TAICCA ปักธง Soft Power ไต้หวันในไทย: เมื่อคาแรกเตอร์กลายเป็นเศรษฐกิจใหม่ของภูมิภาค

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

การเข้าร่วมงาน Bangkok International Digital Content Festival (BIDC) 2025 ของ Taiwan Creative Content Agency (TAICCA) คือการประกาศตัวครั้งสำคัญของไต้หวันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เพียงเพื่อโชว์ผลงานครีเอเตอร์กว่า 18 IP แต่เพื่อยืนยันว่าคอนเทนต์สามารถเป็นทั้ง พลังทางวัฒนธรรม และ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์

Soft Power Strategy: ปักธงด้วย Taiwan Gǎn Xìng

TAICCA ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 เพื่อทำหน้าที่เป็น “เครื่องยนต์ขับเคลื่อน Soft Power” ของไต้หวัน ภารกิจหลักประกอบด้วยการพัฒนาบุคลากร การลงทุนผ่าน National Development Fund และการผลักดันผลงานสู่ตลาดโลก

“เรามีบทบาทเป็นเหมือนตัวเร่ง (accelerator) ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทุนและการเข้าถึงตลาดได้เร็วขึ้น” ซู กวน ซู, Director of International Business, TAICCA กล่าว

ซู กวน ซู, Director of International Business, TAICCA

สิ่งที่ทำให้ Soft Power ไต้หวันแตกต่างคือแนวคิด “Taiwan Gǎn Xìng (台灣感性)” ซึ่งหมายถึงความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์หรือ free style ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่น่ารัก ตลก หรือแม้กระทั่งแปลกประหลาด ก็สามารถสะท้อนตัวตนและเชื่อมโยงกับผู้ชมได้

“ไม่ว่าคุณจะทำคอนเทนต์แบบไหน มันสามารถเชื่อมต่อกับผู้ชมได้เสมอ นี่คือพลังที่ทำให้ IP ของไต้หวันก้าวสู่ตลาดสากล” ซู กวน ซู อธิบาย

ตัวอย่างล่าสุดคือการที่ไต้หวันได้รับเลือกเป็นประเทศธีมใน Seoul Book Fair ซึ่ง “Taiwan Gǎn Xìng” กลายเป็นหัวใจที่สร้างกระแสตอบรับมหาศาล ขณะเดียวกัน TAICCA ก็เดินหน้าทดลองตลาดในมาเลเซีย โดยพบว่าคาแรกเตอร์ “แมว” กลายเป็นตัวกลางที่เข้าถึงผู้ชมได้ดีกว่าที่คาด ซึ่งสะท้อนบทเรียนว่าการเข้าใจ cultural sensitivity และรสนิยมท้องถิ่นคือหัวใจของการผลักดัน IP สู่ต่างประเทศ

ไทย–ไต้หวัน: Ecosystem แห่งความร่วมมือ

การเลือกประเทศไทยเป็นจุดเริ่มต้นในอาเซียนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะไทยมีทั้ง ความคิดสร้างสรรค์ที่เสรี และ นโยบายรัฐที่สนับสนุน โดยเฉพาะในด้าน BL Content และ LGBTQ+ ที่ทั้งสองประเทศต่างมีทัศนคติเปิดกว้าง

“เราเห็นว่าไทยกับไต้หวันมีความคล้ายกันในเรื่องบรรยากาศที่เปิดกว้าง นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างคอนเทนต์ใหม่ที่สามารถเดินหน้าสู่ตลาดโลก” ซู กวน ซู กล่าวเสริม

นอกจากนี้ TAICCA ยังเล็งเห็นความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับอุตสาหกรรมไทยหลายด้าน ตั้งแต่อาหาร การท่องเที่ยว ไปจนถึงของเล่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งหมดสามารถนำ IP เข้ามาเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่างได้

IP Economy: คาแรกเตอร์ที่กลายเป็นธุรกิจ

หาก Soft Power คือเครื่องมือทางวัฒนธรรม “IP Economy” ก็คือผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจที่จับต้องได้ และ BIDC 2025 คือเวทีที่ TAICCA ใช้โชว์ศักยภาพนี้ผ่านตัวอย่างจริง

Mr. Shark: ความเรียบง่ายที่ขายได้

แองจี้ ฮู (Angie Hu) ผู้ก่อตั้ง Hu Creates

หนึ่งใน IP ที่ถูกจับตาคือ Mr. Shark คาแรกเตอร์ฉลามที่มาพร้อมลายเส้นเรียบง่ายและอารมณ์ขันตรงไปตรงมา ภายใต้การบริหารของ แองจี้ ฮู (Angie Hu) ผู้ก่อตั้ง Hu Creates

แรงบันดาลใจในการสร้าง Mr. Shark เริ่มจากความตั้งใจอยากออกแบบคาแรกเตอร์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง “ฉลาม” ที่คนมักมองว่าน่ากลัว กลับถูกปรับให้ออกมาตลก เข้าถึงง่าย และสามารถสะท้อน emotions สากล เช่น ความงง ความเซ็ง ความหิว ซึ่งทุกคนสามารถ relate ได้

“สิ่งที่ทำให้ Mr. Shark มีพลัง คือความเรียบง่ายที่ทุกคนเข้าใจได้ทันที ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศไหนก็ตาม”
แองจี้ ฮู กล่าว

ความสำเร็จของ Mr. Shark ถูกพิสูจน์แล้วผ่านความร่วมมือกับ 7-Eleven ในไต้หวัน ซึ่งสินค้าพรีเมียมขายหมดกว่า 30,000 ชิ้นภายในไม่กี่วัน และการทำสติ๊กเกอร์–ธีม LINE ที่ติดอันดับยอดนิยม ก่อนจะต่อยอดสู่การ co-branding กับ Watsons ที่ฮ่องกง ซึ่งขยายสู่ตลาดไทยและฟิลิปปินส์ในเวลาต่อมา

สำหรับตลาดไทย แองจี้มองว่าเป็น test market ที่เปิดรับคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ และสนใจหาพาร์ตเนอร์ local สำหรับ co-branding และสินค้า lifestyle เพื่อสร้าง engagement กับคนไทย

Maomaochong: ความน่ารักที่มีข้อคิด

เอมี่ เชน (Amy Chien, Licensing Manager) และ เคท ชาง (Kate Chang, CEO) จากค่าย INDOT IMAGE เจ้าของคาแรกเตอร์ Maomaochong

อีกตัวอย่างคือ Maomaochong คาแรกเตอร์หนอนผีเสื้อใส่หมวกสตรอว์เบอร์รีพร้อมผองเพื่อนอีก 9 ตัว จากค่าย INDOT IMAGE ที่ก่อตั้งโดย เคท ชาง (Kate Chang, CEO) และบริหารงานลิขสิทธิ์โดย เอมี่ เชน (Amy Chien, Licensing Manager)

“เราตั้งใจให้ Maomaochong เป็นเหมือนเพื่อนร่วมทาง ที่ช่วยเตือนให้ผู้คนเห็นคุณค่าของความเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน” เคท ชาง เล่า

ด้วยอายุแบรนด์กว่า 20 ปีและฐานแฟนบนโซเชียลกว่า 700,000 คน Maomaochong ประสบความสำเร็จในกลุ่มพนักงานออฟฟิศและผู้หญิงวัยทำงาน อีกทั้งยังมีผลงาน co-branding กับ 7-Eleven, Watsons และบัตรเครดิต ซึ่งเป็นโมเดลที่สามารถนำมาต่อยอดในไทยได้ สำหรับในตลาดโลก ทีมงาน Maomaochong ปรับ tone ให้เข้ากับ ลักษณะของแต่ละประเทศ: ญี่ปุ่นเน้น clean & minimal, จีนเน้น scale และสินค้า mass, ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องปรับ humor และความอบอุ่นให้เข้ากับคนในภูมิภาค

“เรามองว่าตลาดไทยมีบรรยากาศที่อบอุ่นและเปิดกว้าง คาแรกเตอร์ของเราสามารถเชื่อมโยงกับคนไทยได้อย่างดี” เอมี่ เชน กล่าวเสริม

ก้าวต่อไป: จากโชว์เคสสู่ความร่วมมือ

นอกจากการจัดแสดง TAICCA ยังสร้างเวทีเชื่อมเครือข่ายจริงผ่าน Business Pitching & Networking Session ที่เปิดให้จับคู่ธุรกิจโดยตรง และ Pop-up Store ที่ Medium & More ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เพื่อให้ผู้บริโภคไทยได้สัมผัสสินค้า IP อย่างใกล้ชิด

“เรามาที่นี่เพื่อสร้างเครือข่ายที่แท้จริง และเชื่อว่าการร่วมมือกับไทยจะทำให้คอนเทนต์ของเราก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างยั่งยืน” ซู กวน ซู กล่าวทิ้งท้าย

TAICCA บุกไทยครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดตัว แต่ยังเป็นการปักหมุด “Soft Power Strategy” ที่ใช้วัฒนธรรมเป็นฐาน และ “IP Economy” ที่เปลี่ยนคอนเทนต์ให้กลายเป็นธุรกิจจริง กรณีของ Mr. Shark และ Maomaochong แสดงให้เห็นแล้วว่า คาแรกเตอร์สามารถเป็นสินทรัพย์ที่ข้ามพรมแดนได้

สำหรับแบรนด์และครีเอเตอร์ไทย โอกาสจึงไม่ใช่เพียงการได้เห็น IP เหล่านี้ แต่คือการก้าวเข้าสู่ความร่วมมือ ที่อาจทำให้ไทย–ไต้หวันกลายเป็นพันธมิตรใหม่ในการผลักดัน Soft Power สู่ตลาดโลกในอนาคต


  •  
  •  
  •  
  •  
  •