มาถึงตอนนี้ หลายๆ สื่อเริ่มที่จะหยุดเปรียบเทียบ Social Network เว็บไซต์ระหว่าง Myspace กับ Facebook อีกแล้ว เพราะตั้งแต่ต้นปี 2009 ที่ผ่านมา จำนวนคนใช้ Facebook นั้นเพิ่มขึ้นแบบฉุดกันไม่อยู่เลยเลยทีเดียว ในขณะที่ตัวเลขอ traffic ของ MySpace ยังลดลงเรื่อยๆ และแถมล่าสุดยังมีข่าวปลดพนักงานของ Myspace อีก
ในขณะเดียวกันของปีนี้ Twitter ก็เรียกกระแส Micro-blogging ที่โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในอเมริกาและลามมายังประเทศต่างๆ ด้วยอัตราการเติบโตชนิดทำลายสถิติ online กันอย่างน่าตะลึง
ทีนี้ บนดินแดน Social Network คู่ที่กำลังสูสีกันมาก็คือ Facebook และ Twitter ทำให้หลายคนเริ่มสังเกตการเติบโตของทั้งสองเว็บไซต์ และตั้งข้อสังเกตุกันแล่วว่า ‘ใคร Popular กว่ากัน’
ภาพ Graphic ที่นำมาแชร์ครั้งนี้ เราได้จาก @TrendTracker ที่ Tweet เอาไว้ใน Twitter ของเค้า ภาพที่ว่านี้ทำขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบการเติบโตและความ popular ของทั้งสอง social network
หากเปรียบเทียบถึงข่าวที่สื่อต่างนำเสนอนั้น สามเดือนที่ผ่านมา Twitter เรียกได้ว่าเป็น The Most Popular Topic ของปีนี้ก็ว่าได้ (บ้านเรายังอาจจะเป็น Hi5 กับ Facebook)
ข้อมูลเปรียบเทียบเบื้องต้น
- หากจัดเป็นอันดับทั่วโลก Facebook มาอันดับ 5 ส่วน Twitter อยู่อันดับตั้ง 75
- Facebook เกินวันที่ 23 Mar 1997 ส่วน Twitter เกิดวันที่ 21 Jan 2000 – Facebook แก่กว่า 3 ปี!!
- จำนวนเว็บไซต์ที่ส่ง link มายัง Facebook มี 258,619 ส่วน Twitter มี 169,785
–
เปรียบเทียบการใช้งานของ Users
จากกราฟด้านบน เห็นได้ชัดว่า Twitter ยังคงสู้ Facebook ในแง่ของผู้ใช้จากต่างประเทศไม่ได้ (ประเทศอื่นนอกเหนือจาก America) แต่หากเปรียบในเรื่องของเวลาที่ Users ใช้บริการล่ะก็ Twitter นำแบบเห็นๆ
–
Did you know?
- Facebook มี active users (users ที่ใช้งานเป็นประจำ) ถึง 200 ล้านคน
- Twitter ของ Obama มีผู้ติดตามถึง 793,141 followers
- มีคนใช้ Facebook มากถึง สามพันห้าร้อยล้านนาทีต่อวัน !!
- มากกว่า 50% ของคนใช้ Twitter นิยมใช้ Twitter ช่วงวันธรรมดา มากกว่า วันสุดสัปดาห์
- มีรูปภาพถึง 850 ล้านภาพต่อเดือน ที่ถูกอัพโหลดไว้บน Facebook
- มีมากถึง 70% ของผู้ใช้ Twitter ที่เริ่ม join ในปี 2008
–
มูลค่าของทั้งสองเว็บ
Microsoft ซื้อหุ้นของ Facebook ที่ 1.6% มูลค่าถึง 240,000,000 เหรียญสหรัฐ ส่วน Twitter นั้นเคยถูกตั้งมูลค่าไว้ที่ 250,000,000 เหรียญสหรัฐ
ถ้าเข้าใจไม่ผิด แบบนี้ Facebook ก็ต้องแพงกว่าสิ ?!?
–
Source: @TrendTracker, Gilmore Business Network