มาแล้ว! OpenAI เปิดตัว Sora แอปสร้างวิดีโอ AI ในไทย ที่แรกในเอเชีย

  • 8
  •  
  •  
  •  
  •  

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอไวรัลหลายตัวบน TikTok ที่สมจริงแบบสุดๆ และสร้างความสงสัยให้หลายคนว่า “นี่คือของจริง หรือ AI สร้าง?” หนึ่งในเบื้องหลังคลิป AI เหล่านั้นคือ “Sora” เทคโนโลยีจาก OpenAI ที่เปิดตัวครั้งแรกให้โลกได้เห็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ก่อนจะพัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนซึ่ง ล่าสุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ซึ่งถือแรกๆในเอเชียที่ได้ใช้งาน Sora ก่อนใคร

ทำไมต้องเป็นประเทศไทย?

OpenAI ให้เหตุผลว่า ประเทศไทยมี “ชุมชนครีเอทีฟที่มีชีวิตชีวาที่สุดในภูมิภาคนี้” ตั้งแต่นักสร้างคอนเทนต์ ศิลปิน ไปจนถึงผู้กำกับรุ่นใหม่ การเปิดตัวในไทยครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “AI Creator Community” และดูว่าครีเอเตอร์ไทยจะนำเทคโนโลยีนี้ไปต่อยอดได้อย่างไร

Sora คืออะไร?

Sora คือโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) จาก OpenAI ที่สามารถสร้างวิดีโอและเสียงที่สมจริงได้จากคำสั่งข้อความ (Text-to-Video) ที่เปิดตัวแอปที่ใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สำหรับตัวที่เปิดตัวในไทยครั้งนี้ คือแอปพลิเคชันบนมือถือ “Sora by OpenAI” สำหรับระบบ iOS โดยมีโมเดล Sora 2 เป็นเทคโนโลยีหลักอยู่เบื้องหลัง

วิธีใช้งานก็แค่พิมพ์สิ่งที่จินตนาการ เช่น “หญิงสาวกำลังเดินเลือกซื้อของในตลาดกลางคืนที่โตเกียว” และตัวแอปที่ขับเคลื่อนด้วย Sora 2 ก็จะประมวลผลสร้างวิดีโอพร้อมเสียงประกอบออกมา

นอกจากจะเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอแล้ว Sora App ยังถูกออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลในตัวด้วย ที่ให้เราสร้างและแชร์ผลงาน และสามารถหาแรงบันดาลใจจากคนอื่นได้ในที่เดียว ซึ่งมีลักษณะการใช้งานคล้ายๆกับ TikTok ปัดดูไปเรื่อยๆได้นั่นเอง

ฟีเจอร์สำคัญที่นักการตลาดและครีเอเตอร์ควรรู้

แน่นอนว่าการเปิดตัว Sora ในไทยจะส่งผลต่อวิธีคิดงานโฆษณาและคอนเทนต์ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

1. Cameo: สามารถใส่ใบหน้าและเสียงของเราในวิดีโอ AI ได้ หลังจาก Log-in เข้าไปแล้วระบบจะให้เราเซลฟี่วิดีโอสั้นๆ เพื่อให้ระบบจดจำใบหน้าและเสียงของเราเอาไว้ จากนั้นเราสามารถสั่งให้ Sora สร้างวิดีโอได้ตามต้องการโดยมีตัวเราเป็นนักแสดงได้

ด้านความปลอดภัย OpenAI ระบุว่าเราสามารถควบคุมสิทธิ์การใช้งาน Cameo ของตัวเองได้เต็มที่คือให้เราใช้ใบหน้าของเราเฉพาะเราเท่านั้น แชร์กันกับเพื่อนในทีม หรือให้ทุกๆคนใช้ก็ได้

นอกจากนี้เรายังสามารถเลือก Cameo ที่เป็นคนดังที่มีคนเปิดให้ใช้ได้ด้วย ส่วนของเราเองเราก็สามารถถอนสิทธิ์ หรือลบวิดีโอที่มีใบหน้าเราได้ทั้งหมดก็ทำได้

2. Remix: ต่อยอดไอเดียจากคนอื่น Sora เปิดให้เราสามารถ “Remix” หรือนำผลงานของคนอื่นมาต่อยอดได้ คล้ายกับการ Duet หรือ Stitch ในแพลตอื่นๆ โดยทุกวิดีโอที่สร้างจาก Remix จะมีป้ายกำกับชัดเจน และสามารถย้อนดูเส้นทางการสร้างสรรค์จากต้นฉบับได้ เหมาะสำหรับการหาแรงบันดาลใจ

3. รองรับภาษาไทย แบบเป็นธรรมชาติ จุดนี้ถือเป็นจุดเด่นเลยสำหรับเราที่เป็นคนไทย  โดย Sora รองรับคำบรรยายภาษาไทยและอีกหลายภาษา โดยที่ระบบเข้าใจ “ภาษาธรรมชาติ” หมายความว่า เราสามารถพิมพ์สั่งงานเป็นภาษาไทยเหมือนที่พูดคุยกันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเรียบเรียงประโยคเป็นภาษาอังกฤษ

4. ปรับแก้ได้ ไม่ต้องเริ่มใหม่ หากผลลัพธ์แรกยังไม่ถูกใจ เราสามารถสั่งแก้ไขได้ทันที เช่น “ทำให้การเคลื่อนไหวสมูทขึ้น” หรือ “เพิ่มแสงตอนพระอาทิตย์ตก” ก็ทำได้ระบบจะปรับวิดีโอให้โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปเริ่มสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น

5. สิทธิ์ในผลงานเป็นของเรา Sora ให้สิทธิ์เราเต็มรูปแบบในวิดีโอที่สร้างขึ้น เราสามารถดาวน์โหลด แชร์ หรือนำไปใช้งานต่อได้ ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้นโยบายการใช้งานของ OpenAI แค่นั้น

ประเด็นด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแล

แน่นอนว่าเครื่องมือที่สร้างวิดีโอได้สมจริงขนาดนี้ ย่อมมาพร้อมข้อกังวล ซึ่ง OpenAI ก็ออกมาย้ำว่าแอป Sora ออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัย โดยมีมาตรการหลักๆ เช่น

  • ลายน้ำ C2PA: ทุกวิดีโอที่สร้างจาก Sora จะมีลายน้ำและ Metadata มาตรฐาน C2PA เพื่อระบุว่าเป็นเนื้อหาที่สร้างโดย AI
  • Consent: การใช้ภาพและเสียงของบุคคลจริง ต้องผ่านความยินยอมผ่านฟีเจอร์ Cameo เท่านั้น
  • การกลั่นกรอง: ระบบจะตรวจจับและบล็อกเนื้อหาที่เสี่ยง เช่น ความรุนแรง การโฆษณาชวนเชื่อ หรือเนื้อหาทางเพศ
  • การคุ้มครองเยาวชน: มีระบบจำกัดเนื้อหาและ Parental Controls สำหรับผู้ปกครอง

ในช่วงเปิดตัว Sora App เปิดให้ใช้งานฟรี พร้อมขีดจำกัดการใช้งานที่น่าจะเพียงพอต่อการทดลองใช้งานฟีเจอร์ต่างๆทั้งหมด อย่างไรก็ตาม OpenAI หมายเหตุไว้ว่า ข้อจำกัดเหล่านี้ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต ขึ้นอยู่กับทรัพยากรการประมวลผล (Compute Constraints) ในกรณีที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากนั่นเอง

โดยสรุปแล้ว Sora จะส่งผลกระทบต่อวงการการตลาดและโฆษณาอย่างแน่นอน อย่างแรกเลยก็คือจะช่วย “ลดต้นทุน” ทั้งด้านเวลาและงบในการผลิตวิดีโอเพราะแค่มี “ไอเดีย” ก็สามารถสร้างสตอรี่บอร์ด หรือแม้แต่ Final Production ที่มีคุณภาพสูงขึ้นมาได้ ต่างจากในอดีต ที่อาจต้องใช้ทีมงาน อุปกรณ์ และเวลาในการถ่ายทำและตัดต่อ

สำหรับนักการตลาด นี่คือโอกาสในการทดสอบไอเดียแคมเปญใหม่ๆ, การสร้าง Personalized Content ในปริมาณมากๆ หรือการสร้าง Mood Board เพื่อบรีฟงานกับเอเจนซี่ได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง

สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอป Sora ได้บน App Store (iOS) เป็นที่แรกโดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ https://apps.apple.com/us/app/sora-by-openai/id6744034028 ส่วนระบบปฏิบัติการ Android นั้นอาจจะต้องรอไปก่อน


  • 8
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE