ขณะนี้มีหลายๆ ประเทศที่เริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic flight) เป็นที่เรียบร้อย เช่น จีน เวียดนาม และ กัมพูชา เป็นต้น ส่วนประเทศไทยเองมีหลายๆ สายการบินที่เริ่มส่งสัญญาณเตรียมเปิดให้บริการในเดือน ก.ค. นี้ หากรัฐบาลไฟเขียวเต็มที่
อย่างไรก็ตาม สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association – IATA) ประเมินว่า อุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศมีแนวโน้มสูงที่จะยังไม่กลับคืนสู่ภาวะปกติเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ในการพลิกฟื้นอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของไวรัส COVID-19 โดยตรง

ขณะเดียวกัน ยังประเมินว่า การเปิดตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤติไวรัสจะช้ากว่าปกติ ซึ่งอาจจะช้ากว่าวิกฤตการณ์อื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นในการเดินทางคืนสู่ปกติได้ช้านั่นเอง
IATA ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาในการสลัดความกังวลเกี่ยวกับ Coronavirus และมีข้อจำกัดทางการเงิน ซึ่งคาดว่ากว่าโลกการบินระหว่างประเทศจะฟื้นตัวได้สมบูรณ์น่าจะหลังจากปี 2023 ไปแล้ว
ทั้งนี้ การสำรวจล่าสุดของ IATA พบว่า 69% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกที่จะไม่เดินทาง มากกว่าเดินทางแล้วต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งข้อมูลพฤติกรรมใหม่ดังกล่าวนี้ IATA มองว่า เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลในแต่ละประเทศต้องพิจารณา และปรับแผนการท่องเที่ยวในประเทศให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่นี้
ทางด้าน Alexandre de Juniac ผู้อำนวยการและซีอีโอของ IATA ได้กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจการบินมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกให้ดีขึ้น ดังนั้น ไม่มีใครอยากทำให้สถานการณ์นั้นแย่ลง
นอกจากนี้ เราจำเป็นต้องมีทางออกสำหรับการเดินทางที่ปลอดภัย และแสดงให้เห็นว่าเราสามารถจัดการกับความท้าทายต่างๆ ได้ดี เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารได้อีกครั้ง ทั้งความปลอดภัย ความไม่ยุ่งยากซับซ้อน รวมทั้งให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลว่าประเทศจะปลอดภัยจากการนำเข้าเชื้อไวรัส ผ่านกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เข้ามา
นอกจากนี้ IATA ได้ระบุด้วยว่า ความต้องการในการเดินทางระหว่างประเทศในปี 2021 คาดว่าจะลดลงราว 24% ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าในปี 2019
ขณะที่ก่อนหน้านี้ IATA ได้ออกหลักเกณฑ์สำหรับสายการบินที่ต้องการจะเปิดให้บริการอีกครั้ง ว่าควรจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง ได้แก่ การใส่ใจเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง และใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำเนินการมากขึ้น

ที่มา : nypost, lonelyplanet