บาร์บีคิวพลาซ่าเปิดตัวแคมเปญ “GON Figure Vol.2″ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Mini Friends of GON” โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ Collectible Marketing เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและความผูกพันกับลูกค้า
หลังจากความสำเร็จของ GON Figure Vol.1 ที่ได้รับการตอบรับจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม บาร์บีคิวพลาซ่า ปล่อยหมัดเด็ดความน่ารักอีกครั้งกับ GON Figure Vol. 2 ครั้งนี้กลับมามอบความน่ารักให้แฟน ๆ ได้ตื่นเต้นอีกครั้ง โดยแบรนด์ตั้งใจยกระดับประสบการณ์ให้แฟน ๆ ได้สัมผัสความ “จิ๋วแต่จึ้ง” ในทุกมิติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Mini Friends of GON” ตัวเล็กแต่ใจใหญ่มาก
ทั้งนี้ หากมองในเชิง กลยุทธ์การตลาดหลัก สามารถวิเคราะห์ได้ออกมาถึง 3 กลยุทธ์ ได้แก่
- Sequel Marketing Strategy
การต่อยอดจากความสำเร็จของ Vol.1 ที่ได้รับการตอบรับดี สร้างความคาดหวังและ FOMO (Fear of Missing Out) ในกลุ่มลูกค้าเดิม ใช้ประสบการณ์เรียนรู้จากรอบแรกเพื่อปรับปรุงและพัฒนา
- Experiential Marketing
Mini Mascot Tour นำตัวละครออกเดินสายวัดไซส์กับ “พี่ใหญ่” ทั่วกรุง In-Store Experience โดยมีมาสคอตเวอร์ชันจิ๋วหน้าร้าน สร้างจุดสนใจและการโต้ตอบ รวมไปถึงสร้าง Photo Opportunity สร้างคอนเทนท์ให้ลูกค้าเล่นและแชร์ต่อๆ กันได้
- Product Bundling Strategy
เชื่อมโยงสินค้าสะสมกับเมนูอาหารหลัก ด้วยราคาเริ่มต้น 829 บาทต่อชุด ได้ทั้งอาหารและฟิกเกอร์ ออกแบบเมนูที่เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (“เพื่อนชอบหมู” และ “เพื่อนชอบเนื้อ”)
สำหรับจุดแข็งของแคมเปญนี้ มีการใช้ Brand Character Development โดยให้ GON เป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์และความน่ารัก แล้วยังการสร้าง “Mini Friends” ขยายจักรวาลแบรนด์ให้กว้างขึ้น มีการใช้ภาษาสื่อสารที่สร้างความใกล้ชิด เช่นคำว่า “ตัวเล็กแต่ใจใหญ่มาก” รวมถึงใช้ Omnichannel Marketing ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารบนออนไลน์ โดยผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วมีการใช้ออฟไลน์ โดยผ่านกิจกรรมหน้าร้านและ Mascot Tour รวมไปถึงการสร้าง Product Integration ที่รวมกับประสบการณ์การรับประทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับคนที่สนใจเริ่มให้สะสมได้ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2568 ถึง 10 ตุลาคม 2568 นี้ ที่ ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทุกสาขา (ยกเว้นสาขาเซ็นทรัล พาร์ค)
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
แคมเปญ GON Figure Vol.2 แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การตลาดที่ครบถ้วนและมีการบูรณาการที่ดี โดยเฉพาะการใช้ตัวละครเป็นแกนกลางในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ความสำเร็จของแคมเปญนี้จะขึ้นอยู่กับการดำเนินการที่มีคุณภาพและการสื่อสารที่ต่อเนื่อง
ข้อเสนอแนะสำหรับอนาคต ควรพิจารณาการใช้ Data Analytics เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ การพัฒนา Mobile App หรือ AR Experience เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม การสร้างความร่วมมือกับแบรนด์อื่นเพื่อขยายฐานลูกค้า และการพิจารณาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตฟิกเกอร์
แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ Emotional Marketing ผสมผสานกับ Product Strategy ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- Facebook: https://www.facebook.com/BarBQPlazaThailand
- Instagram: https://www.instagram.com/barbqplaza_th
- TikTok: https://www.tiktok.com/@barbqplaza_official
- Twitter: https://twitter.com/barbqplazathai
