactics Executions นั้นจะสามารถรู้ได้หรือวางเครื่องมือที่จะใช้ได้ หลังจากนักการตลาดมีกลยุทธ์ที่แน่ชัดแล้ว นักการตลาดหลายคนในตอนนี้มีแต่การใช้เครื่องมือ แต่ไม่มีกลยุทธ์ในการใช้งานว่าจะใช้ไปเพื่ออะไร อย่างไร แล้วทำไมด้วย หลายคนไม่เคยมีกลยุทธ์ใหญ่ที่จะทำให้เครื่องมือนั้นใช้งานได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นักการตลาดไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากใช้ Content Marketing, Social Media Marketing หรืออื่น ๆ โดยปราศจากการเข้าใจกลยุทธ์ที่จะเข้าไปทำการตลาดและการสื่อสาร

20151207191513-2

จะเห็นได้ว่าการคิดตามลำดับ การวิเคราะห์ปัญหาให้เข้าใจ และการมีกลยุทธ์ที่เฉียบขาดแบบคิดนอกกรอบนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้คนตัวเล็กชนะคนตัวใหญ่ได้ มองหาความได้เปรียบ ความเสียเปรียบของตัวเอง และไปเล่นในเกมที่เราได้เปรียม อย่าไปเล่นในเกมที่เหล่าเสียเปรียบ

Copyright © MarketingOops.com


  • 66
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ