2 นาทีล้ำค่า! เมื่อ Guinness x LISA แคมเปญโยนเหรียญก่อนเริ่มเกมพรีเมียร์ลีก กลยุทธ์ปั้นแบรนด์ระดับโลก

  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อเวลา 03.00 น.ของคืนวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกเมื่อ “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล สมาชิกวง BLACKPINK ที่เวลานี้กลายเป็นเซเลปเบอร์ต้นของโลกได้ปรากฏตัวใน “พิธีโยนเหรียญ” เลือกแดนก่อนเกมพรีเมียร์ลีกระหว่างอาร์เซนอล และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

การปรากฏตัวในพิธีโยนเหรียญของลิซ่า เรียกว่าเป็นภาพที่ “ใหม่” มากๆสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเนื่องจากการที่จะมี “บุคคลสำคัญ” ได้มาร่วมพิธีโยนเหรีญก่อนเริ่มเกมพรีเมียร์ลีกนั้นมีไม่บ่อยนัก และหากมีส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาบ้าง แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่เป็นคนจาก “วงการเพลง” อย่าง ลิซ่า มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

Guinness x LISA

แคมเปญนี้ ลิซ่า ที่ได้รับเลือกจากแบรนด์ Guinness แบรนด์เบียร์ที่เพิ่งได้รับสิทธิ์เป็น Global Partner ของพรีเมียร์ลีก ให้มาร่วมแคมเปญโยนเหรียญครั้งนี้ โดยลิซ่า ปรากฎตัวในชุดเสื้อแขนยาวสีเหลือง-ดำ กระโปรงสีดำ เดินไปมอบเหรียญให้กับผู้ตัดสิน ก่อนจะมีการโยนเหรียญเลือกแดนระหว่างสองทีมก่อนเริ่มเกม โดยพิธีการใช้เวลาสั้นๆเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้นก่อนที่ลิซ่าจะเดินออกจากสนามไป

เหตุการณ์ครั้งนี้แม้แฟนบอลชาวไทยที่ดูการถ่ายทอดสดจะได้เห็นลิซ่าแค่ไม่กี่วินาที ไม่ได้เห็นโมเมนท์โยนเหรีญแต่อย่างใด แต่ภาพลิซ่า ที่แฟนๆในสนามถ่ายเอาไว้ด้วยสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการรายงานข่าวของสื่อมวลชนก็กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกเรียบร้อย พร้อมๆกับการสร้าง Brand Awareness ของแบรนด์ Guinness ไปพร้อมๆกัน

รู้จัก Guinness แบรนด์เบียร์ระดับโลก

Guinness คือแบรนด์เบียร์ที่มีต้นกำเนิดในไอร์แลนด์ เป็นเบียร์สไตล์ไอริชที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 260 ปี แม้ในไทย Guinness จะไม่แพร่หลายนักแต่นับเป็นแบรนด์เบียร์ระดับตำนานที่มีชื่อเสียงในระดับโลกโดยเฉพาะ “สีเข้มๆ” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ปัจจุบัน Guinness เป็นแบรนด์ภายใต้บริษัท Diagio บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยักษ์ใหญ่ของโลก ทำตลาดอยู่ใน 120 ประเทศทั่วโลก มียอดขายในแต่ละปีมากถึง 850 ล้านลิตร โดยแบรนด์ Guinness มีตลาดใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกามีสัดส่วนยอดขายมากถึง 40% จากยอดขายทั้งหมดทั่วโลก และยังนับเป็นหนึ่งในแบรนด์เบียร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอังกฤษรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วย

นอกจากนี้ Guinness ยังเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์เครื่องดื่มผู้ให้กำเนิด Guinness World Records ด้วยการจัดทำ Guiness Book of Records ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1955 เพื่อใช้ในการบันทึกสถิติโลกในเรื่องต่างๆหนึ่งในกลยุทธ์ในการโปรโมทแบรนด์ Guinness ในเวลานั้น ก่อนที่ Guinness World Records จะแยกตัวเป็นอิสระจากแบรนด์ Guinness ในปี 2001

Guinness World Records เปลี่ยนเจ้าของมาหลายครั้ง โดยในปัจจุบันเป็นของกลุ่มบริษัท The Jim Pattison Group กลุ่มทุนจากประเทศแคนาดา และก็ยังคงใช้ชื่อ Guinness World Records แบบเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

Guinness สู่ Global Partner ของพรีเมียร์ลีก

เครดิตภาพ www.premierleague.com

หลังแบรนด์ Budweiser ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาสปอนเซอร์กับพรีเมียร์ลีก แบรนด์ Guinness ก็ตัดสินใจเข้ามาเซ็นสัญญาเป็น Global Partner แทนในเดือนเมษายน 2024 ด้วยมูลค่าสัญญา 52 ล้านปอนด์ ระยะเวลาสัญญา 4 ปี โดยจะเข้ามาเป็นแบรนด์เบียร์ของพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ  โดยได้สิทธิ์ในการโฆษณาผ่านสื่อของ “พรีเมียร์ลีก” ในหลากหลายช่องทางรวมถึงได้รับสิทธิขายเบียร์ให้กับผู้ชมในสนามที่มีการแข่งขันด้วย

ดีลนี้เรียกว่า Guinness จะได้ประโยชน์มหาศาลเรื่องแรกก็คือการทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มแฟนบอลทั่วโลกได้ เพราะ พรีเมียร์ลีก นับเป็นลีกฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ชมฟุตบอลจำนวนมากถึง 900 ล้านครัวเรือนใน 189 ประเทศทั่วโลกเรียกว่าเป็นการทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์ใน “ระดับโลก” มากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ยังเป็นการขยายตลาดในสหราชอาณาจักรอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญของแบรนด์ Guinness ในเวลานี้ นับเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการต่อยอดความสำเร็จของ Guinness 0.0 เบียร์ไร้แอลกอฮอล์ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2023 และขยายฐานการรับรู้แบรนด์นี้ให้กว้างมากขึ้น

ที่สำคัญก็คือ ดีลนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นสากลมากขึ้นให้กับแบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นเป้าหมายที่หลายๆแบรนด์ทำตลาดอยู่ และที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือการเลือก ลิซ่า มาร่วมงานก็จะช่วยทำให้ Guinness เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นการวาง Positoin ให้แบรนด์อยู่ในระดับโลกได้ด้วย

Guinness x LISA ส่งแบรนด์ให้แมสระดับโลก

ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็น ลิซ่า รวมมือกับแบรนด์ระดับโลกมากมายไม่ว่าจะเป้น Louis Vuitton, Celine, Bvlgari, MAC Cosmetics, Adidas หรือแม้แต่แบรนด์แอลกอฮอล์ อย่าง Chivas Regal แสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ที่หลากหลายไปกันได้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งแฟชั่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงแบรนด์กีฬา

ไม่ใช่ความโด่งดังเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้นแต่เป็นความโด่งดังที่เข้าถึงแทบทุกทวีปของโลก สิ่งนี้สะท้อนผ่านยอดผู้ติดตามใน Social Media นับเฉพาะบัญชี Instagram ก็มีมากถึง 105 ล้าน Follower ไปแล้ว ดังนั้นหนึ่งสิ่งที่จะทำให้แบรนด์ที่ร่วมงานกับลิซ่าได้ก็คือ ภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์ที่แมสในระดับโลกและสามารถสื่อสารไปถึงผู้ติดตามนับร้อยล้านคนนี้ได้

นอกจากนี้การร่วมมือกับลิซ่ายังทำให้แบรนด์ Guinness ที่เป็นแบรนด์ระดับตำนาน ปรับภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการผูกแบรนด์เข้ากับ “วัฒนธรรมป็อป” ที่เป็นเทรนด์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเวลานี้

ความโด่งดังของลิซ่าที่จะเป็นที่พูดถึงในทุกๆความเคลื่อนไหวส่งผลให้การเลือกลิซ่าในพิธีโยนเหรียญก่อนเริ่มเกมสำคัญในพรีเมียร์ลีกไม่ใช่แค่พิธีกรรมไร้ความหมายใน 2 นาทีเท่านั้น แต่ 2 นาทีนี้ยังเป็นโมเมนท์ที่จะสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียออกไปทั่วโลกได้ และไม่เฉพาะแบรนด์ Guinness เท่านั้นที่จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น แต่ “พรีเมียร์ลีก” เองได้ประโยชน์จากการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านความเป็นไอค่อนระดับโลกของลิซ่าได้ด้วยเช่นกัน

ปรากฏการณ์ครั้งนี้เรียกว่าเป็นอีกสิ่งยืนยันความดังแบบยืนหนึ่งของ ลิซ่า ได้อย่างแท้จริงจนทำให้หลายๆแบรนด์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ระดับ Global และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ เลือกที่จะร่วมงานกับลิซ่ากันอย่างต่อเนื่อง และนี่ก็เป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับการสร้างแบรนด์ในหลายๆอุตสาหกรรมได้


  • 10
  •  
  •  
  •  
  •