Major Group พลาดแรง! กับการเล่นกระแส #KaimookBNK48 บทเรียนสำคัญของ Realtime Marketing

  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •  

ในการทำ Real time Marketing อย่างที่หลายคนคงทราบดี การเกาะกระแสให้ไว การตัดสินใจให้เฉียบขาด บวกความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไปก็ทำให้เกิดงานปัง งานไวรัลได้ แต่ถ้าทำไว ทำเร็วเกินไป จนขาดความรอบคอบ หรือไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนดีพอ หรือผิดที่ผิดเวลา บางทีก็อาจจะเกิดความพลาดพลั้งได้ ดังเช่นดราม่าสดๆ ร้อนๆ ที่เกิดกับ เพจ Major Group

สำหรับคนที่ตามดราม่านี้ไม่ทันเราขออนุญาตไล่เรียงให้ฟังคร่าวๆ แบบนี้ เรื่องเกิดจากการ “ไข่มุก” หรือ “คุณไข่” หนึ่งในสมาชิก BNK48 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองถึงเรื่องราวการ Cyberbullying ในอินเตอร์เน็ต โดยยกเอาภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Ralph Breaks the Internet มาเปรียบเทียบว่าถึงสังคมในปัจจุบัน พร้อมกับหยิบยกเอาเรื่องราวของตัวเองขึ้นมาเทียบว่า เธอเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อ Cyberbullying เช่นกันจนถึงกับเคยเลิกอ่านคอมเมนต์ไปเหมือนกัน ก่อนที่จะตบท้ายให้กับกำลังใจกับคนที่เคยเจ็บช้ำเพราะโดนโซเชียลฯ รุมกระหน่ำ ซึ่งหลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น และให้กำลังใจเธอจากโพสต์นี้ จนเป็นกระแสในทวิตเตอร์ด้วยแฮชแท็ก #KaimookBNK48 ที่ทุกคนต่างเข้าไปร่วมซัพพอร์ตความคิดของเธอ

https://www.facebook.com/bnk48official.kaimook/photos/a.1872236879722415/2284564118489687/?type=3&theater

แต่แล้ว เมื่อเกิดกระแสของแฮชแท็กดังกล่าว เป็นที่ทราบดีสำหรับคนที่ติดตามวงการไวรัลมาร์เก็ตติ้งว่า เพจดังอย่าง Major Group ก็ไม่พลาดในเรื่องนี้ ด้วยการหยิบเอาภาพของ “ไข่มุก” มาใช้เพื่อโปรโมทภาพยนตร์ใหม่ “ไทบ้านเดอะซีรีส์ X BNK48 เพื่อหวังเกาะไปตามกระแสดั่งเช่นทีเคยทำมา

ปรากฏว่า กลับมีคอมเมนต์ที่เข้ามารุมโจมตี “ไข่มุก” ด้วยคอมเมนต์แรงๆ เป็นการแซวแซะของชาวเน็ต เกิดการ Bully เป็นจำนวนมากภายใต้โพสต์ดังกล่าวของ Major ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่า Major ไม่ควรฉกฉวยทุกโอกาสขนาดนี้ในการเล่นกับกระแส จนทำให้เด็กคนหนึ่งที่ต้องการยืนหยัดเพื่อปกป้องความไม่ถูกต้องในสังคมไซเบอร์ กลับโดนกระหน่ำโจมตี เป็นความน่าละอายของแบรนด์ ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบไปลงในโซเชียลไทยอย่างพันทิป และโดนตำหนิมากมายในทวิตเตอร์

ในขณะที่คู่แข่งอย่าง SF Cinema กลับเล่นกับเรื่องนี้เบาๆ เพียงแค่เข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจ สั้นๆ ได้ใจความ กลับได้ใจของ user ไปแบบเต็มๆ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ Major ต้องเรียนรู้

ไม่นาน Major Group ก็ต้องทำแถลงการณ์ขอโทษออกมา

ล่าสุด กับกระแสที่เกิดขึ้น ใครว่า “ไข่มุก” ของเราจะไม่สู้กลับกลุ่ม Bully เธอกล้าหาญและลุกขึ้นมาตอบโต้กลับได้อย่างน่าชื่นชม

จากดราม่านี้ เราเรียนรู้อะไรกับสิ่งทีเกิดขึ้นได้บ้าง?

  1. เรื่องของ Realtime Marketing เป็นเรื่องที่ฉาบฉวย คุณอาจจะสร้าง engagement ได้ดีในระยะหนึ่ง อาจจะโชว์ไวพริบ คิดเร็วทำเร็ว ได้ใจคนดูได้ นั่นคือสีสันที่คุณสร้างความบันเทิงให้กับโลกออนไลน์ แต่ถ้าไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้เลย Brand Purpose ไม่มี แบรนด์ของคุณก็จะไม่มีคุณค่า คุณอาจจะต้องเสีย Brand Value ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการสร้างแบรนด์
  2. โลกไซเบอร์เต็มไปด้วยผู้คนมากมายต่างความคิด ต่างมุมมอง ดังนั้น ในฐานะแบรนด์เมื่อเวลาจะโพสต์อะไรก็ตาม ต้องคิดอยู่เสมอว่าเรากำลังพูดกับคนหมู่มาก กำลังพูดกับสาธารณะ ดังนั้น หากสิ่งที่เราสื่อสารเป็นปล่อยให้เกิดความคิดอย่างไรทิศทาง แล้วหากไม่ผ่านความคิดที่รอบคอบ การโพสต์โดยดึงเอาบุคคลที่ 3 เข้ามาด้วย จะทำให้เกิดผลร้ายต่อเขาหรือไม่ เป็นสิ่งที่พึงระวังอย่างยิ่ง เพราะนั่นอาจะไม่ต่างกับการที่คุณกำลังส่งมีดให้คนเข้ามาทำร้ายคนๆ หนึ่งได้

สองข้อนี้น่าจะเพียงพอกับการที่แบรนด์ที่จะเล่นกับ Realtime Marketing ควรพึงระวัง และที่สำคัญไม่ใช่แค่คุณจะทำร้ายแบรนด์ตัวเอง แต่คุณอาจจะกำลังทำร้ายผู้อื่นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเพจเมเจอร์เองก็คงไม่ได้มีความตั้งใจ และความไวของการทำงานอาจจะทำให้พลาดพลั้งความรอบคอบและหยั่งรู้ใจคนอ่านไม่พอ Marketing Oops! ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่าย

บทความนี้โพสต์บนที่แรกบน Marketing Oops!


  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •