ในที่สุดปัญหาที่น่ากลัวสำหรับร้านค้าปลีกก็มาถึง เพราะผู้บริโภครุ่นใหม่เลือกที่จะเดินเที่ยวในห้างใหญ่ ทดลองสินค้า แต่เวลาจะจ่ายเงินซื้อกลับไปหาสินค้าชนิดเดียวกับที่ต้องการ และสั่งออนไลน์ เพราะราคาถูกกว่า (ทั้งมั่นใจว่าไม่ผิดไซส์ เพราะได้ลองที่ร้านมาแล้ว)
หรือที่ล้ำกว่านั้นลูกค้าไฮเทคบางคนใช้มือถือสแกนบาร์โค้ดสินค้าในห้องลองเพื่อเปรียบเทียบราคากับออนไลน์ จึงเป็นเหตุให้ร้านค้าปลีกชื่อดังอย่่าง เบสต์บายถึงกับเปลี่ยนรูปแบบโค้ดสินค้าไม่ใช้เป็นบาร์โค้ด เพื่อป้องกันปัญหานี้
และเพื่อเอาตัวรอดกับเทรนด์การบริโภคใหม่ของลูกค้าที่เน้นช้อปออนไลน์ ทางห้างค้าปลีกดังในอเมริกาอย่าง Walmart, Macy’s, Best Buy, Sears ก็พากันเปิดจุดรับสินค้าที่สั่งออนไลน์ภายในห้างแทน เพราะอย่าลืมว่าสั่งของออนไลน์ต้องรอให้มาส่ง แต่ลูกค้าส่วนมากกลับอยากได้ของทันทีที่จ่่ายเงิน
เดือนที่ผ่านมาทางวอลล์มาร์ทจึงเริ่มโครงการนำร่องนี้ไปแล้ว คือ สั่งออนไลน์ แต่มาจ่ายเงินและรับของที่ร้านวอลล์มาร์ทใกล้บ้านแทน
นอกจากนี้ทางห้างใหญ่อย่าง Nordstrom ก็วางแผนควบรวมร้านออนไลน์และออฟไลน์ไว้้ด้วยกัน นั่นคือ หากมีสินค้าใดถูกซื้อไปผ่านออนไลน์ ก็จะมาแจ้งสต็อกที่ออฟไลน์ และให้ร้านค้าสาขาที่ใกล้ลูกค้าที่สุดจัดส่งสินค้านั้นให้ลูกค้าทันที ไม่ต้องรอส่งจากศูนย์กลางอีกที
ส่วนแอมะซอนร้านค้าออนไลน์ขนานแท้และดั้งเดิม ปีที่แล้วก็เพิ่งเปิดบริการล็อกเกอร์ตามห้างต่างๆ เพื่อเป็นจุดรับของที่สั่งจากออนไลน์
เห็นได้ชัดว่าคนที่ต้นทุนสูงกว่าอย่างห้าง ไม่ปรับตัวก็อันตราย!
