ในโลกการตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเต็มไปด้วยการแข่งขัน ธุรกิจไม่อาจพึ่งพาเครื่องมือเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า การสร้างยอดขาย และการขยายแบรนด์ ล้วนต้องการโซลูชันที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ
BUZZEBEES จึงเดินหน้าในบทบาท “Full Funnel Ecosystem Player” โดยสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ทุกขั้นตอนของการตลาด ตั้งแต่การเข้าถึงลูกค้าใหม่ (Acquisition) ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์การซื้อและความภักดีระยะยาว (Retention) จุดยืนใหม่นี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการยกระดับการตลาดไทยให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

Full Funnel Marketing Ecosystem
สิ่งที่ทำให้ BUZZEBEES แตกต่างคือการผสานการทำงานของ 3 เสาหลัก ได้แก่ Buzzebees Loyalty & Engagement, Hive Commerce, และ Mediabuzz เข้าด้วยกันจนเกิดเป็น ecosystem ที่ครบวงจร นักการตลาดจึงไม่ต้องแยกแก้ปัญหาเป็นส่วน ๆ แต่สามารถวางแผนและดำเนินกลยุทธ์ได้ต่อเนื่องตลอดทั้ง funnel
- Acquisition → ใช้ Mediabuzz สร้างการรับรู้และยอดขายจริงผ่าน KOL, Influencer และ Affiliate
- Conversion → Hive Commerce ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ปิดการขายในช่องทางออนไลน์
- Retention → Buzzebees Loyalty & Engagement รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยระบบ CRM และ Loyalty ที่ยืดหยุ่นและใช้ AI เสริมประสิทธิภาพ
ด้วยโครงสร้างนี้ BUZZEBEES จึงไม่ได้มองตัวเองเป็นผู้ให้บริการด้านใดด้านหนึ่ง แต่เป็นผู้สร้าง ecosystem ที่รองรับธุรกิจได้ทั้งระบบ
เสาหลักธุรกิจใน Ecosystem
1. Buzzebees Loyalty & Engagement
หัวใจของ BUZZEBEES คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์ม CRM และ Loyalty ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ปัจจุบันให้บริการกว่า 3,000 แพลตฟอร์ม ครอบคลุมทั้งไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา
คุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท BUZZEBEES อธิบายว่า บริษัทได้ยกระดับจากผู้ให้บริการ Loyalty Platform ในอดีต สู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน จุดแข็งล่าสุดคือการพัฒนาเป็น AI-Powered Loyalty Platform ที่ช่วยให้นักการตลาดทำงานได้แม่นยำและตอบสนองผู้บริโภคได้แบบเฉพาะบุคคล
ฟีเจอร์สำคัญที่น่าจับตา ได้แก่:
- AI-Agentic Analysis: วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเสนอแผนการตลาดที่ทำงานได้จริงและวัดผลได้
- AI-Automation: จัดกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติและส่งข้อเสนอแบบ personalized ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
- ReceiptIQ: ระบบตรวจสอบใบเสร็จอัจฉริยะที่ช่วยให้การทำแคมเปญง่ายขึ้น พร้อมความสามารถตั้งค่าซับซ้อนสำหรับการตลาดทุกรูปแบบ
การมีเครื่องมือเหล่านี้ทำให้แบรนด์สามารถสร้าง retention ที่แข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งต่อยอดแคมเปญ O2O (Offline-to-Online) ได้อย่างลื่นไหล
2. Hive Commerce – E-Commerce Enabler
การเติบโตของอีคอมเมิร์ซทำให้แบรนด์ต้องการพาร์ตเนอร์ที่ช่วยจัดการทั้งกระบวนการ Hive Commerce จึงทำหน้าที่เป็น E-Commerce Enabler แบบครบวงจร ตั้งแต่การวางกลยุทธ์การตลาด การจัดการร้านค้าออนไลน์ การทำ Live Commerce ไปจนถึงบริการ Fulfillment
Hive Commerce เป็น Certified Enabler ของแพลตฟอร์มชั้นนำทุกแห่ง ทั้ง Lazada, Shopee และ TikTok รวมถึง Brand.com ของแต่ละธุรกิจเอง ปัจจุบันมีแบรนด์ที่ไว้วางใจเลือกใช้บริการมากมาย อาทิ Tipco, Kate, I.P.One และไทยน้ำทิพย์
ในปี 2567 Hive Commerce สร้างผลงานโดดเด่นด้วย GMV ที่เติบโตเกือบ 50% โดยเฉพาะ TikTok ที่ยอดขายพุ่งขึ้นเป็นเท่าตัว เป้าหมายของปี 2568 คือการช่วยแบรนด์ขยายยอดขายให้เติบโตได้สูงสุดถึง 10 เท่า และก้าวขึ้นเป็น E-Commerce Enabler ชั้นนำของประเทศ
3. Mediabuzz – Influencer & Affiliate Marketing
อีกหนึ่งเสาหลักสำคัญที่ต่อเติม ecosystem ของ BUZZEBEES ให้สมบูรณ์คือ Mediabuzz ธุรกิจด้าน Digital Marketing ที่ออกแบบมาเพื่อมุ่งสู่ผลลัพธ์จริง (performance-driven) มากกว่าการทำแคมเปญเพื่อการรับรู้เพียงอย่างเดียว จุดแข็งของ Mediabuzz คือการสร้าง Conversion ผ่านเครือข่าย KOL, Influencer และ Affiliate ที่สามารถวัดผลและจ่ายตามผลงานได้
เพื่อยกระดับศักยภาพอย่างรวดเร็ว BUZZEBEES ได้ขยาย Mediabuzz ผ่านการเข้าซื้อกิจการ Insightout เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านครีเอทีฟและการตลาดดิจิทัล รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ “ติดโปร” เพจด้าน Affiliate อันดับต้น ๆ ของประเทศ ทำให้ Mediabuzz ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในปี 2568 พร้อมทั้งคว้ารางวัลระดับภูมิภาคอย่าง Shopee Best Performance และ Lazada SEA Awards 2025 – Thailand Affiliate of the Year
อีกก้าวสำคัญคือการเปิดตัว “CREATE” แพลตฟอร์ม Affiliate Marketing ที่เปิดพื้นที่ให้ Creator ทุกระดับเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจได้จริง จุดเด่นคือการใช้ Data และ AI ในการจับคู่ (AI-Match) ระหว่างแบรนด์กับ Creator ให้เหมาะสมที่สุด พร้อมระบบ Affiliate Engine ที่ช่วยสนับสนุนการสร้างยอดขาย ปัจจุบันเพียง 1 เดือนหลังการเปิดตัว CREATE ก็สร้าง GMV ได้เกือบ 100 ล้านบาท จากเครือข่าย Creator กว่า 300 ราย และกำลังเดินหน้าเป้าหมายสู่การเป็นแพลตฟอร์ม Creator & Affiliate ที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย

Regional Growth & Vision
การสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงไม่ได้หยุดเพียงตลาดในประเทศ BUZZEBEES ยังขยายไปสู่เวทีภูมิภาค ปัจจุบันมีการให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา โดยมีพันธมิตรแพลตฟอร์มกว่า 3,000 แพลตฟอร์ม และผู้ใช้งานรวมกว่า 200 ล้านบัญชี
คุณไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BUZZEBEES กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ “Connecting the World” การเชื่อมโยงธุรกิจทุกขนาดในภูมิภาคให้เติบโตไปด้วยกัน โดย BUZZEBEES มองว่าการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรทั้งด้าน Loyalty, E-Commerce และ Influencer Marketing จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับศักยภาพของธุรกิจไทยสู่มาตรฐานระดับโลก
เป้าหมายปี 2568
สำหรับปี 2568 BUZZEBEES วางเป้าหมายรายได้รวมที่ 3.4 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าเพิ่มพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ ecosystem เติบโตต่อเนื่อง วิสัยทัศน์ดังกล่าวสะท้อนความตั้งใจที่จะไม่เพียงสร้างโซลูชันการตลาด แต่สร้าง “โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล” ที่ธุรกิจทุกประเภทสามารถใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้จริง
Why Buzzebees Matters
ท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยผู้เล่นด้าน Martech มากมาย BUZZEBEES สร้างความแตกต่างด้วยการยืนหยัดในฐานะ “Full Funnel Ecosystem Player” ที่ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างการรับรู้ การปิดการขาย ไปจนถึงการรักษาลูกค้าในระยะยาว
จุดแข็งที่ผสานกันทั้งสามด้าน — AI-Powered Loyalty & Engagement, Hive Commerce ที่ช่วย scale การขาย, และ Mediabuzz ที่ขับเคลื่อนด้วย Creator Economy — ทำให้ BUZZEBEES ไม่เพียงตอบโจทย์การตลาดในปัจจุบัน แต่ยังวางรากฐานให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ในภาพใหญ่ BUZZEBEES จึงไม่ใช่เพียงผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แต่เป็น พาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ที่สร้างระบบนิเวศเพื่อการเติบโตของธุรกิจไทยและภูมิภาค