ประสบการณ์จริงกับ Samsung Galaxy S

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสทดลองใช้โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S   โทรศัพท์มือถือที่ถูกขนานนามว่าเป็น “สุดยอด Android Phone’ ในช่วงเวลานี้    และยังเป็นโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัตการ Android เครื่องแรกที่ Tukko ได้เคยใช้งานเลยก็ว่าได้   แน่นอนว่าการทดลองใช้ครั้งนี้  ไม่ได้ใช้กันฟรีๆ แน่  และสัญญากับทาง Samsung ว่าจะ Review การใช้งานโทรศัพท์เครื่องนี้ให้กับผู้อ่าน Marketing Oops!  แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยตรงนี้   ว่าการรีวิวครั้งนี้   จะไม่ขอบอกว่า Samsung Galaxy S มี Spec อย่างไร หรือ เครื่องเป็นยังไง   แต่อยากจะขอรีวิวการใช้งานที่เหมาะกับไลฟสไตล์คนใช้โทรศัพท์มือถือในยุค Social Network และยุคที่ Mobile Internet แทน   เพราะสำหรับ Marketing Oops! เราเชื่อว่า Spec ของเครื่องและรูปร่างหน้าตาของโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว  คงไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานกันอย่างแท้จริง

Smartphone เดี๋ยวนี้ออกกันมามาก Tukko เองก็ใช้มาหลายรุ่น ตั้งแต่ Palm OS, Windows mobile ตั้งแต่สมัย O2 กับฮิตกันอย่างแรง ทั้งเครื่องเล็กเครื่องใหญ่  จนมาถึงยุคของ Mobile Application และ BlackBerry Chat

ส่วนตัวแล้วมีโทรศัพท์ใช้อยู่ 2 เครื่อง คือ iPhone และ BB เหตุผลที่ถือสองเครื่องก็เพราะการใช้งานของสองเครื่องนี้แตกต่างกัน และหากถือ iPhone หรือ BB เครื่องใดเครื่องเดียว ก็จะไม่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แท้จริงของตัวเองได้  ที่ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งกับเรื่องงาน (ที่ยุ่งสุดๆ) กับเรื่องส่วนตัว (ที่ entertain กันให้เต็มที่)

เมื่อได้ Samsung Galaxy S มาใช้งาน  ทำให้ 2 สัปดาห์แห่งการทดลองนั้น ต้องหยุดการใช้งานของ iPhone และ BlackBerry กันไปก่อนเลย  เพื่อการใช้งานที่สมจริง 2 สัปดาห์นั้น จึงใช้งานโทรศัพท์เครื่องเดียวคือ Samsung Galaxy S

Samsung Galaxy S กับประสบการณ์จริง 2 สัปดาห์

วันแรกที่ได้เครื่องมา  บอกได้เลยว่ายังงงๆ กับการใช้งานอยู่บ้าง เนื่องจาก หน้าจอ และการใช้งานผ่านปลายนิ้วสัมผัสนั้นถือว่า..ระบบสัมผัส และการทำงานเร็วมาก!  อีกอย่างคือ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่เคยใช้ Samsung มาก่อน ทำให้การใช้งานต้องปรับตัวเล็กน้อย ประมาณ 2 ชม.

สิ่งที่สะดุดตาได้อย่างแรกจาก Samsung Galaxy S คือ ด้านหลังเครื่องมี logo ของ Google เด่นเชียว  ทำให้เหมือนยิ่งตอกย้ำว่า Google เอาจริงกับ Android นะเนี่ย   อีกอย่างที่สะดุดตาก็คือ “หน้าจอ” คือแบบ… Background ที่เรามักจะหา Wallpaper มาใส่กันนั้น  ของ Galaxy S จะแตกต่าง เนื่องจาก Wallpaper หรือ Background นั้นเป็นแบบเคลื่อนไหวได้ มีมิติ  สีสรรสด และยังสามารถใส่ Screensaver ได้ด้วย

หากพูดถึงารใช้งานโดยทั่วไป จะไม่ต่างจาก iPhone เพราะหน้าจอจะมี Applications วางในลักษณะเดียวกัน และการใช้งานก็ไม่ต่างกัน  เพียงเปิด Application หรือ Download Applications มาก็ใช้งานได้ตามปกติของ iPhone  จะต่างก็ตรงที่ต้อง Download App จาก Android Market แทน  ส่วน Samsung ก็ได้ผลิต Applications ต่างหากมาให้ download กันฟรีๆ เช่นกันที่ SamsungApps (Apps Store ขอ Samsung โดยตรง)

7 Features และ Applications เด่นๆ โดนๆ ของ Samsung Galaxy S

ถ้าต้องใช้ Smartphone ในยุคนี้ Applications ต้องโดนจริงมั้ย เพราะ Applications นั้นสามารถบอกลักษณะการใช้งาน และบอกความเป็นตัวตนของเราได้ และต้องทำให้เราสะดวกมากขึ้นกับการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และความบันเทิงในแบบที่เจ้าของเครื่องต้องการ  ซึ่งหมายถึงความสะดวกสำหรับการทำงาน และความสนุกสนานยามต้องการความบันเทิง 

1) Layar Reality Application
สิ่งที่ประทับใจที่สุดสำหรับการใช้งาน Samsung Galaxy S  ต้องขอ Thumb up ให้กับ Layar  เพราะการใช้งาน Layar บน Galaxy S นั้นให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง คือ เหมือนกับที่เราได้เห็นการใช้งาน Location Based Technology ของต่างประเทศเลย  จากที่ได้ทดลองคือ ใช้ Layar ของ AIS ที่มีร้านค้าที่พันธมิตรมากกว่า 500 ร้านค้า  ซึ่งเราสามารถส่งหาร้านค้าในระยะทาง 5-10 กม. ว่ามีที่ร้านไหนอยู่ในระแวกที่เรายืนอยู่บ้าง  หากเป็น iPhone ร้านค้าเหล่านี้ จะถูกแสดงแบบ basic คือ list รายการร้านค้า บอกตำแหน่งแผนที่ และ options สำหรับคลิกไปที่เว็บไซต์ คลิกเพื่อโทรไปที่ร้าน หรือคลิกเพื่อดูแผนที่ของร้าน  ซึ่ง Layar บน Galaxy S ก็เหมืนอกัน เพียงแต่เวลาเรานำตัวเครื่องโทรศัพท์ส่องไปที่ด้านหน้า  Logo ร้านค้าพร้อมรายละเอียดจะแสดงในลักษณะลอยตัว ทำให้ Layar บน Galaxy S ดูทันสมัยกว่า เก๋กว่า และสนุกกว่า

ลืมบอกไป..ว่า Samsung ได้ซื้อลิขสิทธิ์ข้อมูลตำแหน่งสถานที่สำคัญๆ จาก Tele Atlas  ซึ่งจะบอกตำแหน่งของ ATM, โรงแรม โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร และอื่นๆ ได้จาก Galaxy S เลย

2) HD Video
อันนี้คูลมากๆ  คือปกติจะใช้โทรศัพท์ดูหนังอยู่แล้ว  และเจ้า Galaxy S ก็มีตัวอย่างหนังให้ดูเพื่อพิสูจน์ความคมชัดของ HD Video ที่มีอยู่ในเครื่อง    อันนี้ถ้าใครได้ลองเป็นต้องร้อง “โห” ร้อง “หู” กันแน่นอน  เพราะภาพชัดยิ่งกว่าชัดเสียอีก  คือแบบชัดจนต้องปรับแสดงหน้าจอให้บางลง   ดูรายละเอียดของภาพยนตร์ถูกแสดงออกมาให้เห็นกันแบบชัดๆ เต็มๆ   บอกได้เลยว่าดู Avatar บน Galaxy S น่าจะชัดกว่าดูในโรงภาพยนตร์กันเลยทีเดียว  ไม่เชื่อ…ไม่ลองดูกันได้เลย  ไม่จริงมา comment ว่ากันได้เลย

3) Camera
เป็นคนที่ชอบถ่ายรูป ไม่แพ้ผู้หญิงคนอื่น  และการถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สะดวกที่สุดแล้ว  หากเทียบระหว่าง iPhone, BlackBerry กล้องของ Galaxy S เจ๋งกว่า ชัดกว่า ใสกว่า และ Zoom ได้ด้วยถึง x4   คือถ่ายแล้วจะชอบในทันที

4) ThinkFree
ด้วยความที่เป็นคนต้องทำงานตลอดๆๆๆ ทำให้ต้องลอง ThinkFree Application ว่าจะตอบโจทย์การทำงานแบบปัจจุบันทันด่วนได้รึเปล่า  ThinkFree บน Galaxy S  เป็น app ที่อนุญาติให้เรา upload files สำคัญๆ และ download ลงมาแก้ไขผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือได้ในทันดี   ทั้ง Word, Excel และ Power Point  เอามาแก้ไขผ่าน ThinkFree ได้ทั้งนั้น  แก้เสร็จ ก็อัพโหลดหรือส่งเป็น Email กลับไปที่เครื่องได้เลย   อันนี้เหมาะมาก เพราะต้องออกไปประชุม และ present งานข้างนอกบ่อยๆ  มี App นี้สร้างความอุ่นใจให้ได้เหมือนกัน

5) เชื่อม HD Video ต่อกับทีวี และเป็น Remote Control
ด้วยความที่ชอบทั้งการถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอ  ทำให้ชอบระบบ HD Video Recorder ของ Galaxy S ด้วย  เพราะเมื่อถ่ายเสร็จ  ก็ลองนำกลับมาต่อกับทีวีที่บ้าน และลองแปลงตัวเครื่องโทรศัพท์เพื่อมาใช้เป็น Remote Control กับทีวี  ก็ทำได้จริงๆ  อันนี้ก็ hi-tech ไปอีกแบบ

6) Aldiko Ebook
ด้วยความที่ไม่มี Kindle หรือ iPad เหมือนคนอื่น  Aldiko Ebook จึงเป็นอีกหนึ่ง Application ที่ทำให้ต้องลอง เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และฝันอยากได้ Ebook มาอ่านเหมือนที่เคยได้เห็นดารา Hollywood เค้าทำกัน     และก็ไม่ผิดหวัง เพราะสามารถ download Ebook มาอ่านก่อนนอนได้อย่างสมใจ   ติดแค่เพียงหน้าจอเล็กไปหน่อย ที่เหลือโอเคเลย

7) Mini Diary
สำหรับผู้หญิง น่าจะชอบ App Mini Diary ที่ชอบคือ เราสามารถเขียร diary หรือ note สั้นๆ  ในแบบที่มีภาพประกอบได้ พอเขียนเสร็จ เจ้า App Mini Diary นี้ก็จะจัดวางเป็น Diary เก๋ๆ วันต่อวันให้ทันที  จะเสียก็ตรงนี้ น่าจะเขียนได้ยาวหน่อย เพราะถ้าเจอคนชอบเขียน note หรือเขียน diary จริงๆ  พื้นที่อาจจะไม่พอ

ตอนนี้ Applications ของ Android ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 90,000  Applications ให้ download  และหากได้ติดตาม Marketing Oops! จะเห็นว่าเราได้อัพเดทกันล่าสุดว่า Android Applications ถูก download ไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านครั้ง

ข้อด้อยของ Galaxy S

เชื่อว่าคงไม่มีโทรศัพท์ที่ perfect ที่สุดในโลก  มีข้อดีก็ต้องมีข้อด้อย  สำหรับ Tukko  ที่ไม่ปลื้มมากกับ Galaxy S เห็นจะมีอยู่ 2 อย่างคือ

  • 1) ตัวเครื่องดูแมนไปหน่อย  ลักษณะเหมือนตอนเห็น iPhone ครั้งแรก  คือดูใหญ่ (แต่เบามาก)  แต่เพื่อนๆ ที่เห็นก็โอเค ไม่เห็นว่าอะไร  อันนี้ก็แล้วแต่คนว่าแบบไหนที่เรียกว่าเล็ก และแบบไหนที่เรียกว่าใหญ่
  • 2) Application เด่นๆ มี  แต่ยังคงต้องรอให้แบรนด์ดังๆ ออก Application ของ Android มาเพิ่ม  ทำให้ตอนนี้ยังสู้จำนวน App ของ iPhone ไม่ได้อยู่

สรุปการใช้งาน Samsung Galaxy S

สรุปก็คือ ชอบ… อยากได้  แต่พอทาง Samsung ทวงคืนก็ต้องคอตกไป  ใครที่กำลังต้องการซื้อ Smartphone มาใช้งานสักเครื่อง ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปที่ iPhone หรือ BlackBerry ลองหาเวลาแวะไปทดลองเล่น Galaxy S ดูก่อน เพราะระดับการใช้งานมีหลายอย่างที่เหนือกว่า  จะด้วยกว่าก็ที่จำนวน Applications ที่ยังมีจำนวนน้อยกว่า เนื่องจาก Android ออกมาช้ากว่า iPhone เท่านั้นเอง   แต่เชื่อว่าปีหน้าจะมี Applications ออกมาใหม่อีกเพืยบ  ที่มั่นใจก็เพราะการพัฒนา Applications บน Android นั้นง่ายกว่า iPhone เยอะเลย  ทำให้มีนักพัฒนาหลายคนให้ความสนใจ และกำลังเน้นการพัฒนา Application ไปที่ Android เพิ่มมากขึ้น


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ