นี่คือสรุปเนื้อหาจาก Session “Think Regional, Win Global” จากงาน Scale Fast Summit & Expo 2025 โดยคุณปณิชา ประทีปะวณิช จาก Mango China Group ที่บอกเลยว่าใครอยากไปลุยตลาดจีนแล้วไม่ได้ไปฟังในงาน ต้องอ่าน!
Insight1 ประเทศจีน ‘ไม่ใช่’ ตลาดเดียวกันทั้งหมด
คุณปณิชาเล่าให้ฟังว่า คำว่า “จะทำของขายคนจีน” เป็นคำที่กว้างไปมาก! เพราะจีนใหญ่กว่าที่เราคิด (นั่งเครื่องบินในประเทศ 4 ชม. เทียบกับมาไทยแค่ 1.5 ชม.) แต่ละพื้นที่มี Insight ต่างกันลิบลับ
เซี่ยงไฮ้ – เมืองเศรษฐกิจสุดทันสมัย ศูนย์กลางธุรกิจโลกที่คนพร้อมจ่ายเพื่อภาพลักษณ์และความดูดี สินค้ากลุ่มแฟชั่น, Luxury, สุขภาพและความงามระดับพรีเมียมจากไทย จึงมีโอกาสสูงมากที่นี่
ปักกิ่ง – เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ แต่ชีวิตคนกลับเร่งรีบและแข่งขันสูง ให้ความสำคัญกับการศึกษาและอาชีพ สินค้าที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หรือเสริมภาพลักษณ์ความสำเร็จด้านการงานจะตอบโจทย์คนเมืองนี้
เซินเจิ้น – Silicon Valley ของจีน เมืองแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ผู้คนมีความคิดสร้างสรรค์และเปิดรับความท้าทายใหม่ๆ เป็นตลาดที่เหมาะกับสินค้า Gadget หรือแบรนด์ที่สื่อสารด้วยความล้ำสมัย
กวางโจว – ศูนย์กลางการค้าแดนใต้ที่คนมี Work-Life Balance ดี และเป็นเมืองที่เปิดรับสินค้าต่างชาติมากที่สุด เพราะคุ้นเคยกับการค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นประตูบานแรกที่แบรนด์ไทยควรลองเข้าไปเจาะตลาด
เฉิงตู / ฉงชิ่ง – เมืองวัยรุ่นที่กำลังซื้อสูงจากยุทธศาสตร์ Go West ของรัฐบาล คนที่นี่ไม่สนของถูก แต่ยอมจ่ายเพื่อ ดีไซน์และความคุ้มค่า และยังเป็นฐานทัพของ Soft Power ไทยอย่างซีรีส์วาย ทำให้สินค้าที่มีดีไซน์และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมป๊อปมีโอกาสแจ้งเกิดสูง
คุนหมิง (มณฑลยูนนาน) – ตลาดที่พิสูจน์ว่าภูมิศาสตร์สำคัญที่สุด! เพราะเป็นเมืองไม่ติดทะเล คนที่นี่จึงชอบซื้อ อาหารทะเลแห้ง จากไทยกลับไป ในขณะที่การขายผลไม้อบแห้งอาจไม่เวิร์ค เพราะเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีนอยู่แล้ว
ดังนั้น ก่อนจะไปจีน ต้องตอบให้ได้ก่อนว่าสินค้าเราเหมาะกับ “คนจีนที่ไหน” นั่นเอง
Insight 2 : Gen Z vs Gen X/Y พฤติกรรมต่างกันสุดขั้ว
Gen X & Y: ยังอยู่ในวัฒนธรรมการทำงานหนักแบบ “996” (9 โมงเช้า – 3 ทุ่ม, 6 วัน/สัปดาห์) เพื่อสร้างความมั่นคง
Gen Z: เกิดเทรนด์ “ถ่างผิง” (tǎng píng) หรือ “นอนราบ” คือไม่อยากสู้ชีวิตในสังคมที่กดดันสูง เริ่ม Work-Life Balance, ใช้จ่ายแบบมินิมอล, ทำให้แบรนด์เนมยอดขายขาลง และนิยมไม่รีบแต่งงาน
ตัวเลขน่าตกใจจากปี 2024 ก็คือ คนจีนแต่งงานน้อยลง 20% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
Insight 3 : โอกาสทองอยู่ที่ไหน?
เมื่อคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป ตลาดใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาแทนที่
“ตลาดผู้หญิงโสด” กลุ่มนี้มีอิสระทางการเงินสูงมาก พร้อมเปย์ให้ตัวเองเต็มที่ สินค้ากลุ่ม แฟชั่น, บิวตี้, สุขภาพ, ไลฟ์สไตล์ มาแรงสุดๆ
ดังนั้นต้องรู้จักแพลตฟอร์ม “เสี่ยวหงชู (Red Note)” แอปฯ ที่เป็นเหมือนโลกของผู้หญิงจีน ใช้รีวิว ป้ายยา และซื้อของตามกันแบบกลุ่ม
“ตลาดสัตว์เลี้ยง (Petconomy)” เทรนด์ “เลี้ยงสัตว์แทนลูก” เติบโตมหาศาล ยอมจ่ายของแพง ของดีมีคุณภาพให้สัตว์เลี้ยง และมองว่า “สินค้าไทย = คุณภาพดี”
“ซีรีส์ Boy Love / Girl Love” กลายเป็น Soft Power ที่ทรงพลังของเรา เพราะเป็นสิ่งที่ยัง “ต้องห้าม” ในจีน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ทำให้คอนเทนต์ไทยดังเป็นพลุแตก แฟนคลับจีนพร้อมแปลซับเอง ทะลุ VPN มาดูกันรัวๆ ดังนั้นถ้าเกาะเทรนด์นี้ทำการตลาดในจีนได้โอกาสสำเร็จก็สูง
Case Study สินค้าไทย ‘ม้านอกสายตา’ ที่ปังในจีนแบบไม่น่าเชื่อ
มายองเนสคิวพี (รสศรีราชา / ทรัฟเฟิล): แบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังในจีนอยู่แล้ว แต่ 2 รสนี้มีขายแค่ในไทย! เริ่มจากมีคนรีวิวใน เสี่ยวหงชู (Red Note) จนกลายเป็นของ Must-have ที่ต้องหิ้วกลับไป
ยาสระผมฟอลเลส: ตอนแรกสื่อสารเรื่อง “ผมร่วง” แต่ไม่เวิร์ค เพราะคนจีนจะไปหาหมอแผนจีนแทน เลยเปลี่ยน Key Message ใหม่ให้ตรง Insight ที่ว่า “คนจีนไม่ได้สระผมทุกวัน” เป็น “สระครั้งเดียว สดชื่นนาน 3 วัน” ปรากฏว่า ยอดขายพุ่ง
มาม่า: จากเดิมที่คนจีนซื้อแค่ “รสต้มยำกุ้ง” ก็เปลี่ยนเกมใหม่ ดันทุกรสชาติที่เป็นอาหารไทยเข้าไปใน เสี่ยวหงชู (Red Note) สร้าง Perception ใหม่ว่า “อยากกินอาหารไทย ต้องซื้อมาม่า” ทำให้คนจีนกวาดกลับไปทุกรสชาติ!
แล้วจะเริ่มยังไง?
คุณปณิชาบอกว่าต้อง เจาะให้ถูกแพลตฟอร์ม ยอดฟอลใน Facebook, IG = 0 สำหรับคนจีน ดังนั้นเราต้องไปที่ เสี่ยวหงชู (Red Note), Douyin (TikTok จีน) ให้ได้
วางสินค้าให้ถูกจุด: สินค้าต้องไปอยู่ในที่ที่นักท่องเที่ยวไป เช่น Big C, 7-Eleven, Tops, Gourmet Market
ใช้ Cross-Border E-commerce: เปิดประตูสู่ตลาดจีนง่ายขึ้นผ่าน Tmall, JD.com
ออกงานแฟร์: เพื่อสร้างโอกาสและหาตัวแทนจำหน่าย
ใครที่กำลังเล็งตลาดจีนอยู่ หวังว่าสรุปนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ เพราะแม้ตลาดจีนจะใหญ่และมีโอกาสซ่อนอยู่เยอะ แต่ยังไงอินไซต์ผู้บริโภคจีนก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างแรกๆ