
KFC ประเทศไทย เปิดตัวเมนูพิเศษ “ชิซซ่า” (Chizza) ซึ่งเป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างไก่กรอบฮอทแอนด์สไปซี่กับรสชาติพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยน การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดในการสร้าง buzz และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่

ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ Fusion Marketing Strategy การผสมผสานสองอาหารยอดนิยมเข้าด้วยกัน ไก่ทอด + พิซซ่า เป็นการสร้าง Unique Selling Proposition (USP) ที่แตกต่างจากคู่แข่ง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ การสร้าง Limited Time Offer (LTO) Strategy การกำหนดระยะเวลาจำหน่าย 25 กันยายน – 29 ตุลาคม 2568 (35 วัน) เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการสร้าง Sense of Urgency ให้ผู้บริโภครีบตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังเพิ่มความพิเศษและ Exclusivity ของผลิตภัณฑ์ ลดความเสี่ยงหากผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลัก ที่ต้องการจะมัดใจ ทาง KFC ไทย บอกว่าเป็น Gen Z-Focused Positioning การกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักเป็น Gen Z ที่มีลักษณะชื่นชอบความแปลกใหม่และการทดลอง มีพฤติกรรม Social Media Savvy และต้องการประสบการณ์ที่ “Instagrammable”

ในขณะที่หากวิเคราะห์เชิงโครงสร้างราคา การกำหนดราคาแบบ tiered pricing เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด โดย ชิซซ่า 1 ชิ้น ในราคา 49 บาท ทำหน้าที่เป็น Entry Price Point ที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่ต้องการลองรสชาติใหม่โดยไม่ต้องลงทุนมาก ขณะที่ แก๊งชิซซ่า 3 ชิ้น ในราคา 129 บาท เป็น Value Pack ที่ช่วยเพิ่ม Average Order Value และส่งเสริมการบริโภคในกลุ่ม สำหรับ เดอะบอกซ์ ชิซซ่า ในราคา 169 บาท เป็น Premium Bundle ที่นำเสนอ Complete Meal Solution ครบครันสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารมื้อหลัก ราคาเริ่มต้น 49 บาทถือว่าเป็น Penetration Pricing ที่ช่วยลดอุปสรรคในการทดลองของผู้บริโภค
จุดแข็งของแคมเปญนี้คือ Product Innovation ความคิดสร้างสรรค์ในการผสมผสาน ไก่กรอบฮอทแอนด์สไปซี่ (แบรนด์ซิกเนเจอร์ของ KFC) ซอสพิซซ่าสูตรเฉพาะมอสซาเรลล่าชีสและพาร์สลีย์ ผ่าน การนำเสนอที่ดึงดูดสายตา (Visual Appeal) เหมาะสำหรับการแชร์บน Social Media รวมไปถึง Nostalgia Marketing การใช้คำว่า “ชิซซ่า” ที่ฟังดู Catchy และง่ายต่อการจดจำ

บทสรุป
เมนู “ชิซซ่า” ของ KFC เป็นตัวอย่างที่ดีของ Product Innovation Marketing ที่ผสมผสานกลยุทธ์หลายด้าน ทั้ง Limited Edition Strategy, Fusion Concept, และ Gen Z Targeting การกำหนดราคาที่เข้าถึงได้และการใช้ช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ความสำเร็จของแคมเปญนี้จะขึ้นอยู่กับการ Execution ที่ดี การสร้าง Buzz บน Social Media และการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความคาดหวังที่สร้างขึ้น หากประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็น Case Study ที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ดในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่


