การใช้ Influencer นั้นนับว่าเป็นหนทางหนึ่งในการนำพาแบรนด์ของคุณออกไปหากลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างรวดเร็วแถมยังสามารถเพิ่มการขายสินค้าและบริการได้ด้วยถ้าทำด้วยวิธีที่ถูกต้องและถูกการเลือก Influencer ที่ถูกคนขึ้นมา เพราะด้วย Influencer ที่ดีต่างมีความน่าเชื่อถือต่อแฟน ๆ ตัวเองที่ติดตามอย่างมาก และมีความน่าเชื่อถือสูงในการแนะนำสินค้าและบริการให้กลุ่มผู้ที่ติดตามตัวเองฟัง ดังนั้นการที่แบรนด์เลือกใช้ Influencer ที่ดี ต่างก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ไปกับกลุ่มผู้ติดตาม Influencer ด้วย
แต่ปัญหาการใช้ Influencer นั้นก็มีมากมาย ดังที่ได้เคยกล่าวไปในบทความ “จุดจบ Influencer แบบจ้างพูด เมื่อวิธีการแบบนี้มันล้าสมัยไปแล้วในอเมริกา” ทำให้การเลือกหา Influencer ที่ใช่สำหรับแบรนด์นั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังไม่ใช่แค่การเลือกให้ถูกเพียงอย่างเดียวที่สำคัญ หลังจากเลือก Influencer ที่ใช่แล้วสำหรับแบรนด์แล้ว กระบวนการที่จะสามารถทำงานร่วมกับ Influencer ให้ได้ดีและราบรื่นจนได้งานที่มีประสิทธิภาพออกมานั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อที่จะช่วยนักการตลาดให้สามารถทำงานกับ Influencer จนได้งานที่เยี่ยมยอดออกมา นี้คือ 5 วิธีที่ควรเอาไปใช้ในการทำงาน
1. ศึกษา Influencer ให้ดีก่อนเริ่มงาน : สิ่งหนึ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกหลังจากได้ Influencer ที่จะร่วมงานมาด้วยมาแล้ว คือการใช้เวลาในการศึกษา Influencer นั้นให้ถ่องแท้เสียก่อนว่าเป็นคนอย่างไร มีสไตล์การทำงานแบบไหน และมีอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้ รวมทั้งการเข้าใจประเด็นที่ Influencer ที่เลือกมานั้นกำลังมีความสนใจอยู่ หรือชอบที่จะสื่อสารออกไปให้กับผู้ที่ติดตามตัวเอง เพื่อที่จะสามารถร่วมงานได้ราบรื่นทางนักการตลาดเองก็ควรจะหาแง่มุมที่แบรนด์ตัวเองเข้ากับความสนใจของ Influencer ที่เลือกมาได้ เพื่อที่เวลาทำงานการทำงานจะมีการสื่อสารที่โปร่งใสอย่างมา มีความเข้าใจในเชิงลึก และสร้างความน่าเชื่อถืออย่างมากออกไปสู่กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย
2. เข้าใจว่าคุณจะช่วย Influencer ได้อย่างไร : เมื่อคุณได้ศึกษา Influencer คนดังกล่าวได้อย่างลึกซึ้งแล้ว สิ่งต่อมาคือการสร้างกลยุทธ์ในการที่จะเข้าหา Influencer เหล่านั้นขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรให้ Influencer ที่คุณสนใจนั้นกลับมาสนใจในแบรนด์คุณเช่นกัน (แม้ว่า Influencer นั้นจะอินกับแบรนด์คุณแล้วก็ตาม) ดังนั้นเพื่อที่จะให้การทำงานนั้นดีมีความราบรื่น การเข้าใจความต้องการ Influencer ที่อยากได้จากคุณนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าคุณเข้าใจว่า Influencers อยากได้อะไรในการทำงานร่วมกับคุณ คุณจะสามารถพูดคุยในการที่จะช่วย Influencer นั้นได้อย่างง่ายได้ โดยที่บางทีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น การหาของรางวัลมาให้ผู้ที่ติดตาม หรือการให้ตัวอย่างสินค้าแบบไม่ต้องเอาคืนไปเลย เพื่อที่จะได้ทดลองได้อย่างเต็มที่ หรือจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวก Influencer ในการทำงานกับแบรนด์จนถึงทำ Matching กับ Partner อื่น ๆ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยคุณสร้างสายสัมพันธ์กับ Influencer นั้นได้ทันที
3. สื่อสารความต้องการของคุณให้ชัด : แน่นอนเมื่อต้องทำงานกับ Influencer สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำนั้นก็คือการเล่าความต้องการของคุณในการสื่อสารว่า กำลังอยากจะทำงานอะไรกับ Influencer ที่คุณเลือกมา โดยการสื่อสารที่ดี ควรจะติดต่อ Influencer ไปอย่างเป็นทางการ โดยการแนะนำตัวเอง ตำแหน่ง ชื่อบริษัท และพูดคุยว่าสะดวกในการที่จะขอทำงานร่วมในเรื่องที่แบรนด์อยากจะทำงานด้วยหรือไม่ ไม่ใช่โทรไปแล้วพูดคุยดัง Influencer นั้นเป็นลูกจ้างจนพูดจาไม่ดีใส่ได้ หรือเรียกถามแต่ราคาเหมือนจะเอาเงินฟาดหัว ทางที่ถูกต้องคือควรมีมารยาทและมอง Influencer เป็นดัง Partner ที่จะทำงานร่วมกันโดยทั้งคู่ได้ผลประโยชน์ จนถึงคนที่ติดตามก็ได้ผลประโยชน์เช่นกัน
4. ทำให้ Influencer ตอบตกลงได้ง่าย ๆ : เมื่อติดต่อ Influencer แล้วสิ่งที่ควรทำต่อมาคือการอำนวยความสะดวกในการทำงานกับ Influencer นั้น ๆ ไม่ใช่ต้องมีขั้นตอนวุ่นวายในการทำงาน หรือถ้าต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในการทำงานร่วมกับ Influencer ก็ควรจะสำรองจ่ายให้ Influencer นั้นก่อน เพราะอย่าลืมว่า Influencer นั้นเป็นบุคคลเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินสำรองที่จะทำแคมเปญให้แบรนด์ต่าง ๆ ก่อนมากมายหรือมาจ่ายค่าสื่อโฆษณาออนไลน์ด้วยตัวเองก่อน ดังนั้นเรื่องเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้งานนั้นราบรื่นในการทำงานร่วมกับ Influencer อย่าทำงานโดยเอาเครดิตเทอมมาเกี่ยวข้องเพราะตอนได้งานคุณอยากได้เลย แต่ตอนจ่ายเงินกลับอยากจ่ายโดยเครดิตเทอม
5. ติดตามผลร่วมกับ Influencer : เมื่อทำงานด้วยกันแล้ว การทำงานที่สำคัญคือการนมาร่วมนั่งทำงานด้วยกันและช่วยกันปรับปรุงงานให้ดีที่สุดขึ้นมา ดังนั้นอย่าทำงานโดยให้ Influencer ทำงานเพียงลำพัง แต่ควรจะติดตามถาม Influencer ว่ามีอะไรที่ต้องช่วยเหลือไหม หรือถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ควรจะปรึกษา Influencer ว่าจะปรับเปลี่ยนการทำงานอย่างไรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการทำงานขึ้นมา