DoubleMint

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

double-mintWrigley เผยถึงตลาดลูกอมในเมืองไทยมีการแข่งขันสูงเพราะมีผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยเฉพาะการเล่นเรื่องราคาของตลาดระดับกลางลงล่าง และเศรษฐกิจที่ไม่ดีด้วย ส่งผลให้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมเติบโตเพียง 7-8% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 6,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ศักยภาพของตลาดลูกอมในเมืองไทยยังมีแนวโน้มที่ดี เพราะเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง และเป็นลูกอมที่ทานเล่นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในตลาดระดับบน พบว่า ยังมีช่องว่างอีกมาก บริษัทจึงตัดสินใจเข้าสู่ตลาดลูกอมแบบแข็ง ด้วยการส่ง “ดับเบิ้ลมินต์ มินต์” ลูกอมมินต์ปราศจากน้ำตาล ลงตลาดประเทศไทย มี 2 รสชาติ คือ เปปเปอร์มินต์ และ วินเทอร์ฟรอส จับกลุ่มทำงานระดับบน ก่อนหน้านี้ได้ทำตลาดในประเทศอื่นๆ มาแล้ว

แผนการตลาด

บริษัทจะใช้งบ 60 ล้านบาท เลือกใช้สื่อทีวี ออกหนังโฆษณาชุดใหม่ โดย “อนันดา เอฟเวอร์ริ่งแฮม เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผ่านรูปแบบหนังรักโรแมนติก โดยแสดงถึงคุณสมบัติของเม็ดอม โดยคาดหวังที่จะสร้างเซ็กเม้นท์ใหม่ขึ้นมา คือ กลุ่มเพรสมินท์ ลูกอมที่อัดเม็ด ให้ความสดชื่น

ทำให้ขณะนี้สินค้าของดับเบิ้ลมินต์ในไทยมี 2 กลุ่ม คือ หมากฝรั่งและกลุ่มเม็ดอมมินต์ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด โดยในส่วนของกลุ่มหมากฝรั่งดับเบิ้ลมินต์ ปีนี้บริษัทฯยังรักษาแชร์เป็นอันดับที่สอง

ส่วนแบ่งตลาด

ปัจจุบันตลาดนี้คาดว่า จะมีประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ดับเบิ้ลมินต์เข้าตลาดแล้ว คาดว่า จะช่วยผลักดันให้ตลาดรวมไปอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทได้ ซึ่งผู้นำตลาดขณะน้คือ ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ส่วนแบ่ง 38% อันดับสอง คือ คลอเร็ท ส่วนแบ่ง 20% และบริษัทฯคาดหวังจะเป็นอันดับที่สาม คือ มีแชร์ 15% ขณะที่อันดับที่สี่คือ สมิ้นต์ มีแชร์ 10%

หลังจากเข้าสู่ตลาดลูกอมแบบแข็งในปีนี้ คาดว่า รายได้รวมทั้งปีจะเป็น 1,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น ซูกัส 400 กว่าล้านบาท เติบโต 10% กลุ่มหมากฝรั่งรายได้ 400 กว่าล้านบาท เติบโต 10% และดับเบิ้ลมินต์ 150 ล้านบาท ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ราว 800 ล้านบาท แบ่งเป็น ซูกัส และหมากฝรั่งเท่ากัน อย่างละ 400 ล้านบาท

Source: ASTV ผู้จัดการออนไลน์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •