เพื่อสร้างความแตกต่างและการเติบโตอย่างแข็งแรงในระยะยาว ‘บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)’ หนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีของไทยที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 22 ปี ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะไม่เป็นแค่ ‘ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์’ เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็น Lifescape Developer ผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคแบบครบทุกมิติ
แน่นอน การประกาศครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญขององค์กร และเป็นอีกความท้าทายของ ‘เพชรลดา พูลวรลักษณ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำทัพว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่นี้จะมีการขับเคลื่อนองค์กรไปในทางทิศทางใด และสร้างความแข็งแกร่งได้มากกว่าเดิมได้อย่างไร
“วันนี้เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพราะทั้งโลก การใช้ชีวิตของผู้คน เทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงแบบไม่เคยเห็นมาก่อน และเปลี่ยนเร็วมาก ถ้าเรายังยึดติดกับสิ่งเดิม อาจมีผลต่อความมั่นคงและการเติบโตในอนาคต หรือเราจะโดนล้างออกไป” ซีอีโอหญิงแห่งเมเจอร์ฯ ได้ให้คำตอบถึงที่มาของการประกาศวิสัยทัศน์ใหม่
สำหรับการแพร่ระบาดการโควิด-19 ในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ต้องปรับตัวให้ทันอย่างชัดเจน และเธอเองเชื่อว่า ‘ในทุกวิกฤตมีโอกาส เพียงแต่เราจะพร้อมสู้แค่ไหน’
ความแข็งแกร่งตลอดกว่า 22 ปีที่ผ่านมา
“ทางเมเจอร์ฯ ไม่ได้ผ่านวิกฤตนี้เป็นวิกฤตแรก บริษัทเราเกิดขึ้นในช่วงต้มยำกุ้งด้วยซ้ำ แต่ก็สามารถฝ่าฟันจนพ้นอุปสรรคต่างๆ และเกิดเป็นภูมิคุ้มกันที่สั่งสมจากการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง”
สำหรับจุดยืนที่เป็นจุดแข็งในการสร้างความแข็งแกร่งให้เมเจอร์ฯ ในตลาดลักซูรีตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ก็คือแนวคิดหลักของแบรนด์ ‘Crafting Lifescape to Excellence’ ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบคุณค่าใหม่แห่งการใช้ชีวิต ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าทั้งคุณภาพการบริการและคุณภาพของสินค้า เพราะเป้าหมายสูงสุดของเมเจอร์ คือ Top of class ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้บริโภคกำลังมองหาสินค้าในระดับลักซูรี
ไม่เพียงเท่านั้น คุณเพชรลดา ยังได้นำความเป็นตัวตน และ Passion ส่วนตัวมาสร้างจุดเด่นที่แตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้อย่างดีมาใช้กับโครงการต่างๆ ของเมเจอร์ ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาให้คอนโดมิเนียมทุกแห่งของเมเจอร์ฯ เป็น Pet-friendly residences ตั้งแต่โครงการแรกอย่างแฮมป์ตัน ทองหล่อเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว และพัฒนารายละเอียดการอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ จากประสบการณ์ที่สั่งสมระหว่างทางในการดูแลโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องดูแลและให้ความสำคัญแบบเฉพาะทาง ซึ่งเมเจอร์ฯ ได้ยกระดับการพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ Major Petscape ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงให้ครบทุกมิติ
เพราะคุณเพชรลดา เป็นคนที่รักสัตว์มาก เลี้ยงพวกเขาเหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว
และสังเกตเห็นคนจำนวนมากแอบพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักในโรงแรมหรือโครงการที่ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักด้วย
จึงคิดว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของคนที่ต่อจากนี้จะมีเพิ่มมากขึ้น ควรจะทำให้ชัดเจนและควบคุมได้
นโยบายดังกล่าว กลายเป็นโจทย์หลักในการพัฒนาโครงการอื่น ๆ จนถึงทุกวันนี้ และในอนาคต Major Petscape จะถูกพัฒนาให้มากขึ้นเพื่อยกระดับความเป็นผู้นำด้านคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ของเมเจอร์ฯ ต่อไป
“เราไม่เคยผ่อนปรนในเรื่องคุณภาพเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราได้ส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าของเราทุกคน ด้วยแนวคิด Crafting Lifescape to Excellence เราบ่มเพาะให้ทีมงานของเราใส่ใจกับทุกรายละเอียดของโครงการในทุกกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ คัดเลือกวัสดุอุปกรณ์ ควบคุมการก่อสร้าง จนกระทั่งส่งมอบถึงมือลูกค้า ให้คิดเสมือนว่ากำลังสร้างบ้านของเราเอง สร้างที่อยู่อาศัยให้ครอบครัวของเราเอง เป็นการสร้างความแข็งแกร่งตลอดกว่า 22 ปีที่ผ่านมาของเราในตลาดลักชัวรี”
ผู้นำต้องมีสติ และเข้มแข็งมากกว่าที่เคยเป็น
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ คุณเพชรลดายอมรับว่า แตกต่างจากทุกวิกฤตในอดีตที่ผ่านมา โดยความรุนแรงของวิกฤตครั้งนี้ เทียบได้กับ ‘คลื่นสึนามิลูกใหญ่’ ที่กวาดทำลายทุกอย่าง และโดนทุกคน โดนทุกราย
ดังนั้นการพาองค์กรให้อยู่รอดในภาวะนี้ได้ สิ่งสำคัญ คือ ผู้นำต้องมีสติ และเข้มแข็งมากกว่าที่เคยเป็น เพราะคนในองค์กรกำลังจับตามองอยู่ว่า เราจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาด และเธอมั่นใจว่า ไม่มีผู้บริหารคนใดหรือบริษัทไหนวางเรื่องนี้ในแผนธุรกิจ
“ทุกคนกังวล นอกจากกลัวโควิดยังกลัวตกงาน เกิดความไม่มั่นใจมากมาย เราในฐานะผู้นำต้องมีสติมาก ๆ เข้มแข็งมากกว่าที่เคยเป็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงาน ซึ่งด้วยคาแรกเตอร์ของตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมา ก็จะสื่อสารชัดเจนให้เห็นภาพทิศทางที่จะไปให้ตรงกัน ให้ทุกคนพร้อมปรับเปลี่ยนตลอดเวลา โดยเฉพาะในระดับผู้บริหาร ที่เรามีการตั้งวอร์รูม เพราะระดับผู้บริหารถือเป็นแม่ทัพของแต่ละหน่วยงาน ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานระดับปฏิบัติการ การสร้างความมั่นใจให้กับคนในองค์กร เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในฐานะผู้นำ”
มากไปกว่านั้น คือ เรื่องของ Mindset ของคนในองค์กร ซึ่งสำหรับองค์กรเมเจอร์ฯ ต้องการให้มี Warrior Mindset การเป็น ‘นักรบ นักต่อสู้’ DNA ที่ปลูกฝังกันมานานผ่าน Core values หลักปฏิบัติที่คนในองค์กรยึดถือเพื่อนำมาใช้ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน โดยมีด้วยกันทั้งหมด 7C ได้แก่ Craft ใส่ใจในรายละเอียด , Commitment ทำได้จริง , Competency ความเป็นมืออาชีพ , Collaboration ผนึกกำลังสามัคคี , Contribution การช่วยเหลือแบ่งปัน , Creativity การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และ Charisma ดูดีมีเสน่ห์
“Fighter เป็นเรื่องสำคัญในทุกยุค ส่วนตัวมักจะบอกกับทีมงานเสมอว่า คุณเลือกจะเป็น Fighter หรือ Loser ได้ ถ้า Fighter คุณจะมี growth mindset แต่ Loser คุณจะมีข้ออ้างตลอดเวลาว่า ทำไม่ได้ ทำไม่ทัน ซึ่งเราอยากให้คนในองค์กรเป็น Fighter เพื่อปลูกฝังให้คนพร้อมสู้ต่อไปกับองค์กรในทุกสถานการณ์ และสำหรับผู้ที่เลือกเป็น Loser คนเหล่านั้นก็อาจจะไม่เหมาะที่จะเป็นพนักงานของเมเจอร์ฯ
ยกตัวอย่างในเชิงบริหารมีการคุยกับทีมวิศวกรให้โจทย์ไปว่า จะทำอย่างไรให้โครงการของเมเจอร์ฯ
มีผลงานที่เป็น Zero defect ได้มากกว่า 80% เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า สิ่งนี้ในวงการอสังหาริมทรัพย์จะทราบดีว่าเป็นสิ่งที่ ทำได้ยากมาก แต่ด้วย DNA ที่ปลูกฝังกันมาของคนในองค์กรเรื่อง Warrior Mindset ก็ทำให้ทีมวิศวกรของเราไปวางแผนและคิดวิธีทำได้จนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้จริง”
Lifescape Developer ก้าวต่อไปเมเจอร์ฯ
นอกจาก Warrior Mindset แล้ว สำหรับคุณเพชรลดาการพาเมเจอร์ฯ เดินได้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้องค์กรแห่งนี้เป็น Future Proof Company จำเป็นต้องมีการ Diversify ธุรกิจแบบ 360 องศา เพื่อให้ทันโลก ทันเทคโนโลยี และทันพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ที่จากนี้เมเจอร์ฯ จะไม่ใช่ Real Estate Developer เพียงอย่างเดียว
โดยเมเจอร์ฯ จะมุ่งสู่การเป็น Lifescape Developer ผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตพร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันครบทุกมิติ
วิสัยทัศน์ Lifescape Developer จะขับเคลื่อนด้านธุรกิจที่อยู่อาศัยด้วยความเชื่อมั่นในแนวคิด Crafting Lifescape to Excellence ทั้ง 5 แกนหลัก ได้แก่
- Understanding Lifestyle เข้าใจการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ด้วยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกบริบท
- Attention to Details ทุกรายละเอียดมีความหมาย ด้วยการใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสะท้อนความเป็นลักซูรีในทุกเซ็กเมนต์
- Top-Notch Quality เรื่องคุณภาพสำคัญเป็นที่หนึ่ง ด้วยการจัดการด้านคุณภาพแบบครบวงจรตั้งแต่ก่อนการก่อสร้าง ไปจนกระทั่งหลังการส่งมอบโครงการ
- Best Caring Service บริการด้วยหัวใจ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกบ้าน
- Enduring Purpose คิดทุกมิติเพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน
ตั้งเป้าภายใน 5 ปีบรรลุเป้าหมาย
การเดินหน้าสู่ Lifescape Developer ทางคุณเพชรลดาบอกว่า วางแผนจะบรรลุเป้าหมายนี้ภายใน 5 ปี (ปี 2564-2568) โดยจะมีการเพิ่มพอร์ตสินค้าแนวราบ ปรับสัดส่วนการพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบให้กลายเป็น 75:25 อย่างปีนี้เตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท ได้แก่ บ้านเดี่ยวระดับเรือธง Malton Gates กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ที่ร่วมพัฒนากับสถาบันชั้นนำด้านสุขภาพ (Wellness Institution) ภายใต้แนวคิดที่ตอบโจทย์สุขภาพแบบองค์รวม คาดว่า จะเปิดเผยรายละเอียดของโครงการในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ จะกระจายพอร์ตธุรกิจ ระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในสัดส่วน 80:20 เริ่มต้นภายในปีนี้กับการเริ่มบุกธุรกิจใหม่ในด้านสุขภาพโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย รวมไปถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยี นำร่องเริ่มจากเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropTech), ด้านสุขภาพ (HealthTech) และด้านการเงิน (FinTech)
ด้วย Warrior Mindset หรือ ความเป็นนักสู้ ซึ่งเป็น DNA ที่ถูกปลูกฝังให้กับคนภายในองค์กรมายาวนานแบบต่อเนื่อง บวกกับการกล้า Diversify ธุรกิจแบบ 360 องศา ภายใต้กลยุทธ์ใหม่การเป็น Lifescape Developer เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ การมีทีมงานที่เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และพร้อมจะช่วยกันผลักดันให้องค์กรสามารถเดินตามความเชื่อของแบรนด์ที่วางไว้ได้อย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้
ทางคุณเพชรลดาเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตหรือมรสุมใด เมเจอร์ฯ ก็จะสามารถฝ่าไปได้ และมีการเติบโตอย่างแข็งแรงในระยะยาว