• Home
  • Media & Advertising
  • Startups & SME
  • Jobs
  • Jobs List
  • Jobs Package
  • วิธีลงประกาศ
  • วิธีสมัคร company package
  • วิธีชำระ
  • Help
  • facebook.com
  • youtube.com
  • twitter.com
  • line.me
  • instagram.com
  • tiktok.com
  • rss

Marketing Oops!

Digital | Creative | Advertising | Campaign | Strategy
  • Biz & Marketing
  • Brand Movement
  • Creative Ad
  • Thai Ad
  • Global Ad
  • Video Ad
  • Media
  • Insider
  • Startups & SME
  • Podcast
Biz & Marketing news Brand Move Tech

ถึงเวลาพลิกโฉม! สรุป WWDC 2019 Apple โชว์ของรัว ๆ ทั้ง Dark Mode – iPadOS ใช้เมาส์ได้ – Mac Pro

June 4, 2019 Ms.นกยูง
788
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

apple-highlights-from-wwdc2019

เป็นธรรมเนียมทุกปี ที่ Apple จัดงาน WWDC (Worldwide Developers Conference) เพื่อโชว์ทิศทางทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของแต่ละปี จนกลายเป็นอีเวนท์ใหญ่ที่สามารถดึงดูดนักพัฒนาจากทั่วทุกมุมโลกมาชุมนุมกันได้มากที่สุดงานหนึ่ง ซึ่งเวที WWDC 2019 ในปีนี้ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะนอกจาก Apple จะโชว์ iOS13 ที่มาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ ๆ แถมด้วยประกาศแยก OS บน iPad ให้มี iPadOS เป็นของตัวเอง

เอาเป็นว่า เราจับเรื่องราวต่าง ๆ บนเวที WWDC 2019 มามัดรวม และสรุปให้คุณแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไปค่ะ ไปด้วยกัน…

“iOS13” กับ “Dark Mode” เอาใจคนชอบโทนสีทะมึน

ขอพูดถึง iOS13 ก่อนใครเพื่อน เพราะความพิเศษที่ Apple บอกว่ามาใหม่และจัดเต็มกับ OS เวอร์ชั่นนี้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้ภายในปีนี้ ก็คือเรื่อง Dark Mode, คุณสมบัติของกล้องและรูปภาพขั้นสูง, Sign In with Apple และการใช้งานแผนที่แบบใหม่หมดจด ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลจะเกิดขึ้นภายใต้การทำงานที่รวดเร็วขึ้น การเปิดแอปก็จะเร็วขึ้น ลดขนาดของแอปที่ดาวน์โหลดลงถึง 50% ส่วนการอัพเดทแอปเล็กลงกว่า 60% และทำให้ Face ID เร็วขึ้นกว่าเดิม

ส่วนเรื่องฟีเจอร์ Dark Mode คือ การทำให้สามารถใช้งาน iPhone ในโทนสีมืดได้นั่นเอง จริง ๆ ก็คือเหมาะกับการใช้งานในที่แสงน้อยแต่หากใครชอบโทนสีแนว Dark ก็เลือกใช้งานได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งระบบรวมถึงแอปที่มาพร้อมเครื่อง ขณะเดียวกัน Apple ก็ได้เปิดให้นักพัฒนาแอปสามารถนำไปผสานกับแอปของตนเอง เพื่อตั้งให้เปิดทำงานแบบอัตโนมัติหลังพระอาทิตย์ตกดินหรือเลือกกำหนดเวลาได้ด้วย

Dark Mode
ตัวอย่าง Dark Mode บน iOS13

“Machine Learning” ถูกนำมาใช้กับแอปรูปภาพ

ต้องถูกใจคนชอบถ่ายภาพแน่นอน เพราะ iOS13 ได้ยกระดับประสิทธิภาพแอปรูปภาพให้ดีขึ้น ทั้งการปรับแต่งคลังรูปภาพ การค้นหาภาพ การกรองภาพที่ซ้ำกันโดยอัตโนมัติ จากการนำ Machine Learning เข้ามาเสริมการใช้งาน ส่วนการปรับแต่งภาพก็ทำได้ง่ายกว่าเดิมด้วยเครื่องมือใหม่ ๆ แค่ใช้การ “ปัด” ก็สามารถเพิ่มหรือลดเอฟเฟกต์ได้ทันทีทั้งรูปภาพและวิดีโอ เรียกว่าหมุน ครอปตัด หรือใส่ฟิลเตอร์ ก็ทำได้ภายในแอป ขณะเดียวกัน iOS13 ก็ยังเพิ่มการปรับแต่งการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลในแอปกล้อง โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแสงเพื่อให้ดวงตาหรือใบหน้าของแบบสว่างและเรียบเนียนเสมือนจริง ทำให้เฉดสีในโหมดภาพถ่ายบุคคลใกล้เคียงกัน

ใช้แมปส์แบบ “Interactive” ผ่านมุมมอง 3D

เรียกว่าสร้างประสบการณ์ใหม่บนแอปแผนที่ก็ว่าได้ เพราะโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับ iOS13 นี้ Apple ระบุว่ามาจากการขับรถสำรวจกว่า 4 ล้านไมล์ เพื่อสร้างฐานแผนที่ใหม่หมดตั้งแต่ต้น! ไม่ใช่แค่ข้อมูลถนน แต่ยังรวมถึงข้อมูลทางเท้าและผืนดินแบบละเอียด แต่จะเริ่มต้นให้ใช้งานทั่วสหรัฐอเมริกาภายในปีนี้ และปีถัดไปสำหรับประเทศอื่น ซึ่งจุดเด่นก็อยู่ที่คุณสมบัติแบบ “Look Around” ซึ่งจะเป็นฐานแผนที่และรูปถ่ายแบบ 3D ความละเอียดสูง ทำให้ใช้งานแบบ Interactive ท่องไปบนแมปส์ได้สบาย ๆ แน่นอนว่าสวยงามขึ้นและลื่นไหลขึ้น

คุณสมบัติใหม่ Look Around บนแอปแผนที่
คุณสมบัติใหม่ Look Around บนแอปแผนที่

ปลอดภัยมากขึ้น แค่ใส่ “Apple ID” ก็เข้าแอปและเว็บได้

ตามปกติการใช้งานแอปและเว็บต่าง ๆ มักจะขอให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนอยู่แล้ว Apple เลยเปิดตัววิธีใหม่ Sign In with Apple ในการลงชื่อเข้าใช้แอปและเว็บซะเลย โดยระบุว่าใช้แค่ Apple ID ที่มีกันอยู่แล้ว เพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องใช้บัญชีโซเชียลมีเดีย โดย Apple จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยการมอบ ID แบบสุ่มไม่ซ้ำกัน! ทำให้ไม่ต้องกรอกอีเมลหรือข้อมูลส่วนตัวอื่นลงไป เพียงใช้แค่ ID ดังกล่าวกรอกลงไปแทน ทำให้ง่ายขึ้น ปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้ และเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นทั้งในกิจกรรมและแอปต่าง ๆ

แชร์เสียงระหว่าง AirPods

ช่วงนี้หันไปทางไหนก็เห็นคนใส่ AirPods ติดหูอยู่ไม่น้อย โดยล่าสุด Apple ได้ประกาศยกระดับการใช้งานด้วยคุณสมบัติใหม่ “แชร์เสียง” ระหว่างผู้ใช้ AirPods ทำให้สามารถแบ่งปันเสียงจากการชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงกับเพื่อนได้ทันที เพียงแค่นำหูฟังมาอยู่ใกล้กับ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS13

iPadOS
iPadOS

แยก “iPadOS” เพื่อใช้กับ iPad เท่านั้น

ถือเป็นครั้งแรกที่ iPad จะมี OS เป็นของตัวเอง หลังจากใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS มาตลอด ซึ่ง Apple พัฒนาออกมาในชื่อตรงตัวว่า “iPadOS” โดยนอกจากคุณสมบัติใหม่ ๆ เช่น หน้าจอโฮมใหม่, มัลติทาสก์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, วิธีใช้งาน Apple Pencil ใหม่ จากนี้ iPad ก็จะรองรับการใช้งานร่วมกับเมาส์ด้วยการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB-C เชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่คนใช้ iPad น่าจะแฮปปี้ที่สุดแล้ว

สำหรับใครที่สงสัยว่า iPadOS แตกต่างจาก iOS ยังไง…บอกได้เลยว่า “มาจากรากฐานเดียวกัน” แต่ iPadOS จะถูกเพิ่มความสามารถบางประการเพื่อรองรับการใช้งานบนจอภาพขนาดใหญ่นั่นเอง หรือการทำงานแบบหลาย ๆ หน้าต่าง เพื่อให้เห็นข้อมูลได้มากขึ้นบนหน้าจอโฮมแบบใหม่ ส่วนการใช้ Apple Pencil แบบใหม่ก็จะมาในรูปแบบการปัดจากมุมของหน้าจอ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติในการใช้งานมากขึ้นเพราะ Apple ใช้อัลกอริธึมคาดการณ์ขั้นสูงและการปรับค่าที่เหมาะสม

นอกจากนี้ Apple บอกว่าจากนี้การใช้งานบราวเซอร์ Safari จะแสดงผลในเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปแบบอัตโนมัติ โดยจะมีการปรับขนาดให้เหมาะสมกับจอภาพของ iPad และหน้าจอสัมผัส พร้อมทั้งรองรับคุณลักษณะใหม่ ๆ เช่น ตัวจัดการดาวน์โหลด ปุ่มลัดคีย์บอร์ดใหม่ 30 ตัว และปรับปรุงการจัดการแท็บ แน่นอนว่าเรื่องอื่นก็ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เช่น Dark Mode ก็ใช้งานได้บน iPad หรือการติดตั้ง Custom Font ไว้ใช้งานทั่วทั้งระบบสำหรับการสร้างเอกสารให้สวยงามบน รวมถึงคีย์บอร์ดลอยแบบใหม่ซึ่งประหยัดพื้นที่และรองรับ QuickPath ที่ช่วยให้การพิมพ์ด้วยมือเดียวง่ายขึ้นและเหลือพื้นที่ไว้แสดงแอปมากขึ้น และสามารถใช้ 3 นิ้ว เพื่อเปิดใช้งานคีย์บอร์ดลอยและลากไปที่ต่าง ๆ บนหน้าจอ

รุ่นไหนได้ไปต่อ! “iOS13 – iPadOS”

ผู้ที่ได้สิทธิ์อัพเดท iOS13 จะต้องใช้ iPhone 6s ขึ้นไป หมายความว่ารุ่นก่อนหน้า…อดไปต่อแล้วนะจ๊ะ! ซึ่ง Apple ยังระบุด้วยว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ iOS เข้าโปรแกรม Public Beta ได้หลังจากเดือนนี้ทาง beta.apple.com ส่วน iPadOS เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ iPad Air 2 ขึ้นไป รวมถึง iPad Pro ทุกรุ่น, iPad รุ่นที่ 5 ขึ้นไป และ iPad mini 4 ขึ่นไป สามารถใช้งาน iPadOS ได้ โดยตามกำหนดการระบุว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดราว ๆ กันยายน – ธันวาคม

voice recording on watchOS6
บันทึกเสียงบน watchOS6 ได้แล้ว

“watchOS 6” เติมเต็มด้านสุขภาพและฟิตเนส

โฉมใหม่ของ watchOS 6 ถูกเน้นไปที่การเพิ่มขีดความสามารถด้านสุขภาพและฟิตเนสให้กับ Apple Watch รวมถึงการพัฒนาคุณสมบัติใหม่อย่างการรองรับ “แอปเสียงบันทึก” และ “แอปการติดตามประจำเดือน” เพื่อทำให้สาว ๆ สามารถบันทึกข้อมูลและรู้ช่วงการมีประจำเดือนครั้งถัดไป ช่วงไข่ตก ผ่าน Apple Watch ได้เลย แถมคุณสมบัติดังกล่าวยังสามารถใช้งานได้กับ iPhone ที่ใช้ iOS13 ด้วย ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพนั้น Apple ยังได้เพิ่มแอปเสียงรบกวนเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานรู้ระดับเสียงในสภาพแวดล้อมของตนเองว่าส่งผลเสียต่อการได้ยินหรือไม่ โดยนาฬิกาจะแจ้งเตือนหากมีระดับเสียงถึง 90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อการได้ยินหากฟังเสียงระดับดังกล่าวนานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ watchOS 6 จะช่วยให้ผู้ใส่ Apple Watch สามารถเข้าถึง App Store ได้โดยตรง และนักพัฒนาสามารถสร้างแอปสำหรับ Apple Watch ได้โดยเฉพาะเพื่อทำงานอย่างอิสระไม่ต้องมีแอปจาก iOS มาเชื่อมโยง

“tvOS13 – macOS Catalina” แจ้งเกิดด้วย

บนเวที WWDC 2019 ยังได้แจ้งเกิดให้กับระบบปฏิบัติการ tvOS13 และ macOS Catalina อีกด้วย โดย tvOS13 จะทำให้ Apple TV 4K กลายเป็นอุปกรณ์ความบันเทิงที่ง่ายและเฉพาะตัวที่สุดสำหรับการรับชมรายการทีวี ภาพยนตร์ เพลง ภาพ ตลอดจนการเล่นเกมและแอปบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่บ้าน ขณะที่ระบบปฏิบัติการ macOS Catalina ก็จะทำให้ Mac สามารรถเชื่อมต่อกับ iPad ได้เป็นหน้าจอที่ 2 ด้วยฟีเจอร์ “Sidecar” กลายเป็นความสะดวกทั้งผู้ใช้ Mac และ iPad เองเพราะสามารถบันทึกข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้น และอีกจุดเด่นที่น่าสนใจคือการที่ macOS Catalina ทำให้เข้าถึงแอปมหาศาลบน App Store ได้แล้ว รวมถึงการแตกแอป iTunes ออกมาเป็น Apple Music Apple Podcast และ Apple TV นั่นเอง

new Mac Pro
Mac Pro ใหม่

“Mac Pro – Pro Display XDR” 2 ผลิตภัณฑ์บนเวที

ไม่ได้มีแค่เรื่องซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการ เพราะ WWDC 2019 มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น คือ “Mac Pro และ Pro Display XDR” ซึ่ง Mac Pro โฉมใหม่ถือเป็นเวิร์กสเตชั่นสุดล้ำที่ออกแบบใหม่หมด เหมาะสำหรับมือโปรที่ใช้ Mac การออกแบบจึงเน้นความเป็นที่สุดทั้งประสิทธิภาพ การต่อขยาย และการปรับแต่ง ด้วยโปรเซสเซอร์ Xeon ระดับเวิร์กสเตชั่นสูงสุด 28 คอร์, ระบบหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงที่มีความจุมากถึง 1.5TB, ช่องต่อขยายแบบ PCIe จำนวน 8 ช่อง และสถาปัตยกรรมกราฟิกซึ่งใช้การ์ดกราฟิกที่ทรงพลังที่สุดในโลก รวมถึง Apple Afterburner การ์ดเร่งความเร็วที่จะช่วยให้สามารถเล่นวิดีโอ ProRes RAW ความละเอียด 8K ได้พร้อมกันถึง 3 สตรีม ส่วน Pro Display XDR เป็นจอภาพ Retina 6K ขนาด 32 นิ้ว ที่รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และสีสันระดับ 10 บิต, ความสว่างสูงสุดที่ 1,600 นิต, อัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000:1 และยังมีมุมในการมองที่กว้างมาก ซึ่ง Apple ระบุว่าทั้ง 2 ผลิตภัณ์นี้จะพลิกโฉมการทำงานในระดับโปรไปโดยสิ้นเชิง

หากใครสนใจ Mac Pro โฉมใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 5,999 เหรียญสหรัฐ (ราว 190,000 บาท) ส่วน Pro Display XDR มีราคาเริ่มต้นที่ 4,999 เหรียญสหรัฐ (ราว 160,000 บาท) โดยทั้งหมดจะเปิดให้สั่งซื้อภายในปีนี้


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Related posts:

Default ThumbnailApple เปิดตัว iPhone SE รุ่น 2 สเปคสูงราคาท้าทาย เอาใจสาวก iPhone ในช่วงวิกฤติ COVID-19 Default Thumbnailหนึ่งตัวอย่างผลกระทบทางธุรกิจจาก Coronavirus ส่งให้ยอดขาย Apple ลดลง Default ThumbnailFacebook ห้ามพนักงานไปจีนถ้าไม่จำเป็น หลังหลายบริษัทในสหรัฐฯ ก็ห้ามเช่นกัน Default Thumbnailครบทศวรรษ! “iPad” แจ้งเกิดในตลาดแท็บเล็ต 10 ปี กับยอดขาย 450 ล้านเครื่องทั่วโลก Default Thumbnailเกาะเทรนด์ชีวิต 24 ชั่วโมง! “Apple” แปลงโฉมสาขา Fifth Avenue ด้วยดีไซน์ใหม่ แถมเปิดทั้งวันทั้งคืนที่แรก! หลังรีโนเวทนาน 2 ปี Default ThumbnailCEO บอกเอง! เป้าหมายของ Apple ไม่ได้หยุดอยู่แค่นวัตกรรมการสื่อสาร แต่เป็น Health Care
  • TAGS
  • Apple
  • Dark Mode
  • iOS13
  • iPadOS
  • Mac Pro
  • macOS Catalina
  • Pro Display XDR
  • Sign In with Apple
  • tvOS13
  • watchOS 6
  • WWDC 2019
  • แอปเปิล
Ms.นกยูง

LATEST STORIES

“Loyalty Program” ยุคค้าปลีกไร้พรมแดน ต้องเป็นมากกว่าแต้มสะสม แต่สร้าง “Global Partner – Experience-first”

June 30, 2025

“Piano & I คือข้าว ที่ไม่ว่าจะเอาไปกินกับอะไรก็อร่อย” โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ กับ Music Marketing ที่เชื่อมต่อระหว่างศิลปิน แบรนด์ และผู้ชม

June 30, 2025

AS Roma รวมใจแฟนบอลชาวโรม ใช้พลังเสียงสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินภาพ

June 30, 2025

เผยเทรนด์ ‘Self Splurge’ เปย์หนักเพราะรักตัวเอง ผ่านเศรษฐกิจคนโสด ‘Solo Economy’ ช้อปหนัก! เพื่อเสริมภาพลักษณ์ = การลงทุน ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย

June 30, 2025

‘ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ สนับสนุนพลังงานสะอาด ลดฝุ่น มุ่งสู่ NET ZERO ภายในปี 2593 ยกระดับ Last Mile Delivery ตั้งเป้าใช้รถขนส่งสินค้า EV กว่า 300 คัน

June 30, 2025

ถอดบทเรียนแคมเปญระดับเอเชีย: จาก Insight สู่ Impact ที่วัดผลได้จริง

June 30, 2025

วิธี Scale ธุรกิจ E-commerce สู่ระดับภูมิภาค บทเรียนจาก CP AXTRA และ ACommerce

June 30, 2025
VIEW MORE

MarketingOops!JOBS

View More

TRENDING STORIES

จากความใส่ใจสู่รางวัลแห่งความเป็นเลิศ: กลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นของ 17 ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ปี 2024

June 18, 2025
5,698

ดูโฮมเปิดเกมรุกสู่ผู้นำ! เปิดตัว “ราคาส่ง ครบ จบ ทุกเรื่องบ้าน” แคมเปญใหม่ที่ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดสินค้าก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง กว่า 4 ทศวรรษ

June 15, 2025
2,942

จาก “บัณฑิต” สู่ “ผู้นำรุ่นใหม่” พลังใหม่ขับเคลื่อน “Sea ประเทศไทย” ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านแพลตฟอร์ม

June 16, 2025
2,887

‘กสิกรไทย’ กับบทบาท ‘Progressive Enabler’ ที่ไม่เคยหยุดเดิน สู่ภารกิจผลักดันทุกเรื่องการเงินของคนไทยให้ไปได้อีก

June 17, 2025
1,597

‘Pruksa Healthy Living Market Fest’ บิ๊กมูฟแห่งแนวคิด ‘Wellness Residence’ สร้างชุมชนคุณภาพ ยกระดับประสบการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัย

June 11, 2025
1,499

‘ATIME’ เดินเกมพลิกโฉมจากวิทยุ สู่ ‘Entertainment Creator’ เติบโตทุกช่องทาง ‘รายได้-ผู้ฟัง-แพลตฟอร์ม’ ตอกย้ำความสำเร็จทั้ง ออฟไลน์-ออนไลน์

June 11, 2025
1,430

IKEA โชว์ปฏิวัติบรรจุภัณฑ์ จากถุงน็อตพลาสติกสู่กระดาษเพื่อโลก

June 18, 2025
940
VIEW MORE

BUSINESS CASE

JOURNAL เปิดเกมรุกตลาดบอดี้ออยล์ ทุ่ม 50 ล้าน ดึง “พีพี–กฤษฏ์” เป็นเสียงใหม่ของแบรนด์ พร้อมเป้าหมาย 500 ล้านในปี 2568

June 24, 2025

กลยุทธ์ 9 ปี เส้นทางการ “ปลดล็อกมูลค่า” ของดุสิตธานีภายใต้การนำของ ศุภจี สุธรรมพันธุ์

June 16, 2025

กรณีศึกษา “The Coffee Club” สลัดภาพ “ร้านแพง-ไกลตัวคนไทย” สู่ “Neighborhood Café” เข้าถึงลูกค้าไทย พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร

June 12, 2025

Wonderfruit ฉลอง 10 ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านศิลปะ-ธรรมชาติ-วัฒนธรรม สู่แพลตฟอร์มวัฒนธรรมตลอดปี พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรรอบพิเศษ 72 ชั่วโมง

June 6, 2025

AirAsia MOVE ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2568: เมืองรอง-ยืดหยุ่น-มีเป้าหมาย พร้อมรุกหนักตลาดไทยด้วยแนวคิด “Travel More for Less”

June 6, 2025
View More

PR NEWS

‘ศิริราช-กาญจนา’ เชิญชวนคนไทยร่วมสร้าง “โอกาสใหม่” ในคอนเสิร์ต “BIRD FANFEST 20XX” รอบการกุศล มอบ “โอกาส” ทางการรักษา ระดมทุนสร้างอาคารหอผู้ป่วยใน ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก

June 30, 2025

โฮมโปร ยกระดับประสบการณ์เรื่องบ้าน เปิดตัว ‘HOMECARD PRESTIGE’ สิทธิพิเศษเพื่อคนรักบ้าน พร้อมมอบเอกสิทธิ์ที่ ‘ใช่’ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในทุกไลฟ์สไตล์

June 30, 2025

“เซสปรี กีวี” เปิดตัวฤดูกาลใหม่อย่างยิ่งใหญ่! กับ Zespri KiwiBrothers™ Zesty Journey พร้อมเสิร์ฟความฟินผ่าน #ซีนุนิว ในแคมเปญปีที่ 3 #ZesprixZeeNuNew

June 30, 2025

Manao Software ฉลองครบรอบ 18 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์รายแรกในไทย ที่ได้รับการรับรองเป็นพันธมิตรระดับ Gold ของ ISTQB®  

June 30, 2025

ป.ป.ส. ชวนคนไทยกอดกัน สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ภายใต้โครงการ Hugs Against Drugs กอดกันด้วยใจ ปลอดภัยจากยาเสพติด (กอด ปลอด ยา)

June 27, 2025
View More
Marketing Oops! Facebook
  • facebook.com
  • youtube.com
  • twitter.com
  • line.me
  • instagram.com
  • tiktok.com
  • rss

MARKETING OOPS!

Advertise with us   |   Contact Us

MarketingOops.com was launched in Nov 2008, The number 1 leading digital media and advertising 's publisher in Thailand, to report on an emerging media and digital marketing industry.
The web site covers digital marketing, trends advertising, campaign creative ideas, media, mobile and technology.

Our Partners

Marketing Oops! | © Copyright All right reserved | Discliamer & Policy
Top
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และโฆษณาที่ท่านอาจสนใจเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์ของเราต่อไปโดยไม่ได้ปรับการตั้งค่าใดๆ เราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรายอมรับเรียนรู้เพิ่มเติม