โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เปิดตัวยูนิฟอร์มใหม่ สัญลักษณ์ขององค์กรที่กล้าปรับตัวและคิดไปข้างหน้า

  • 15
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในยุคปัจจุบันที่การดูแลสุขภาพไม่ใช่เพียงเรื่องของการรักษา หากแต่เป็นประสบการณ์ที่ครอบคลุมทุกการสัมผัส โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จึงเดินหน้าอีกก้าวสำคัญ ด้วยการเปิดตัว “ชุดยูนิฟอร์มใหม่ของบุคลากร” ที่ออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด Where Function Meets Fashion สะท้อนความตั้งใจขององค์กรที่มอง “ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กที่สุด” ว่าเป็นรากฐานของความไว้วางใจในระดับโลก

“บำรุงราษฎร์ไม่เคยหยุดนิ่ง เราเปลี่ยนเพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนเสมอ” คุณนภัส เปาโรหิตย์ Chief Marketing Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าว เธออธิบายว่า การปรับโฉมยูนิฟอร์มในครั้งนี้นอกจากเป็นการอัปเดตภาพลักษณ์ ยังเป็นการรีอินเวนต์หรือปรับตัวและพัฒนาองค์กรทั้งระบบ เพื่อสะท้อนแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive & Wellness) ที่กำลังเติบโตทั่วโลก

 

การเปลี่ยนยูนิฟอร์ม: สัญลักษณ์ของวิวัฒนาการ

คุณนภัส เปาโรหิตย์ Chief Marketing Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

โดยปกติ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จะมีการปรับยูนิฟอร์มทุก 5 ปี เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและเทคโนโลยี แต่สำหรับครั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มองแค่เรื่อง “ดีไซน์” หากมองลึกถึง “ทัศนคติของผู้ให้บริการและผู้รับบริการ”

“คนรุ่นใหม่กว่า 85% ของบุคลากรเราคือ Gen Y และ Gen Z” คุณภัทรพงศ์ กาฬภักดี Chief Administrative Officer of Ancillary Services, Cancer Center, HIM & HR โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าว “เราต้องออกแบบยูนิฟอร์มที่ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง เพราะความมั่นใจของผู้ให้บริการคือความไว้วางใจของผู้ป่วย”

ยูนิฟอร์มจึงกลายเป็น “สัญลักษณ์” ของการพัฒนาองค์กรที่ไม่หยุดนิ่ง เป็นการปรับตัวที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ป่วยยุคใหม่ที่มองโรงพยาบาลเป็นพื้นที่แห่งความสบายใจ มากกว่าพื้นที่ของความเจ็บป่วย

 

แนวคิดหลัก: Where Function Meets Fashion

ยูนิฟอร์มใหม่ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สะท้อน 5 แกนสำคัญ ได้แก่ Reinvention / Safety / Agility / Pride / Sustainability

  • Reinvention คือการพัฒนาและพลิกโฉมตัวเองอย่างต่อเนื่อง
  • Safety ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของผู้ป่วย
  • Agility เพื่อความคล่องตัวของผู้สวมใส่
  • Pride คือความภาคภูมิใจของบุคลากรที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
  • Sustainability ใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    คุณภัทรพงศ์ กาฬภักดี Chief Administrative Officer of Ancillary Services, Cancer Center, HIM & HR โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

คุณนภัสอธิบายว่า “เราต้องการให้ยูนิฟอร์มสะท้อนทั้งมิติของฟังก์ชันและแฟชั่น เป็นสิ่งที่ดูดีได้แม้ในห้องตรวจ และยังคงตอบโจทย์การทำงานจริงของบุคลากรทุกระดับ”

ผลลัพธ์คือการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีดีเทลร่วมสมัย ช่วยลดความซับซ้อนของรูปแบบเดิม และสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวในทุกหน่วยงาน

 

เบื้องหลังการออกแบบ: Turnkey Collaboration กับ FN

 

หลังจากกระบวนการพิจารณากว่า 30 บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้เลือก FN เป็นพาร์ทเนอร์หลักในการออกแบบและผลิตยูนิฟอร์มใหม่ในรูปแบบ “Turnkey Project” ตั้งแต่รีเสิร์ช ดีไซน์ ไปจนถึงการผลิตจริง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องทั้งด้านความงาม ความปลอดภัย และความร่วมสมัย

“FN คือเจ้าเดียวที่กล้าออกแบบโดยใช้เทคนิคพลีทเข้ามาในยูนิฟอร์มของโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อน” คุณภัทรพงศ์เล่า “มันคือการผสานแฟชั่นเข้ากับฟังก์ชันจริง ๆ พลีทให้ความยืดหยุ่น ดูทันสมัย แต่ก็ยังรักษาความสะอาดและความคล่องตัวได้ดีเยี่ยม”

ชุดบางแบบถูกออกแบบให้มี “เอี๊ยมถอดได้” เพื่อความสะดวกในการทำงานและรักษาความสะอาดระหว่างวัน ซึ่งเป็นดีเทลที่สะท้อนแนวคิด Function meets Fashion อย่างแท้จริง

 

เทคโนโลยีของผ้าและรายละเอียดเพื่อการดูแลผู้ป่วย

ยูนิฟอร์มใหม่นี้ผลิตจากผ้า แอนตี้แบคทีเรีย (Antibacterial Fabric) ที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค และผ่านกระบวนการ Coating ป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง วัสดุถูกเลือกอย่างพิถีพิถัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและความสบายของบุคลากร

คุณนภัสกล่าวเสริมว่า “เนื้อผ้าต้องสะอาด แห้งเร็ว และไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เพราะเราต้องการให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า ชุดที่สวมใส่ในทุกวันคือส่วนหนึ่งของการดูแลที่ปลอดภัยที่สุด”

ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยเลือกใช้ผ้าที่ผลิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสอดคล้องกับพันธกิจด้าน Sustainability Healthcare ของโรงพยาบาล

 

ยูนิฟอร์มที่ลดลำดับชั้น สู่ความเป็นหนึ่งเดียวของทีมบำรุงราษฎร์

 

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ไม่ได้เป็นเพียง “การเปลี่ยนชุด” หากเป็น “การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร” ผ่านแนวคิดของ Inclusion & Equality

คุณนภัสอธิบายว่า “ครั้งนี้เราลดความหลากหลายของยูนิฟอร์มจากเดิม 6–7 แบบ ให้เหลือเพียงไม่กี่แบบ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าอยู่ในทีมเดียวกัน ไม่แบ่งชั้น ไม่แยกตำแหน่ง แต่ทุกคนคือผู้ให้บริการที่มีคุณค่าเท่ากัน”

แนวทางนี้ช่วยให้ภาพรวมของบุคลากรบำรุงราษฎร์ดูเป็นหนึ่งเดียว ทั้งในสายตาของผู้ป่วยและภายในทีมเอง ความแตกต่างของเนื้อผ้าและดีเทลไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง แต่ขึ้นอยู่กับ “ฟังก์ชันของงาน” ที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบจริง ๆ

“เรามองว่าทุกคนคือคนที่ส่งต่อการดูแล ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สนับสนุน ทุกคนคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์เดียวกันของผู้มารับบริการ” คุณภัทรพงศ์กล่าว

 

สีที่สื่อความหมาย – ดีไซน์ที่สะท้อนหน้าที่

 

อีกหนึ่งความตั้งใจคือการใช้ “สี” เพื่อสื่อสารบทบาทของแต่ละหน่วยงานโดยไม่ทำให้รู้สึกแบ่งแยก

  • สีขาว สำหรับพยาบาล — สีแห่งความไว้วางใจและความสะอาด ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยจากหลากหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะผู้ป่วยตะวันออกกลางคุ้นเคย
  • สีฟ้า สำหรับกลุ่ม Critical Care หรือ ICU — ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
  • สีน้ำตาล สำหรับผู้ช่วยพยาบาลและสายสนับสนุน — สื่อถึงความอบอุ่นและความมั่นคง
  • สีเขียว สำหรับ Front Service และทีมต้อนรับ — สีของการเกิดใหม่ของใบไม้ สอดคล้องกับสัญลักษณ์ต้นไม้ในโถงใหญ่ของโรงพยาบาล

การเลือกสีทั้งหมดผ่านการศึกษา Customer Feedback จากทั้งผู้ป่วยและบุคลากร เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้ง “การสื่อสารภายนอก” และ “ความรู้สึกภายใน” ของผู้สวมใส่

“แม้สีจะต่างกัน แต่โครงสร้างการออกแบบและวัสดุเหมือนกันหมด” คุณนภัสกล่าว “เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่ามีมาตรฐานเดียวกัน เป็นทีมเดียวกัน”

 

การมีส่วนร่วมจากพนักงาน 4,000 คน และกระบวนการที่ใช้เวลากว่าหนึ่งปีครึ่ง

 

เบื้องหลังของยูนิฟอร์มใหม่นี้ คือการมีส่วนร่วมของพนักงานกว่า 4,000 คน จากหลายฝ่าย ตั้งแต่กระบวนการรีเสิร์ช ทดลองสวมใส่ ให้ฟีดแบ็ก ไปจนถึงการปรับแบบต่อเนื่อง

“เราทดลองจริง ใช้จริง และเก็บ feedback อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสูตรตายตัวว่าจะต้องเปลี่ยนทุกกี่ปี เพราะสิ่งที่เราทำคือการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา” คุณภัทรพงศ์อธิบายถึงแนวคิด “Reinvent all the time” ที่จะทำให้ยูนิฟอร์มเวอร์ชันต่อ ๆ ไปยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

โครงการนี้ใช้เวลาพัฒนาเกือบ 18 เดือน ก่อนเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กันยายน วันคล้ายวันสถาปนาโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ “การเกิดใหม่” ของทั้งบุคลากรและองค์กร

 

ยูนิฟอร์มในฐานะสัญลักษณ์ของแบรนด์

 

สำหรับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ “ยูนิฟอร์ม” นอกจากเป็นชุดทำงาน ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึง Brand DNA ขององค์กรที่เชื่อในความสมดุลระหว่าง “ความเป็นมืออาชีพ” และ “ความเป็นมนุษย์”

คุณนภัสกล่าวว่า “เราอยากให้คนที่เห็นยูนิฟอร์มบำรุงราษฎร์รู้สึกได้ทันทีว่านี่คือโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ และให้คุณค่าบุคลากรในทุกรายละเอียด”

ดีไซน์เรียบแต่ทรงพลัง แสดงออกถึงความเป็นแบรนด์ระดับนานาชาติที่ไม่ยึดติดกับภาพจำของ “โรงพยาบาลแบบเดิม” อีกต่อไป ขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ของความสุภาพ เรียบร้อย และไว้วางใจได้ในทุกมิติ

 

สู่ความภูมิใจร่วมกันของผู้ให้บริการ

เมื่อมองให้ลึกกว่าผืนผ้า ยูนิฟอร์มใหม่ของบำรุงราษฎร์คือเครื่องหมายของ “ความภูมิใจในวิชาชีพ” เพราะทุกคนที่สวมใส่ไม่ได้เพียงแต่งกายให้เรียบร้อย แต่กำลัง “แต่งตัวเพื่อมอบความมั่นใจให้ผู้มารับบริการ”

คุณภัทรพงศ์ทิ้งท้ายว่า “หัวใจของการให้บริการคือคน เราอยากให้พนักงานรู้ว่าทุกครั้งที่เขาใส่ยูนิฟอร์มนี้ เขาได้ใส่สิ่งที่ดีที่สุดที่องค์กรตั้งใจออกแบบมาเพื่อเขา เพื่อให้เขาส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้ป่วยอีกทีหนึ่ง”

ยูนิฟอร์มใหม่จึงไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กร หากหมายถึง ความจริงใจในทุกชั้นผ้า ที่ถักทอจากแนวคิด ความเข้าใจ และความร่วมมือของทุกคนในทีมบำรุงราษฎร์ เพื่อสานต่อคำสัญญาในการดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นเลิศในระดับโลก


  • 15
  •  
  •  
  •  
  •