KLM ใช้ทั้ง Social Media + Content Marketing สุดเจ๋ง ช่วยทั้งลูกค้าและว่าที่ลูกค้าขึ้นเครื่องอย่างแฮปปี้ที่สุด

  • 12
  •  
  •  
  •  
  •  

2014-11-26_08-42-33

หากถามว่าสายการบินไหนในวันนี้ถือว่าเป็น Internet Savvy มากที่สุด คำตอบคงต้องเป็น KLM ที่พยายามหาสารพัดกิจกรรมมาร่วมสนุกและได้ใจลูกค้า เช่น เปิดบ้านเครื่องบินให้พักฟรี ใช้กระจกวิเศษแจกตั๋วฟรีให้กับคนต่างเมือง ฯลฯ (ดูกิจกรรมทั้งหมดของ KLM ได้ที่นี่)

และล่าสุดทีมงานสร้างแคมเปญชื่อ #HappytoHelp เพื่อที่มีเป้าหมายให้แบรนด์ KLM เข้าไปเชื่อมโยงกับทุกการเดินทาง ให้ราบรื่นและปลอดภัยที่สุด และที่สำคัญคือ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นลูกค้าที่บินกับ KLM หรือไม่ก็ตาม

2014-11-26_08-54-57

วิธีการคือ ทีมงานสร้าง War room ขนาดใหญ่ (ในสนามบิน schiphol ที่เนเธอร์แลนด์) ที่นอกจากจะช่วยเหลือคนที่เดินเข้ามาถามไถ่ด้วยตัวเองแล้ว ภายในเต็มไปด้วยพนักงานที่อยู่หน้าจอคอม โดยทุกคนจะทำหน้าที่ติดตามคีย์เวิร์ดที่ต่างกันในโลกโซเชียลที่คนทั่วโลกโพสต์ข้อมูล โดยคีย์เวิร์ดเหล่านี้ก็เลือกแล้ว่าสอดคล้องกับการเดินทาง เช่น delayed, boarding, forgot passport, airport เป็นต้น

2014-11-26_08-55-26

จากนั้นเมื่อพบว่าใครโพสต์ปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวกับการเดินทาง ทีมงานก็จะรีบติดต่อกลับ เพื่อให้ความช่วยเหลือ เช่น ช่วยไปรับพาสต์ปอร์ตของคนที่ลืมไว้ที่โรงแรม ช่วยเปลี่ยนเครื่องประดับที่ซื้อจากในเครื่อง (แล้วใส่ไม่ได้) ช่วยคู่รักหาเครื่องดื่มแชมเปญเหมาะๆ สำหรับการเดินทางฮันนีมูน หรือหาที่นอนสำหรับผู้ที่ติดค้างในสนามบิน เป็นต้น

2014-11-26_08-42-00

2014-11-26_08-57-09

และนี่คือวิดีโอโชว์ความเจ๋งของกิจกรรม #HappytoHelp โดยไม่ว่าการช่วยเหลือแบบไหนๆ ก็จะถูกถ่ายวิดีโอและนำขึ้นยูทูบเพื่อโชว์คนทั้งโลกว่า KLM ใจดีและใส่ใจลูกค้าขนาดไหน?

httpv://youtu.be/ef7n2s3j-BU

ตลอดวิดีโอนี้คนที่จะกลายเป็นเหมือนนางฟ้าคือ ผู้ที่ใส่ชุดสีฟ้า ที่คอยให้ความช่วยเหลือคนในทุกสถานการณ์ ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ พนักงานของ KLM นั่นเอง ซึ่งการได้ให้ความช่วยเหลือในยามที่จำเป็นได้สำเร็จ ย่อมทำให้ไม่ว่าใครก็ตามได้รับความช่วยเหลือ ย่อมจดจำผู้ช่วยได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับ KLM นั่นก็หมายถึงภาพลักษณ์ที่ดีที่สุดในสายตาลูกค้าและผู้ที่อนาคตอยากจะเป็นลูกค้านั่นเอง

แหล่งข่าว 


  • 12
  •  
  •  
  •  
  •  
mengxi
เพราะชอบหลบร้อนไปพักที่ห้องสมุดวารสารฯ เป้าหมายคือหยิบหนังสือ One show เล่มโตมาปราดดูโฆษณาเจ๋งๆ จากทั่วโลก เลยมาถึงวันนี้...วันที่เป็นคอลัมน์นิสต์และบล็อกเกอร์มานับทศวรรษ แต่ก็ยังสนุกกับการนำกรณีศึกษาใหม่ๆ ล้ำๆ ของวงการโฆษณา ทั้ง Offiline, Online, Mobile มาแบ่งปันกับคนคอเดียวกัน!