เจาะวิสัยทัศน์เอสซีจี กับเป้าหมาย ยกระดับธุรกิจก่อสร้างไทย ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลผสานแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

  • 8.4K
  •  
  •  
  •  
  •  

ในการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในโลกธุรกิจยุคใหม่ คงไม่อาจใช้มุมมองการทำธุรกิจแบบแยกส่วน หรือโฟกัสแต่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเรื่องเดียวได้อีกต่อไป หากแต่ต้องสรรหาหรือพัฒนา “โซลูชั่น” ที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุม ไปจนถึงความสามารถในการช่วยแก้ pain point ของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญ ที่ทำให้ “เอสซีจี” เป็นแบรนด์ที่สามารถก้าวมาเป็นผู้ผลิตซีเมนต์และคอนกรีตที่ได้รับการยอมรับในตลาดทั่วภูมิภาคมากว่า 100 ปี

SCG

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “เอสซีจี” เป็นองค์กรที่ได้ชื่อว่ามีการปรับตัวเพื่อเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้รับกับความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ มาตลอด นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ ได้แก่ การมุ่งสร้างความแข็งแกร่งของตลาดในภูมิภาค (Regional) ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม (Innovation) สินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจรหรือเป็นโซลูชั่น ควบคู่กับการเสริมสร้างความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน (Sustainability) ให้ทุกสังคมและชุมชนที่เข้าไปดำเนินงาน

จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว เอสซีจีกำลังนำมาเป็นโจทย์การวางกลยุทธ์ล่าสุด ที่ถือเป็นการเดินหน้าสร้างขีดความสามารถให้ “วงการก่อสร้างไทย” อีกระดับ ผ่านการนำเสนอกระบวนการทำงานของกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และโซลูชั่นการก่อสร้าง (Cement and Construction Solution Business) ที่มีเป้าหมายสำคัญในการมุ่งเน้นการนวัตกรรมแก้ปัญหาลูกค้าครบวงจร ที่สอดรับกับยุคปัจจุบัน

ความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ได้รับการเปิดเผยโดย ชนะ ภูมี Vice President – Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ได้ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมา เอสซีจีได้รับความไว้วางใจให้ร่วมเป็นส่วนสำคัญในงานก่อสร้างหลายรูปแบบ ทำให้เห็นความต้องการและปัญหาต่างๆ ของลูกค้า ทั้งสินค้าคุณภาพที่จัดส่งตรงเวลาและเหมาะกับการก่อสร้างประเภทต่างๆ เทคโนโลยีที่ช่วยบริหารให้เกิดความคุ้มค่าและช่วยเสริมความปลอดภัยในการทำงาน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้ตรงจุด

SCG

การตั้งเป้าหมายไปสู่การเป็น “สังคมรุ่งเรือง” (Wealth Community) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหารจากเอสซีจีให้คำนิยามว่าเป็นสังคมที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่าได้รับประโยชน์และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน จึงเป็นโจทย์ต่อไปหลังจากการสั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนดังกล่าว

ในการผลักดันครั้งนี้ เอสซีจียังมาพร้อมกับกลยุทธ์ 3 ด้านหลัก ที่เป็นการผนวกดิจิทัลเทคโนโลยีมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้งยังยึดแนวคิด สังคมสีเขียว (Green Society) นั่นคือการบริหารจัดการทรัพยากรในการก่อสร้างทั้งวัตถุดิบ คน งบประมาณ และเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลประโยชน์ที่จับต้องได้ในเชิงคุณค่าทางเศรษฐกิจมาเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ได้แก่

การใช้ Construction Solution Technology ตอบโจทย์ความต้องการและการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยี

เอสซีจี ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร นำเทคโนโลยีและเครื่องมือการบริการที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานสากล เช่น เทคโนโลยีการออกแบบ การตรวจสอบโครงสร้าง และการขนส่ง ผนวกกับสินค้าคุณภาพสูง และความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นใหม่ๆ ในการก่อสร้างที่ครบวงจร ภายใต้ชื่อ “CPAC Construction Solution” เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าตั้งแต่รายเล็กจนถึงรายใหญ่ ไปจนถึงรายบุคคล ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งช่าง ผู้รับเหมา บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่และรายย่อย และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้อย่างครบวงจร มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานสูงสุด

SCG

โดยในด้านการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับกลุ่มเจ้าของบ้าน ช่าง และผู้รับเหมารายย่อย เป็นการนำสินค้าคุณภาพพร้อมทีมช่างมืออาชีพที่ได้รับการเสริมศักยภาพจากซีแพคให้มีความรู้และความชำนาญไปให้บริการ อาทิ โซลูชั่นงานพื้น ที่ให้บริการเท ปาด ขัด โซลูชั่นเสาและคาน ที่ช่วยเสริมการก่อสร้างให้แข็งแรงขึ้น ด้วยระบบเสาและคานสำเร็จรูป โซลูชั่นผนังสำเร็จรูป ที่ให้บริการฉาบ หรือในด้านโซลูชั่น

SCG

ในด้านการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับผู้รับเหมาและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เช่น โซลูชั่นสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น งานก่อสร้างพื้นไร้คานสำหรับสถานีรถไฟฟ้า หรืองานหล่อคานสำหรับสะพานให้บริการออกแบบ การจัดหาวัสดุ การควบคุมการผลิต รวมถึงการติดตั้ง โซลูชั่นซ่อมแซมหรือยืดอายุสิ่งก่อสร้าง เช่น โครงสร้างอาคาร โรงงาน สะพาน หรือท่าเทียบเรือ และโซลูชั่นงานฐานรากใต้พื้นดิน ที่ให้บริการออกแบบระบบงานดินและระบบระบายน้ำเพื่อลดเวลาการก่อสร้าง รวมทั้งการแก้ปัญหาอื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ภาคกลางที่มีการทรุดตัวของดินสูง

รวมไปถึงการพัฒนาเป็นโซลูชั่นอื่นๆตามความต้องการของลูกค้า เช่น โซลูชั่นสำหรับฟาร์มปศุสัตว์ ที่ให้บริการออกแบบและให้คำปรึกษาการก่อสร้างโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน สร้างเสร็จเร็ว และคุมงบได้ด้วยวัสดุก่อสร้างแบบสำเร็จรูป อีกทั้งยังสร้างความสบายใจให้เจ้าของบ้านด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถติดตามการทำงานของทีมช่างได้ตลอดเวลา

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด

SCG

จากการเล็งเห็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญในการก่อสร้าง คือ การเกิดของเสีย (Waste) จำนวนมาก โดยเฉพาะการสำรองปริมาณวัสดุก่อสร้างเกินความจำเป็น ที่นำมาซึ่งการสูญเสียทรัพยากรวัตถุดิบ แรงงานคน เวลา และงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เอสซีจี จึงนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้  เช่น การใช้ BIM (Building Information Modeling) ซึ่งเป็นโมเดล 3 มิติ ที่รวมแบบสถาปัตย์ โครงสร้าง และงานระบบเข้าด้วยกัน ในการออกแบบก่อสร้างอาคารตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้สามารถวางแผนสั่งวัสดุต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และสามารถตรวจสอบตำแหน่งหรือความผิดพลาดในจุดต่างๆ ผ่านโมเดลได้ก่อนลงมือสร้างจริง จึงช่วยลดของเสียจากการเผื่อวัสดุ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เวลา และต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง เช่น เศษคอนกรีต หมุนเวียนกลับมาเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอีกครั้ง ทำให้ของเสียกลายมาเป็นประโยชน์ที่เกิดกับทุกฝ่าย (From Waste to Wealth)

SCG

การตั้ง “CPAC Solution Center”

เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง การตั้ง “CPAC Solution Center” จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่เอสซีจีตั้งเป้าหมายให้เป็นศูนย์รวมความเชี่ยวชาญที่คนในวงการก่อสร้างแต่ละจังหวัดสามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้ วิธีบริหารงานก่อสร้าง รวมถึงหาโซลูชั่นต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งยังเป็นจุดที่จะช่วยเชื่อมโยงนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีจากผู้เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ในงานก่อสร้างให้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ด้วย “CPAC Construction Solution”

โดยปัจจุบันเอสซีจีได้ทำการเปิด CPAC Solution Center แห่งแรกที่เชียงใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าเปิดครบ 9 สาขาในสิ้นปี 2562  ได้แก่ที่ เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี พัทยา นนทบุรี และนครปฐม ก่อนจะขยายเป็น 20 สาขาทั่วประเทศ ในปี 2563

ซึ่งเอสซีจีมีความหวังว่าจะสามารถขยายเครือข่ายช่างและผู้รับเหมาท้องถิ่นจาก 2,000 คน เป็น 20,000 คน ในปี 2563 เพื่อเกิดประโยชน์กับวงการก่อสร้างไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

สนใจ CPAC Construction Solution สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://web.cpac.co.th และติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel


  • 8.4K
  •  
  •  
  •  
  •