Unlocking Growth กับ Tetra Pak: ผู้นำโซลูชันอาหาร-เครื่องดื่มครบวงจร พร้อมโชว์นวัตกรรมในงาน THAIFEX 2025

  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เมื่อพูดถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในระดับโลก ชื่อของ Tetra Pak คือหนึ่งในผู้นำที่อยู่แถวหน้าเสมอ ด้วยประสบการณ์กว่า 70 ปี และจุดยืนที่ชัดเจนในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันแบบ End-to-End ที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงบรรจุภัณฑ์ วันนี้ Marketing Oops ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท Tetra Pak (ประเทศไทย) จำกัด ถึงเบื้องหลังแนวคิด “Unlocking Growth: Tetra Pak ปลดล็อกโอกาสการเติบโตในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มให้กับคุณ” ซึ่งเป็นธีมของปีนี้ และบทบาทของแบรนด์ในงาน THAIFEX Anuga Asia 2025 ที่กำลังจะมาถึง

 

คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท Tetra Pak (ประเทศไทย) จำกัด

 

THE MEANING BEHIND “UNLOCKING GROWTH”

คุณสุภนัฐเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า แนวคิด “Unlocking Growth” ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกนทางการตลาด แต่เป็นวิธีคิดที่ฝังรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของ Tetra Pak “เรามองว่านวัตกรรมคือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจของลูกค้า” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า บริษัทไม่เพียงมองหาการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เท่านั้น แต่เน้นการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละธุรกิจ

 

 

“Unlocking Growth สำหรับเรา หมายถึงการร่วมเดินทางกับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหาโอกาสทางการตลาด คิดค้นผลิตภัณฑ์ พัฒนาไลน์การผลิต ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และสร้างความยั่งยืน” คุณสุภนัฐกล่าว

Tetra Pak เชื่อว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนของลูกค้า คือความสำเร็จของบริษัทเช่นกัน ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี ทีมงาน และเครือข่ายระดับโลก บริษัทสามารถให้การสนับสนุนได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาด การคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานผลิต

 

3 SOLUTIONS TO UNLOCK GROWTH

เพื่อตอบสนองต่อโจทย์การเติบโตในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม Tetra Pak ได้ชูแนวทางหลัก 3 ด้าน ซึ่งถือเป็นหัวใจของกลยุทธ์ Unlocking Growth ได้แก่ Innovate to Elevate, Differentiate to Stand Out และ Optimise for Efficiency โดยแต่ละแนวทางไม่เพียงแค่เสริมแกร่งให้กับแบรนด์ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันและการขยายตลาดของลูกค้า ทั้งนี้ ล้วนสอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญของ Tetra Pak ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมโซลูชันการผลิตและบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง

 

INNOVATE TO ELEVATE: สร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับแบรนด์และธุรกิจ

หัวใจสำคัญของ Tetra Pak ไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่อยู่ที่การยึดเอา “ความสำเร็จของลูกค้า” เป็นแกนกลางของทุกการพัฒนา “นวัตกรรมที่แท้จริงต้องเริ่มจากความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง” คุณสุภนัฐกล่าว พร้อมย้ำว่า นวัตกรรมของ Tetra Pak ไม่ได้เกิดจากการสร้างอะไรใหม่เพียงเพื่อความล้ำหน้า แต่ต้องตอบโจทย์ปัญหาจริงของลูกค้า

 

 

ภายใต้แนวคิด Innovate to Elevate Tetra Pak ให้บริการด้านการตลาดแบบครบวงจร พร้อมข้อมูลเชิงลึก หลากหลายแง่มุมตั้งแต่แทรนด์ ไปจนถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ทั้งนี้ยังมี ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า CIC (Customer Innovation Centre) ที่เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้ และศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ PDC (Product Development Centre) ซึ่งจะเปิดในปีหน้าที่จังหวัดระยอง โดยศูนย์นวัตกรรมทั้งสองจะมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกค้าแบบครบวงจร

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ โซลูชันด้าน Ingredients ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า Tetra Pak มีการนำเสนอคอนเซ็ปสินค้าพร้อมแนะนำส่วนผสมเบื้องต้นทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นไปได้เร็วมากขึ้นโดยเฉพาะในหมวดเครื่องดื่มสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มโปรตีนสูง ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในภูมิภาค

 

3 STRATEGIC FOCUS CATEGORIES: เจาะลึก 3 หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็ว

เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Tetra Pak ให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่:

 

 

1. กาแฟพร้อมดื่ม (RTD Coffee) – โซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ การพกพา และความพรีเมียม เช่น Tetra Prisma® Aseptic ที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้แบรนด์กาแฟในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

 

 

2. เครื่องดื่มโปรตีนสูง (High-Protein Beverages) – เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ที่กำลังมาแรงในขณะนี้

 

 

3. อาหาร (Food) – โดยเฉพาะกลุ่มอาหารพร้อมรับประทานที่ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น Tetra Recart® ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนแทนการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารแบบดั้งเดิม

 

DIFFERENTIATE TO STAND OUT: สร้างความแตกต่างด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ล้ำหน้าและยั่งยืน

พอร์ตโฟลิโอในส่วนของบรรจุภัณฑ์ของ Tetra Pak นั้นมีหลากหลายมาก ทั้งในเรื่องของขนาดและลักษณะการใช้งาน คุณสุภนัฐชี้ว่าในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังมากกว่าความสะดวกสบาย บรรจุภัณฑ์จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์

 

“บรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเล่าเรื่องแบรนด์ สร้างการจดจำ และสนับสนุนการขยายโอกาสในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ” เขากล่าว

บรรจุภัณฑ์ของ Tetra Pak ช่วยให้แบรนด์แตกต่างทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และการใช้งาน

  • Tetra Prisma® Aseptic พร้อมฝา DreamCap™ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์แบบ on-the-go และใช้งานสะดวก ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ เหมาะกับเครื่องดื่มพรีเมียม นอกจากตัวกล่องจะหยิบจับได้เหมาะมือแล้ว เพราะออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เปิดใช้งานได้ง่าย ฝาปิดสะดวกในการเท ดื่ม และปิดใหม่ได้ ทั้งยังสามารถใช้ลูกเล่นผิวกล่องแบบเมทัลลิกยังช่วยให้กล่องดูพรีเมียม เหมาะมากสำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่สะดุดตาได้มากกว่าช่องทางอื่นๆ
  • Tetra Recart® พลิกโฉมตลาดอาหารพร้อมทาน ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง เหมาะสำหรับทั้งช่องทางอีคอมเมิร์ซและร้านค้าปลีก ทั้งยังโดดเด่นบนชั้นวางด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมสร้างพื้นที่โฆษณาบนบรรจุภัณฑ์ที่มองเห็นได้ชัดเจน และใช้พื้นที่น้อยกว่ากระป๋องและขวดแก้ว 25-40% เปิดง่ายด้วยการฉีกตามรอบประและปิดใหม่ได้สะดวกสำหรับผู้บริโภค กล่องเต็ดตรา รีคาร์ท ให้ทั้งความปลอดภัย อายุสินค้าเก็บได้นาน และดีไซน์ที่ทันสมัย เน้นความสะดวกสบาย ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

“จุดแข็งของเราคือการผสมผสานระหว่างดีไซน์และฟังก์ชัน รวมถึงความยั่งยืนที่จับต้องได้” คุณสุภนัฐกล่าว พร้อมเสริมว่า บรรจุภัณฑ์ของ Tetra Pak ผลิตจากกระดาษที่นำมาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ ได้รับการรับรองจาก FSC™ (Forest Stewardship Council™: องค์การจัดการด้านป่าไม้) และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสร้าง Brand Trust ในระยะยาว

 

OPTIMISE FOR EFFICIENCY: เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์สูงสุด

 

ไม่เพียงแค่ภายนอกที่ต้องโดดเด่น ภายในโรงงานก็ต้องมีประสิทธิภาพสูงสุด Tetra Pak จึงลงทุนในการพัฒนาโซลูชัน Automation และ Digitalisation เพื่อให้ลูกค้าสามารถควบคุมต้นทุน ลดของเสีย และเพิ่มผลผลิตได้แบบ real-time

ระบบของ Tetra Pak ช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การวางแผนไลน์ผลิต การคาดการณ์ปัญหา ไปจนถึงการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ โดยมุ่งเน้นไปที่การลด Total Cost of Ownership (TCO) ในระยะยาว “เราช่วยให้ลูกค้ามีไลน์ผลิตที่หยุดน้อยที่สุด ใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด และให้ผลตอบแทนสูงที่สุด” คุณสุภนัฐกล่าว

“เราพร้อมร่วมทำงานเคียงคู่ไปกับคุณในทุกขั้นตอน เพื่อช่วยยกระดับการผลิตที่คุ้มค่าและผลิตภัณฑ์ที่สร้างคุณค่า เพื่อปลดล็อกโอกาสในการเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืนให้กับคุณ”

 

CONSUMER TRENDS 2025: เข้าใจเทรนด์เพื่อก้าวล้ำตลาด

“ถ้าไม่เข้าใจผู้บริโภค ก็ไม่มีทางออกแบบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ได้” คือสิ่งที่คุณสุภนัฐเน้นย้ำ โดยในทุกๆ 2 ปี Tetra Pak จะทำการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งมาวิเคราะห์และทำออกมาเป็นเอกสารที่เรียกว่า Tetra Pak Trendipedia เพื่อที่จะได้รู้ว่าเทรนด์ของผู้บริโภคกำลังไปในทิศทางใด และจะตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างไร

ซึ่งในปี 2025 Tetra Pak ได้รวบรวมเทรนด์ผู้บริโภคผ่านรายงาน Tetra Pak Trendipedia ที่ชี้ให้เห็น 6 เทรนด์สำคัญ ได้แก่ Wellness wave/ Pursuit of Values / Rooted Origins/ Experience More/ Green Value Chain/ and Convenience Unlocked

คุณสุภนัฐยกตัวอย่าง 2 เทรนด์ย่อยที่เด่นชัด คือ

Green by default (สิ่งแวดล้อมคือพื้นฐาน) จากเทรนด์ Green Value Chain การผสานความยั่งยืนตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับการแสร้งทำเป็นรักษ์โลก สำหรับกลุ่มที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและเลือกแบรนด์ที่สะท้อนคุณค่าของตนเอง

Hyper Convenience (ความสะดวกสูงสุด) จากเทรนด์ Convenience Unlocked กลุ่มคนเมืองที่ต้องการอาหารสะดวก รวดเร็ว แต่ยังต้องดีต่อสุขภาพ ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ

แคมเปญ “นมทางเลือก ของคนช่างเลือก” เป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนว่า Tetra Pak ไม่เพียงแต่ส่งมอบโซลูชัน แต่ยังลงมือทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างแท้จริง โดยการจัดกิจกรรมร่วมกับหลายแบรนด์เพื่อขยายกลุ่ม Plant-Based Milk ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 

HIGHLIGHT @ THAIFEX ANUGA ASIA 2025

ภายในงาน THAIFEX Anuga Asia 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31พฤษภาคม 2568 ที่ IMPACT เมืองทองธานี Tetra Pak เตรียมต้อนรับผู้ประกอบการด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่:

  • Innovate to Elevate Zone โชว์เทรนด์ล่าสุดและนวัตกรรมที่ร่วมพัฒนากับลูกค้า เช่น เครื่องมือและแพลมฟอร์มเกี่ยวกับเทรนด์ผู้บริโภค รวมถึงข้อมูลของศูนย์นวัตกรรม CIC และ PDC
  • Differentiate to Stand Out Zone แสดงบรรจุภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอใหม่ๆ เช่น Tetra Recart® และ Tetra Prisma® Aseptic พร้อมตัวอย่างความสำเร็จในตลาดจริง
  • Optimise for Efficiency Zone โชว์ภาพรวมระบบเครื่องจักรล้ำสมัยและการจัดการโรงงานอัจฉริยะ ที่เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเพิ่มความคุ้มค่า
  • Tasting Bar ให้ผู้เยี่ยมชมได้ชิมผลิตภัณฑ์จริง ทั้งในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่มโปรตีน และกาแฟพรีเมียมจากทั่วโลก

 

 

นอกจากนี้ ยังมี Future Food Experience+ Session ที่คุณสุภนัฐจะบรรยายเกี่ยวกับ 2 เทรนด์สำคัญ ได้แก่ Green by Default และ Hyper Convenience พร้อมนำน้ำดื่มในกล่อง Tetra Prisma® Aseptic ของ Tetra Pak ให้ดื่มกันภายในงานทั้ง 5 วันอีกด้วย

 

เติบโตไปด้วยกัน อย่างยั่งยืน

“การเติบโตที่ยั่งยืน เริ่มจากความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของตลาด ไม่ใช่แค่ผลิตให้มากขึ้น แต่ต้องผลิตในสิ่งที่ใช่” คุณสุภนัฐกล่าว

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มต้นหรือมองหาการขยายตลาด คำแนะนำจากคุณสุภนัฐคือ:

  • เริ่มจากการเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง: ไม่ใช่แค่พฤติกรรม แต่ต้องเข้าใจแรงจูงใจ ความเชื่อ และคุณค่าที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ
  • อย่ามอง Packaging เป็นแค่ภาชนะ: มันคือเครื่องมือสร้างการรับรู้ ความแตกต่าง และประสบการณ์ของแบรนด์
  • คิดถึง Sustainability ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่คือโอกาสทางธุรกิจระยะยาวที่จะทำให้แบรนด์แข็งแรงขึ้นในใจผู้บริโภค

 

 

“Tetra Pak มีความเชี่ยวชาญที่พร้อมด้วยประสบการณ์และโซลูชันแบบครบวงจรที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคุณ”

“เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยคุณ Unlock โอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ” เขากล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเยี่ยมชมและเข้าฟังการบรรยายได้ที่:

https://www.tetrapak.com/en-th/campaigns/thaifex?utm_source=Marketingoops&utm_medium=paidmedia&utm_campaign=25ThaiFex23&utm_content=ThaiFex

 

 


  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •