อินไซต์ “แรงงานเมียนมา” ในไทย มุ่งหารายได้-เก็บเงิน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมเปิดพฤติกรรมใช้จ่าย – บริโภคสื่อ โอกาสแบรนด์ไทยเจาะตลาด 1.2 ล้านล้านบาท

  • 14
  •  
  •  
  •  
  •  

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand
Photo Credit: catastrophe_OL / Shutterstock.com

MI BRIDGE กลุ่มธุรกิจดำเนินงานด้านสื่อสารการตลาด และ MI Learn Lab หน่วยงานที่นำเสนอข้อมูลเชิง Marketing Insights ในเครือ Media Intelligence Group (MI GROUP) ได้นำเสนอวิจัยล่าสุดเจาะลึกข้อมูลกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ในหัวข้อ ผ่าขุมทรัพย์แรงงานชาวเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งเป็นแรงงานต่างชาติกลุ่มใหญ่ในไทย โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างแรงงานชาวเมียนมาผ่านทางออนไลน์ทั่วประเทศ 212 คน และสัมภาษณ์เชิงลึกในกรุงเทพฯ 50 คน ระหว่างมีนาคม – เมษายน 2023

เพื่อศึกษาข้อมูลของกลุ่มแรงงานเมียนมาในประเทศไทยอาจถูกมองข้ามและยังไม่ได้รับการสำรวจในตลาด พร้อมทั้งทำความเข้าใจวัตถุประสงค์และแรงขับเคลื่อนในการย้ายถิ่นฐานเข้ามาเป็นแรงงานที่ประเทศไทย รวมถึงศึกษาพฤติกรรมการบริโภค และการใช้เวลาว่างของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นโอกาสของภาคธุรกิจในการพัฒนาสินค้า-บริการที่สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมการจับจ่ายของกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 828,000 ล้านบาท – 1,242,000 ล้านบาทต่อปี

Burmese Migrant Workers in Thailand
Photo Credit: SOMRERK WITTHAYANANT / Shutterstock.com

 

คาดแรงงานชาวเมียนมาในไทย 6.8 ล้านคน มุ่งหารายได้เป็นหลัก เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

คาดการณ์ปัจจุบันมีแรงงานต่างชาติในประเทศไทยทั้งหมดกว่า 10.2 ล้านคน (รวมแรงงานผิดกฎหมาย) ซึ่งมีจำนวนที่ใกล้เคียงกับ Gen Z ของประชากรไทยที่มี 13.2 ล้านคน จากประชากรไทยทั้งหมด 66.1 ล้านคน

ในจำนวนแรงงานต่างชาติที่ลงทะเบียนในประเทศไทย พบว่าแรงงานสัญชาติเมียนมามีจำนวนสูงถึง 6.8 ล้านคนของแรงงานต่างชาติที่ลงทะเบียนทั้งหมด

ส่วนสาเหตุหลักที่แรงงานชาวเมียนมาเดินทางเข้ามาประเทศไทย มุ่งหารายได้เป็นหลัก

– 88% ของกลุ่มตัวอย่างมุ่งที่การหารายได้เป็นสำคัญ เพราะปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากเงินที่หาได้ขณะอยู่ในประเทศเมียนมานั้น ไม่เพียงพอ เพราะต้องดูแลทั้งครอบครัวใหญ่ และรู้สึกว่าการหาเงินในประเทศเมียนมา เพื่อให้ชีวิตสุขสบายเป็นเรื่องที่ยาก

– รายได้ของแรงงานชาวเมียนมาขณะอาศัยอยู่ในประเทศเมียนมา รายได้เฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 1,000 – 5,000 บาทต่อเดือน ขณะที่อีก 12% ของกลุ่มตัวอย่างไม่มีรายได้ขณะอยู่ที่เมียนมา

เพราะฉะนั้นจึงเลือกเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ให้ค่าแรงสูง

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

วิถีชีวิตแรงงานเมียนมาในไทย: รายได้ 10,000-15,000 บาท/เดือน ทำงาน 10 ชั่วโมง/วัน และ 6 วันต่อสัปดาห์

เมื่อชาวเมียนมาเข้ามาทำงานแรงงานในไทย จากผลสำรวจพบว่า

– ขณะอยู่ในประเทศไทย รายได้เฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 10,000 – 15,000 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 3 – 5 เท่าของเงินเดือนขณะที่อยู่ในประเทศเมียนมา

– คาดการณ์ว่าตลาดแรงงานชาวเมียนมาในประเทศไทย มีมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 828,000 ล้านบาท – 1,242,000 ล้านบาทต่อปี

– กลุ่มแรงงานเมียนที่วางเป้าหมายในการหารายได้ชัดเจน ส่วนมากกำหนดระยะเวลาทำงานในประเทศไทย 3 – 5 ปี เพื่อนำเงินกลับไปตั้งตัว และกลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศเมียนมา ในขณะที่กว่าครึ่งของกลุ่มสำรวจไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่มองที่เป้าหมายจำนวนเงินที่ต้องการเก็บให้ครบเป็นสำคัญ

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

– ด้วยแรงผลักดันที่ต้องการเก็บเงินให้ได้มากที่สุด แรงงานชาวเมียนมาในไทยจึงต้องทำงานล่วงเวลามากกว่ากว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน และอย่างน้อย 6 วันต่อสัปดาห์

– กิจวัตรประจำวันของแรงงานชาวเมียนมา จากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า ในวันธรรมดาใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านเฉลี่ย 14 ชั่วโมงต่อวัน และส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารเช้า – กลางวัน และเย็นในละแวกที่ทำงาน

ส่วนเวลาว่างของแรงงานชาวเมียนมา จะมีเพียง 2 – 3 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเวลาก่อนนอนเท่านั้น โดยจะใช้เวลาว่างไปกับการใช้ Social Media ต่างๆ เพื่อติดต่อครอบครัวและเพื่อความบันเทิง

– สำหรับในวันหยุด เนื่องจากต้องทำงานเกือบทั้งวันและเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้แรงงานชาวเมียนมามีเวลาว่างน้อย และต้องการพักผ่อน รวมถึงต้องการเก็บเงิน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยอออไปทำกิจกรรมใดๆ นอกจากไปซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น ทำให้กิจกรรมในวันหยุด ส่วนใหญ่จึงมี 2 กิจกรรมหลักคือ “จับจ่ายซื้อของใกล้ที่พัก” และ “เล่นอินเทอร์เน็ต”

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

พฤติกรรมใช้จ่าย: ใช้จ่าย 56% และเก็บเงิน 44% ของรายรับ

สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของแรงงานชาวเมียนมาในไทย พบว่า

– รายจ่ายของกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 56% ของรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนเท่านั้น แบ่งเป็น

  • ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 37% เช่น ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
  • ค่าที่อยู่อาศัย 16%
  • ค่าโทรศัพท์ 3% โดยพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เสียค่าโทรศัพท์เฉลี่ยเดือนละ 200 บาท เน้นการใช้อินเทอร์เน็ต ไม่เน้นโทรเข้า-โทรออก

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

– ขณะเดียวกันเพื่อเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย แรงงานชาวเมียนมาในไทยเก็บเงินได้ถึง 44$ หรือเกือบครึ่งของรายรับ โดยภายใต้สัดส่วนการออมเงินดังกล่าวนั้น วัตถุประสงค์หลักคือ

  • ส่งเงินกลับบ้าน (28%) เพื่อให้ครอบครัวที่เมียนมามีเงินใช้และมีเงินออม ซึ่งปัจจุบันนิยมให้นายหน้าผู้ดำเนินการโอนเงินให้
  • เหลือเงินเก็บที่ตัวเองเพียง (16%)

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

พฤติกรรมการบริโภคสื่อ: เน้นใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ

เมื่อเชื่อมโยงกับ “มิติการบริโภคสื่อ” ของแรงงานชาวเมียนมา พบว่าเน้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ เพื่อติดตามทั้งความบันเทิง ข่าวสาร และช้อปปิ้งออนไลน์

– 97% ของกลุ่มตัวอย่างดูละคร ภาพยนตร์ และรายการต่างๆ ทางออนไลน์

– 87% ของกลุ่มตัวอย่างดูข่าวและอ่านข่าวสารบ้านเมืองทางออนไลน์

– 48% ของกลุ่มตัวอย่างฟังวิทยุและฟังเพลงทางออนไลน์

– 74% ของกลุ่มตัวอย่างนี้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อของ โดย Lazada เป็นช่องทางอันดับหนึ่ง รองลงมาตามลำดับ คือ Facebook, Shopee และ TikTok

ขณะที่พฤติกรรมการใช้ Social Media ของแรงงานชาวเมียนมาในไทย พบว่า

– 98% ใช้ facebook

– 54% ใช้ YouTube

– 40% ใช้ TikTok

– 36% ใช้ facebook messenger

– 26% ใช้ LINE

– 21% ใช้ Telegram

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างมีความสามารถในการเข้าถึง Mobile Banking ชี้ให้เห็นโอกาสทางภาคธุรกิจการเงินที่สามารถพัฒนาหรือต่อยอดการบริการเพื่อรองรับกลุ่มที่มีโอกาสเป็นลูกค้านี้ได้

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

กลยุทธ์การใช้ Media Touchpoint เข้าไปอยู่ใน 3 ช่วงชีวิตแรงงานชาวเมียนมาในไทย “ตั้งหลัก ตั้งตัว – ตั้งใจ”

ทั้งนี้ในการมาทำงานที่ไทยของแรงงานชาวเมียนมา สามารถแบ่งช่วงชีวิตออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ภายใต้กรอบการวิจัย ได้แก่ช่วงตั้งหลัก – ตั้งตัว – ตั้งใจ ซึ่งแต่ละช่วงชีวิต แรงงานชาวเมียนมาในไทยความต้องการใช้สินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ให้ความสนใจกับประเภทคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงมีรายละเอียดของ Media Touchpoint ที่แบรนด์ต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสม

ช่วงตั้งหลัก เป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตในประเทศไทย
  • เมื่อเดินทางถึงไทย: ต้องการซิมการ์ด

Media Touchpoint: Billboard, Roadside Media

  • ช่วงเริ่มต้นชีวิตในไทย: ต้องการที่อยู่, เครื่องแต่งกาย, ของใช้ส่วนตัว, เครื่องสำอาง และงาน

Media Touchpoint: Facebook สำหรับหาข้อมูล, Transit Media เช่น รถตู้ รถสองแถว, Direct Selling หรือนายหน้า

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

ช่วงตั้งตัว เป็นช่วงที่ทำงานและใช้ชีวิตได้ระยะหนึ่งแล้ว
  • ทำงาน: ต้องการใบอนุญาตทำงาน, บัญชีเงินฝาก

Media Touchpoint: Facebook, YouTube, TikTok (หาข้อมูล) Messenger, LINE (ติดต่อกับนายจ้าง), Direct selling (นายหน้า/โรงงาน), Word of mouth

  • ช้ชีวิต: ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว พัดลม, โทรศัพท์มือถือ (ราคา 4,000 – 13,000 บาท), เสื้อผ้าแฟชั่น, สกินแคร์, สินค้าอุปโภคบริโภค, ซื้อทอง (ราคา 16,000 – 80,000 บาท)

Media Touchpoint: Facebook, YouTube, TikTok (ความบันเทิง), Lazada, Facebook, Shopee, TikTok (ซื้อสินค้า), Super market (point of sale marketing, demo station booth), Billboard, Roadside media (LED, lollypop, magnum), Transit media (taxi, bus, BTS)

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

ช่วงตั้งใจ เน้นการติดต่อครอบครัว และเตรียมตัวกลับประเทศเมียนมา
  • ติดต่อครอบครัวที่บ้าน: ต้องการติดต่อครอบครัว, การส่งเงิน การโอนเงินข้ามประเทศ

Media Touchpoint: Facebook, Messenger, Telegram, Direct selling (นายหน้า/โรงงาน)

  • กลับบ้าน: ต้องการซื้อยา, อาหารเสริม, รังนก, เครื่องแต่งกาย (เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า) ของอุปโภค (สบู่ ผงซักฟอก) เครื่องใช้ไฟฟ้า (ทีวีหม้อหุงข้าว พัดลม) และทอง (16,000-80,000 บาท) นำกลับบ้านไปด้วย

Media Touchpoint: LAZADA, Shopee, Facebook, TikTok (ซื้อสินค้า), Super market (point of sale marketing, demo station booth), Billboard, Roadside media (LED, lollypop, magnum), Transit media (taxi, bus, BTS)

MI_Burmese Migrant Workers in Thailand

 

กลยุทธ์แบรนด์ไทย ชนะใจชาวเมียนมาในไทย

แบรนด์ที่จะทำตลาดกับแรงงานชาวเมียนมาในไทย ต้องทำความรู้จักและเข้าใจในความยากลำบากที่พวกเขาต้องเจอ โดยแบรนด์ ต้องสร้างความไว้วางใจ เชื่อถือได้ Tและความสะดวกให้กับผู้บริโภคกลุ่มนี้ รวมทั้งสินค้าและบริการ ต้องตอบโจทย์เรื่องหลักๆ ดังนี้

– คุณภาพ

– ราคายุติธรรม

– มีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา

– มีความปลอดภัย

– เข้าถึงได้ง่าย และสะดวก

– ง่ายต่อการทำความเข้าใจ

– สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนชาวแรงงานเมียนมาในไทย

– มีบริการ Customer Support

ดังนั้นกลยุทธ์สำคัญในการเข้าถึงและชนะใจแรงงานชาวเมียนมาในไทย ประกอบด้วย

– จับต้องได้ (Affordable)

– เข้าถึงได้ (Accessible)

– เข้าใจได้ (Understandable)

– เชื่อถือได้ (Trustable)

Burmese Migrant Workers in Thailand
Photo Credit: teera.noisakran / Shutterstock.com

MI GROUP มุ่งมั่นที่จะเคียงข้างแบรนด์ลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ พร้อมสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตในระดับสากล เรามองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และโอกาสธุรกิจต่างๆ ที่เป็นไปได้อยู่เสมอ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเติบโตและบรรลุเป้าหมาย  

MI BRIDGE และ MI Learn Lab จึงได้นำเสนอข้อมูลของกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาที่มีจำนวนมากและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ซึ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่สินค้าอุปโภคบริโภคและการบริการด้านการเงิน

โดยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาด หรือการพัฒนาสินค้า-การให้บริการเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เพื่อสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI GROUP กล่าวทิ้งท้าย

คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย คุณวิชิต คุณคงคาพันธ์ Head of International Business Development กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด (MI GROUP)

  • 14
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ