Tupperware แบรนด์เครื่องใช้ในบ้านที่เป็นสัญลักษณ์ของการเก็บอาหารมากว่าเจ็ดทศวรรษ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด แม้จะเริ่มต้นด้วยการเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิดสนิทในปี 1946 แต่ Tupperware ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการจัดระเบียบในบ้านและการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิงหลายยุคสมัย อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติหนี้สินและยอดขายที่ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ Tupperware กำลังเตรียมตัวที่จะยื่นล้มละลาย ท่ามกลางการเจรจาที่ยืดเยื้อกับเจ้าหนี้ ซึ่งอาจเป็นการปิดฉากตำนานของแบรนด์นี้
จุดเริ่มต้นของ Tupperware
เรื่องราวของ Tupperware เริ่มต้นขึ้นในปี 1946 เมื่อเอิร์ล ทัปเปอร์ (Earl Tupper) นักเคมีผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ได้พัฒนาภาชนะพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อเก็บรักษาอาหารในสภาพปลอดอากาศเป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโพลีเอทิลีน (Polyethylene) ซึ่งเป็นวัสดุที่เหลือใช้จากการผลิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทัปเปอร์ได้สร้างฝาปิดที่สามารถ ‘ปิดสนิท’ เพื่อกักเก็บความสดของอาหารได้อย่างสมบูรณ์ นวัตกรรมนี้ไม่ใช่แค่เพียงภาชนะเก็บอาหาร แต่ยังเป็นวิธีใหม่ในการรักษาความสดของอาหารในบ้านเรือนยุคหลังสงคราม ที่ความสะดวกและทนทานกลายเป็นปัจจัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกสินค้าของ Tupper ไม่ได้ขายดีในห้างสรรพสินค้า ผู้บริโภคยังไม่คุ้นเคยกับแนวคิดการเก็บอาหารในภาชนะพลาสติกที่ปิดสนิท และไม่เชื่อมั่นในวัสดุชนิดใหม่นี้ ซึ่งปัญหานี้เองที่นำไปสู่การสร้างวิธีการจัดจำหน่ายแบบใหม่ที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ในภายหลัง
การเติบโตของงานปาร์ตี้ Tupperware
บราวนี่ ไวส์ (Brownie Wise) ผู้มีวิสัยทัศน์ทางการขายที่เป็นเอกลักษณ์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง Tupperware ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม ในปี 1950 ไวส์ได้แนะนำแนวคิดของ ‘ปาร์ตี้ Tupperware’ ซึ่งเป็นรูปแบบการขายตรงที่จัดขึ้นในบ้านเรือนของผู้หญิง โดยมีการสาธิตให้เห็นถึงวิธีการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคสามารถสัมผัสและทดลองใช้งานภาชนะได้จริงในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
วิธีการขายแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผลิตภัณฑ์ Tupperware ถูกยอมรับมากขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้แม่บ้านในยุคหลังสงครามได้มีโอกาสหารายได้เสริมในขณะที่ยังสามารถดูแลบ้านและครอบครัวได้ นอกจากนี้ ปาร์ตี้ Tupperware ยังสร้างความรู้สึกของการมีส่วนร่วมและความเป็นชุมชน ซึ่งทำให้ Tupperware กลายเป็นมากกว่าแค่เพียงแบรนด์ แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต
ภายในปี 1954 ยอดขายของ Tupperware พุ่งสูงขึ้น และบราวนี่ ไวส์กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ปรากฏตัวบนหน้าปกนิตยสาร Business Week ความสำเร็จของบริษัทนั้นไร้ขีดจำกัด และปาร์ตี้ Tupperware ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตในชุมชนชานเมืองยุค 1950
การขยายตัวทั่วโลกและความสำเร็จสูงสุด
ในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 Tupperware ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยประเทศต่างๆ ในยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกายอมรับแนวคิดของปาร์ตี้ Tupperware และแบรนด์นี้กลายเป็นสินค้าในครัวเรือนที่ได้รับความนิยมทั่วโลก บริษัทเปิดโรงงานผลิตในหลายประเทศเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
Tupperware ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเพิ่มสีสันและดีไซน์ที่ทันสมัย ซึ่งดึงดูดใจผู้บริโภคในวงกว้าง นอกจากนี้ Tupperware ยังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่เครื่องใช้ในครัวอื่นๆ เช่น ชามผสมอาหาร ถ้วยตวง และอุปกรณ์ครัวอื่นๆ ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าภายในบ้าน
ในทศวรรษ 1980 Tupperware ประสบความสำเร็จสูงสุด กลายเป็นบริษัทพันล้านดอลลาร์ และมีผู้หญิงนับล้านคนทั่วโลกเข้าร่วมการขายผ่านปาร์ตี้ Tupperware ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ ความสะดวก และวิญญาณแห่งผู้ประกอบการ
การเสื่อมถอยของ Tupperware
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 Tupperware เริ่มเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น หนึ่งในปัญหาหลักคือบทบาทของผู้หญิงในสังคมที่เปลี่ยนไป โดยในอดีตปาร์ตี้ Tupperware ดึงดูดแม่บ้านที่ต้องการงานเสริม แต่ในทศวรรษ 1990 และ 2000 ผู้หญิงจำนวนมากเริ่มเข้าสู่งานประจำมากขึ้น ทำให้การขายตรงที่ต้องอาศัยการรวมตัวกันที่บ้านเริ่มเสื่อมความนิยม
นอกจากนี้ Tupperware ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากแบรนด์เครื่องครัวอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่าและสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปสู่การซื้อสินค้าออนไลน์ทำให้รูปแบบการขายของ Tupperware ดูล้าสมัย
แม้ว่า Tupperware จะพยายามปรับตัวในยุคดิจิทัล แต่การเปลี่ยนแปลงก็ไม่สามารถช่วยกู้สถานการณ์ได้เพียงพอ ยอดขายเริ่มลดลงเรื่อยๆ และภาระหนี้สินก็เพิ่มขึ้น บริษัทเริ่มเผชิญกับความยากลำบากทางการเงินในช่วงปลายทศวรรษ 2010
ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ช่วยให้ยอดขายของ Tupperware เพิ่มขึ้น เนื่องจากครอบครัวต้องอยู่บ้านทำอาหารมากขึ้น และมีอาหารเหลือจำนวนมาก แต่ยอดขายก็ลดลงในไตรมาสหลังๆ เมื่อโลกเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
Tupperware ได้แสดงถึงความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลาหลายปี โดยในเดือนมิถุนายน 2024 บริษัทได้ปิดโรงงานแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกา และเลิกจ้างพนักงานเกือบ 150 คน ขณะที่เมื่อปี 2023 บริษัทได้เปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) จาก Miguel Fernandez และปรับเปลี่ยนสมาชิกคณะกรรมการหลายคนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพลิกฟื้นธุรกิจ โดยแต่งตั้ง Laurie Ann Goldman เป็น CEO คนใหม่
The party is over: การยื่นล้มละลาย
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 บริษัท Tupperware Brands Corporation ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ได้ยื่นขอความคุ้มครองจากการล้มละลาย โดยมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 818 ล้านดอลลาร์ และมีแผนที่จะขายกิจการ อย่างไรก็ตาม Tupperware เผชิญกับการคัดค้านจากกลุ่มผู้ให้กู้บางส่วนที่ต้องการยึดทรัพย์สินของบริษัทนอกกระบวนการล้มละลาย กลุ่มผู้ให้กู้เหล่านั้นเคยตัดสิทธิ์การเข้าถึงเงินสดจำนวน 7.4 ล้านดอลลาร์ของ Tupperware ซึ่งบริษัทได้ใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืม
ล่าสุด (25 กันยายน 2024) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Tupperware ได้บรรลุข้อตกลงระยะสั้นกับกลุ่มผู้ให้กู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการล้มละลายของบริษัท ข้อตกลงนี้ทำให้ Tupperware กลับมาเข้าถึงบัญชีเงินสดของตนเองได้อีกครั้งและสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานและจัดการค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่กำลังจะมาถึงได้
ทนายความของ Tupperware นาย Spencer Winters ได้กล่าวในระหว่างการพิจารณาคดีในศาลที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ว่าบริษัทกำลังพยายามหาข้อตกลงระยะยาวกับกลุ่มผู้ให้กู้ ในขณะที่การเจรจายังดำเนินต่อไป ผู้ให้กู้ได้อนุญาตให้ Tupperware ใช้เงินสดเพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม
ผู้พิพากษาศาลล้มละลายสหรัฐฯ Brendan Shannon ซึ่งดูแลคดีนี้ ได้อนุมัติข้อตกลงระยะสั้นดังกล่าว และได้สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานและตัวแทนจำหน่ายอิสระของ Tupperware
ตามเอกสารที่บริษัทส่งต่อศาล Tupperware มีพนักงาน 5,450 คน และทีมขายอิสระจำนวน 465,000 คน ที่ทำรายได้จากค่าคอมมิชชั่นในการขายผลิตภัณฑ์ของ Tupperware ในปี 2023 บริษัทจ่ายเงินเดือนพนักงานเฉลี่ยเดือนละ 2.6 ล้านดอลลาร์ และจ่ายค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยเดือนละ 2.4 ล้านดอลลาร์
Tupperware ระบุว่าสาเหตุของการล้มละลายเกิดจากยอดขายที่ลดลงมาเป็นเวลาหลายปี โดยบริษัทพึ่งพาตัวแทนขายอิสระมากเกินไป แทนที่จะปรับตัวเข้าสู่การขายออนไลน์หรือขายผ่านร้านค้าปลีก
ทนายความของ Tupperware นาง Gabriela Hensley ได้แจ้งต่อผู้พิพากษา Shannon ว่าจนถึงขณะนี้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินเดือนพนักงานล่าช้าได้ เพราะบริษัทได้ชำระเงินบางส่วนล่วงหน้าก่อนที่จะยื่นขอการคุ้มครองจากการล้มละลาย
Tupperware มีกำหนดจะกลับเข้าสู่ศาลล้มละลายในวันที่ 11 ตุลาคม 2024 เพื่อขอคำสั่งศาลระยะยาวเพิ่มเติมที่อนุญาตให้บริษัทเข้าถึงบัญชีเงินสดของตนต่อไป
มรดกของ Tupperware
แม้ว่าที่สุด Tupperware จะล้มละลายหรือไม่ก็ตาม แต่มรดกของแบรนด์ยังคงอยู่ Tupperware ได้ปฏิวัติวิธีการเก็บรักษาอาหาร และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงทั่วโลกสามารถเข้าถึงการทำธุรกิจด้วยการขายตรง ปาร์ตี้ Tupperware อาจจะไม่ใช่กิจกรรมหลักในบ้านอีกต่อไป แต่แนวคิดการขายแบบชุมชนนี้ยังคงมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์การขายของบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ภาชนะ Tupperware ยังคงเป็นที่จดจำและชื่นชมในด้านคุณภาพและนวัตกรรม หลายบ้านยังคงใช้ภาชนะ Tupperware รุ่นเก่าที่เป็นสัญลักษณ์ของความทนทานและประสิทธิภาพ
เรื่องราวของ Tupperware เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค เทคโนโลยี และแรงกระตุ้นทางการตลาดที่สามารถส่งผลต่อความสำเร็จของแบรนด์ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ ถึงแม้ Tupperware จะล่มสลาย แต่แบรนด์นี้จะยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการคิดค้นนวัตกรรมและการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งในประวัติศาสตร์ของธุรกิจอเมริกันต่อไป
ที่มา: tupperwarebrands.com , Reuters