แม้ความนิยมของ “ไมโคร บล็อกกิ้ง” อย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊คจะดังเป็นพลุแตกในยุคนี้ หากแต่ยุคต้นตำรับของ “ไดอารี่ ออนไลน์” ไม่มีใครไม่รู้จักบล็อก (Blog) พื้นที่ว่าง กว้างขวาง ไร้ขีดจำกัด จะเขียนเรื่องให้ยาวเป็นซีรีส์ หรือจะอัพเดทรูปแบบหลายอัลบั้ม พื้นที่จับจองมีให้เหลือเฟือ
ใครจะรู้ว่าวันนี้ “บล็อก” เดินทางมาครบรอบปีที่ 10 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!
130 ล้านบล็อก คือ ตัวเลขของจำนวนบล็อกทั่วโลกในปัจจุบัน และช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีบล็อกเกิดใหม่กว่า 7.4 ล้านบล็อก เฉลี่ยมีบล็อกใหม่เกิดขึ้นทุกวินาที ขณะที่ คนเล่นอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังไม่ลืมบล็อก เพราะกว่า 73% ยังนิยมอ่านเรื่องจากพื้นที่ส่วนตัวแบบฉบับไม่จำกัดตัวอักษรอย่าง “บล็อก” กันอย่างต่อเนื่อง
บล็อกเกอร์ไม่มีวันตาย
พูดถึง “บล็อก” ก็ต้องพูดถึง “บล็อกเกอร์” (Blogger) หนึ่งในสินทรัพย์สำคัญของ “กูเกิล” วันนี้ มีสมาชิกบล็อกเกอร์ทั่วโลกมากกว่า 184 ล้านบล็อก เกิดอะไรขึ้นกับ “บล็อกเกอร์” ในยุคที่ ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค (โคตร) ฮิต???
“พรทิพย์ กองชุน” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย กูเกิล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยืนยันว่า ไม่ว่าทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค จะฮิตขีดสุดแค่ไหนแต่ “บล็อกเกอร์” ก็ยังคงอยู่ หากคิดเป็นจำนวนคำที่เขียนในบล็อก ทุกๆ นาที มีคำมากกว่า 270,000 อยู่บนพื้นที่แห่งนี้ หรือคิดเป็น 388 ล้านคำต่อวัน
“แม้ความนิยมของไมโคร บล็อกกิ้งจะพุ่งสูง แต่จำนวนคนใช้บล็อกกลับไม่ลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่มีใครบอกว่าบล็อกล้าสมัยเลย หลายคนชอบพื้นในบล็อก เพราะเขาสามารถเล่าเรื่อง เขียนข้อมูลต่างๆ ได้บนพื้นที่ที่ไม่จำกัด ถือว่าบล็อกเป็นจุดกำเนิดคอนเทนท์ขนาดใหญ่ เป็นความหมายของการสร้างคอนเทนท์โดยผู้ใช้งานอย่างแท้จริง”
10 ปี 10 ฟีเจอร์ใหม่
“พรทิพย์” บอกว่า ในวาระครบรอบ 10 ปีของบล็อก บล็อกเกอร์ได้อัพเดทบริการใหม่ๆ ให้แฟนๆ ทั่วโลก รวมถึงแฟนบล็อกเกอร์ในไทยทั้งหมด 10 บริการ เน้นความสามารถให้เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ หรือดีไวซ์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น ไอคอนบล็อกเกอร์บน “ไอโฟน” ให้คนใช้ไอโฟนอัพเดทเรื่องจากหน้าจอไอโฟนได้ทันที
“หนึ่งใน 10 ฟีเจอร์ใหม่ คือ การเชื่อมโยงบล็อกเกอร์ เข้ากับโซเชียล มีเดียอื่นๆ ทุกครั้งที่มีเพื่อนในเครือข่ายอัพเดทข้อมูลบนโซเชียล เว็บ บล็อกเกอร์จะทราบทันที ขณะที่ คุณต้องการอัพเดทบล็อกของคุณให้เพื่อนๆ บนโซเชียล เว็บทราบ ก็สามารถคลิกอัพเดทผ่านหน้าจอบล็อกเกอร์ได้เช่นกัน”
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่เอี่ยมอย่าง “From Blog to Book” บริการให้บล็อกเกอร์ที่ต้องการนำเรื่องของตัวเองมาจัดทำเป็นรูปเล่มหนังสือ สามารถคลิกใช้บริการนี้ได้ทันทีด้วยตัวเอง
“ที่ยังเป็นจุดเด่นของบล็อกเกอร์ คือ เจ้าของยังสามารถหารายได้จากการนำเอากูเกิล แอดเซนส์ ไปติดไว้ที่หน้าบล็อกของตัวเอง นั่นหมายความว่าเจ้าของบล็อกจะต้องครีเอทเรื่องราวให้น่าสนใจ กระทั่งมีคนเข้ามาคลิกอ่านเป็นจำนวนมาก มีกรณีศึกษาของเจ้าของบล็อกเกอร์คนไทยเป็นคนพิการ เขาเขียนเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน จนวันนี้เขาสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนท์ที่น่าสนใจในบล็อกเขา”
เธอ บอกว่า เสน่ห์การอัพเดทเรื่องราวผ่าน ไมโคร บล็อกกิ้ง และบล็อกนั้น “ต่างกัน” แล้วแต่คนจะชอบ ไม่มีใครบนโลกนี้ชอบอะไรเหมือนกันทั้งหมด มีคนกลุ่มใหญ่ยังนิยมเขียน บรรยายความรู้สึก ข้อเท็จจริงแบบยาวๆ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง บอกว่า ชอบเขียนอะไรสั้นๆ กระชับๆ
เอสเอ็มอียังชอบ “บล็อก”
มีสถิติที่น่าสนใจ ระบุว่า เฉลี่ยแล้วเจ้าของธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เข้ามามีส่วนร่วมบนโลกของโซเชียล มีเดียมากขึ้น จำนวนนี้กว่า 41% ใช้ทวิตเตอร์ และมากกว่า 53% ใช้พื้นที่ของบล็อกเป็นประจำ
“50% ของคนอ่านบล็อก บอกว่า บล็อกมีประโยชน์กับเขามาก โดยเฉพาะเป็นข้อมูลสำหรับพิจารณาเลือกซื้อสินค้า คนส่วนใหญ่ บอกด้วยว่าจะเข้าไปอ่านบล็อกทันที หากกำลังตัดสินใจจะซื้อสินค้า”
พรทิพย์ ยอมรับว่า ทั้งทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค มีอิทธิพลสำคัญทำให้ต้องปรับบริการบล็อกให้ดูทันสมัย และมีอะไรใหม่ๆ มากขึ้น
“พอดีครบรอบ 10 ปี ของบล็อก เราก็เลยอยากหาของขวัญ หรือบริการใหม่ๆ ให้กับชาวบล็อกเกอร์ได้ใช้กัน บล็อกเกอร์ยุคใหม่ต้องเข้าถึงได้ง่าย ทุกที่ ทุกดีไวซ์ ต้องสามารถเชื่อมโยงกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่คนไทยใช้ในปัจจุบันได้ บล็อกเกอร์ ถือเป็นหนึ่งในบริการยอดฮิตของคนไทยรองๆ จาก กูเกิล เสิร์ช, กูเกิลแมพ ซึ่งเราพยายามที่ให้ความสำคัญกับบริการที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด”
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
