
เรียกว่าเป็นโฆษณาคริสต์มาสอมตะจริงๆสำหรับ Hershey แบรนด์ขนมชื่อดังที่มีผลงานคลาสสิกชื่อ “Holiday Bells” และออกอากาศต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1989 ล่าสุดแบรนด์ได้เดินหน้าปรับโฉมโฆษณาไอคอนิกนี้ให้เป็นประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟสุดล้ำ ทำให้ Holiday Bells สามารถมีตัวตนจริงที่ร็อคกี้เฟลเลอร์เซ็นเตอร์ และอาจจะขยายสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นในอนาคต
ช่วงเทศกาลวันหยุดกำลังมาถึง นักการตลาดจึงมีโอกาสทองที่จะนำผลงานของแบรนด์หรือแอสเซ็ตที่ผู้บริโภคคุ้นเคยกลับมาใช้ใหม่ โฆษณาสุดคลาสสิก Holiday Bells ที่เปิดตัวเมื่อกว่า 36 ปีที่แล้ว กลับมาพลิกโฉมในรูปแบบที่ทันสมัยกว่าการซื้อโฆษณาแบบเดิม และไม่ได้ใช้ AI สร้างแอสเซ็ตขึ้นมาลอยๆ
แทนที่จะใช้วิธีที่เสี่ยงทัวร์ลงอย่าง AI แต่ Hershey เลือกผสานช็อกโกแลต Hershey Kisses สีแดง เขียว และเงินที่แสดงในโฆษณา โดยสร้างเป็นพื้นที่แสงสร้างดนตรีจากภาพไฟ LED เพื่อมอบประสบการณ์แบบโต้ตอบที่ให้ผู้มาเล่นเหยียบกราฟฟิกบนพื้น ถือเป็นการนำโฆษณามารวมเข้ากับไฮไลต์สำคัญของอีเวนท์การจุดไฟต้นคริสต์มาสที่ร็อคกี้เฟลเลอร์เซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก โดยนอกจากจะสปอนเซอร์รายการพิเศษ “Christmas in Rockefeller Center” ที่ออกอากาศ 3 ธันวาคม แล้ว Hershey ยังสร้างแคมเปญแบบมัลติแชนแนลที่มีประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟ, แพลตฟอร์มดิจิทัล, โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ
กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Hershey นำเสนอโฆษณาคลาสสิกที่ดูทันสมัย โดยไม่ทำลายความเป็นตัวตนเดิม สำหรับโฆษณาอมตะของ Hershey นั้นไม่มีบทพูด ไม่มีเซเลบฯ มีแค่ช็อกโกแลต Hershey’s Kisses ที่เคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายแต่กลายเป็นหนึ่งในโฆษณาเทศกาลที่ไอคอนิกที่สุดในประวัติศาสตร์การตลาดอเมริกัน จุดกำเนิดของตำนานนี้เกิดจากไอเดียฉับพลันระหว่างถ่ายทำแคมเปญ Holiday Bells ถูกสร้างโดย “จอห์น ดันน์” อดีตแบรนด์แมเนเจอร์ของ Hershey ในปี 1989 โฆษณาความยาว 15 วินาทีนี้กำกับโดย “คาร์ล วิลแลต” ใช้เทคนิคสต็อปโมชันแอนิเมชัน เปลี่ยน Hershey’s Kisses ให้กลายเป็นกระดิ่งที่บรรเลงเพลง “We Wish You a Merry Christmas” ซึ่งการนำโฆษณากลับมาออกอากาศอีกครั้งในรายการพิเศษ 3 ธันวาคม 2025 นี้ ทำให้งานชิ้นนี้ของ Hershey เป็นโฆษณาที่มีการออกอากาศยาวนานที่สุดของแบรนด์





