ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นการโฆษณาออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่การนำเอาคลิปที่ยาวกว่า TVC ยกมาลงบนออนไลน์ แต่เป็นการที่หลายๆ แบรนด์เริ่มหันมาทำชิ้นงานใหม่เพื่อจับลงออนไลน์โดยเฉพาะ และหลายๆ แบรนด์เองก็เลือกที่จะลงแค่ออนไลน์เท่านั้นด้วย
แต่พัฒนาการที่น่าสนใจของชิ้นงานโฆษณาออนไลน์ ที่เราเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นคือการพยายามไม่ขายของ หรือไม่ hard sale แบรนด์หรือโปรดักส์มากจนเกินไป แต่จะเน้นนำเสนอเรื่องราวหรือแก่นของแนวคิดแบรนด์มากขึ้น ซึ่งแม้แต่โฆษณาโปรโมทโรงพยาบาลเองก็มีความอาร์ทนำเสนอเชิงศิลปะมากขึ้น
อีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนภาพของการพลิกรูปแบบการนำเสนอโฆษณาที่หลุดไปจากรูปแบบเดิมๆ ของธุรกิจการดูแลสุขภาพหรือโรงพยาบาล ได้แก่ โฆษณาจากโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม ที่ตัดสินใจทำหนังสั้นในรูปแบบของ Fashion Film ที่งานภาพแต่ละซีนสวยคลาสสิคจริงๆ ใครที่ยังไม่เคยชมแนะนำเลยค่ะ
httpv://youtu.be/RuDiYW0fyyk
เป็นงานคลิปออนไลน์ชิ้นแรกจากโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม บน Key Message สำคัญที่ต้องการสื่อสารว่า โรงพยาบาลเอกชนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง และมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์และความรู้ ภายใต้ Tag Line ได้แก่ ‘เก๋าประสบการณ์ ผ่านมาทุกสมัย’ ดังนั้น หนังจึงเลือกหยิบเอาจุดแข็งที่สุดของโรงพยาบาลนำมาโบลด์ให้โดดเด่น แต่เพื่อไม่ให้ดูน่าเบื่อหรือซีเรียสมากเกินไป ทางครีเอทีฟจึงเลือกที่จะนำเสนอในมูดและโทน ที่ดูทันสมัยขึ้น เป็นในรูปแบบ Fashion Film ผ่านภาพสวยๆ แนววินเทจ ซึ่งทำให้แต่ละซีนดูได้เพลินๆ ไม่น่าเบื่อ
อีกจุดที่น่าสนใจคือ วิธีการเล่าเรื่องหนังจะไม่เล่าเรื่องราวตรงๆ ว่าหมอมีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญขึ้นมาก่อน แต่จะใช้วิธีสื่อผ่านชายคนหนึ่ง ซึ่งชีวิตในวัย 60 ปีของเขาผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย ทั้งความรัก เรื่องเศร้า เรื่องน่าตื่นเต้น การออกเดินทาง ฯลฯ แต่เรื่องของการดูแลสุขภาพนั้น เขาวางใจในความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้มีประสบการณ์จากเชียงใหม่ ราม เพราะเป็นทีมที่มากด้วยประสบการณ์เช่นกัน ซึ่งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมในการักษาคนไข้เคสต่างๆ ล้วนแล้วแต่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทางโรงพยาบาลได้
และการนำเสนอในรูปแบบที่ไม่เน้นการขายของจนเกินไปนักสามารถดึงความสนใจจากผู้ชมได้มากกว่าที่จะบอกตรงๆ ถึง Benefit แต่กลับชักชวนให้เราติดตามว่าชายคนนี้กำลังจะพาเราไปพบกับอะไร ซึ่งทำให้เราดูคลิปนี้ได้จนจบ
ปัจจุบันธุรกิจด้านสุขภาพ กลายเป็นธุรกิจสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจไทย ความคาดหวังที่จะสร้างไทยให้เป็น Medical Hub ดูจะไปได้สวยทีเดียว แต่นั่นก็นำมาซึ่งการแข่งขันด้านธุรกิจสุขภาพเช่นกัน ดังนั้น หลายโรงพยาบาลจึงเริ่มมีการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น พัฒนาด้านเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์เพิ่มขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่แม้แต่เงินก็หาซื้อไม่ได้นั่นคือประสบการณ์ปีแล้วปีเล่า เคสแล้วเคสเล่าสที่สั่งสมมา ตรงจุดนี้นี่เองที่ทางโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ใช้เป็นจุดขายที่สำคัญในการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดมีเหนือคู่แข่ง
เพราะเรื่องของเทคโนโลยีการแพทย์นั้นหากว่ามีงบฯ มีเงินก็สามารถลงแข่งขันในจุดนี้ได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่จัดเป็นข้อได้เปรียบที่แข่งขันกันได้ยาก ก็คือ ‘ประสบการณ์’ ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน ดั่งสโลแกนของโรงพยาบาลที่ว่า ‘24 ปี 24 ชั่วโมง เราพร้อมดูแลคุณเสมอมา‘ เรียกว่าเป็นความเก๋าเกมที่หาตัวจับยากของโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม
นอกจากนี้ อีกสิ่งที่เห็นชัดคือตลอดเวลา 24 ปีนั้น โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม ได้ดูแลชาวเมืองเชียงใหม่ มาอย่างยาวนาน สะท้อนถึงความมั่นใจและเต็มไปด้วยความผูกพัน ความไว้เนื้อเชื่อใจมอบคนที่รักให้ทางโรงพยาบาลได้ดูแลรักษา ซึ่งความเชื่อถือนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สั่งสมมาและหาซื้อจากที่ไหนก็ไม่ได้เช่นกัน เป็นต้นทุนที่ทางโรงพยาบาลเก็บหยอดมาในแต่ละปีๆ จนได้รับความไว้วางใจจากชาวเชียงใหม่
และทั้งหมดนี้น่าจะพอทำให้เราเห็นว่า ทั้งเรื่องของความครีเอทที่ทางโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม กล้าคิดนอกกรอบ ที่จะนำเสนอตัวเองผ่านงานโฆษณาที่สร้างสรรค์ ไปพร้อมๆ กับนำเสนอเรื่องราวของความเก๋าประสบการณ์ที่มีมานานของทีมแพทย์และบุคคลากร กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว สร้างเป็นการตลาดได้น่าสนใจมากทีเดียว
