
นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยถึงความสำเร็จของกลยุทธ์มาสคอต ว่า กลยุทธ์มาสคอตมาร์เก็ตติ้งปีนี้ยังไปต่อ โดยมีมาสคอตเกิดใหม่จากหลายแบรนด์ที่ต่างก็มีความน่ารัก สดใส โดยเฉพาะความดีดเด้งที่กลายเป็นฟังก์ชั่นหลักที่ทุกมาสคอตต้องมี ล่าสุดยังมีเหนือไปกว่านั้นอีกขั้นคือมาสคอตที่สามารถปล่อยกลิ่นได้ วันนี้จะพาไปรู้จักกับ “น้องหมีโคซี่” มาสคอตจากแบรนด์ “คลีนซี่” (Kleansy) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน ภายใต้ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านผลิตป้องกันกำจัดแมลงเชนไดร้ท์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทีโพล์ที่ใช้ในบ้านเรือนและอุตสาหกรรม ที่ได้มาตรฐานระดับสากลจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้เปิดตัวในปีนี้และได้สร้างประสบการณ์ความสะอาดหอมสดชื่นด้วยกลิ่นยูคาลิปตัส (Organic Eucalyptus Oil) จากประเทศออสเตรเลีย เมื่อน้องหมีโคซี่ปรากฎตัวในทุกสถานที่ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้วิ่งเข้ามาโอบกอดสูดกลิ่นน้องหมีแบบที่มาสคอตอื่น ๆ ไม่เคยทำมาก่อน

“เราต้องการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม โดยเราโฟกัสไปที่การตลาดดิจิทัลเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายครัวเรือนยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์พิเศษในขณะทำงานบ้าน แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอเพราะการตลาดดิจิทัลยังไม่สามารถชูเอกลักษณ์ของคลีนซี่ คือกลิ่นหอมของ Organic Eucalyptus จากประเทศออสเตรเลียได้ จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์มาสคอต ‘น้องหมีโคซี่’ ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษคือ สามารถสร้างกลิ่นหอมยูคาลิปตัสได้ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความสะอาด และได้รับประสบการณ์กลิ่นหอมผ่อนคลายของยูคาลิปตัสอันเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน” โดยกลยุทธ์มาสคอตมาร์เก็ตติ้งของคลีนซี่เป็นแบบ Online to On ground กล่าวคือมีการใช้คาแรกเตอร์หมีโคซี่บนเนื้อหาดิจิทัลทุกช่องทาง เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักความน่ารักหลังจากนั้นก็เปิดตัวมาสคอตหมีโคซี่ที่สามารถปล่อยกลิ่นหอมยูคาลิปตัสได้ในทุก ๆ สถานที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตามกำหนดการที่วางไว้ ทำให้ลูกค้าสามารถติดตามได้ว่าน้องหมีโคซี่จะไปที่ไหนบ้าง เพื่อพาสมาชิกในครอบครัวไปเจอกับมาสคอตหมีหอมที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นและอยากสัมผัสสักครั้ง”นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์กล่าว

โดยตลอดช่วงเวลาเปิดตัว มาสคอต “หมีโคซี่” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่เข้ามาสัมผัสประสบการณ์หอมกลิ่นยูคาลิปตัส และความนุ่มนิ่มละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้ลูกค้าที่ได้รู้จักต่างพากันตั้งชื่อเล่นของมาสคอตว่า “น้องหมีหอม” และกลายเป็นชื่อเล่นติดปากของกลุ่มลูกค้าในที่สุด ทั้งนี้ “หมีโคซี่” หรือ “น้องหมีหอม” ยังเตรียมออกเดินสายแนะนำผลิตภัณฑ์ Kleansy ในต่างจังหวัดอีกด้วย รวมถึงเตรียมพบกับหมีโคซี่ในหลากหลายรูปแบบดิจิทัลเร็ว ๆ นี้

นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับกลยุทธ์เปิดตัวแบรนด์คลีนซี่ (Kleansy) ไม่ได้มีเพียงแค่การใช้มาสคอตเท่านั้น แต่ยังเจาะกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดด้วยกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ทั้ง Web Films ที่ใช้ Online Influencer และ KOL อาทิ คุณเม พรีมายา (@may.primaya) คุณมินต์ มินต์สเตอร์ (@mmynster) ครอบครัวเบอห์เมอร์ (@somethingaboutcc) และ คุณมอส มัดจุก (@mosjookqs) มาเป็นตัวแทนของผู้ใช้จริงกลุ่มแรกที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์คลีนซี่ก่อนใคร ประกอบกับกลยุทธ์ Micro/Nano Influencer รวมถึงเนื้อหาจากผู้ใช้งานจริง (Real User Content) เป็นเสมือนตัวแทนผู้บริโภคบอกเล่าประสบการณ์ใช้งานผ่านเครือข่ายดิจิทัลทุกแพลตฟอร์ม กล่าวได้ว่าแม้กลยุทธ์ Mascot Marketing จะเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้มาอย่างยาวนาน แต่ในหลายปีที่ผ่านมา ก็มีการอัปเกรดให้มาสคอตมีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในหลายรูปแบบ การมีแอคชั่น หรือ เต้นหนักแบบไม่เกรงใจใคร และในวันนี้ Mascot Marketing ยังให้ประสบการณ์กลิ่นหอมกับลูกค้า ซึ่งการตลาดดิจิทัลไม่สามารถทำได้ จึงเป็นที่น่าสนใจว่า Mascot Marketing ยังเป็นกลยุทธ์ที่มีการเติบโต ถ้าหากแบรนด์สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นให้มีปฏิสัมพันธ์สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับลูกค้า โดยที่สามารถตอบวัตถุประสงค์ทางการตลาดควบคู่กันได้

สามารถสัมผัสประสบการณ์หอมกลิ่นยูคาลิปตัสออร์แกนิกจากประเทศออสเตรเลียกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน Kleansy ได้ที่ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ร้าน SWC Shop บนแอปพลิเคชัน e-commerce พร้อมติดตามตารางการออกงานของน้องหมีหอม “โคซี่” ได้ทุกช่องทางออนไลน์ของ SWC Official

