งานแสดงศิลปะระดับปรากฎการณ์เริ่มต้นขึ้นแล้วที่ท้องสนามหลวงในวันนี้ เพราะวันนี้ คือวันแรกของ KAWS: HOLIDAY THAILAND งานแสดงผลงานของศิลปินป๊อปอาร์ตชื่อดัง KAWS นำที่ผลงานชิ้นยักษ์มาจัดแสดงในกรุงเทพฯ โดยงานจะจัดไปจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
อีเวนต์ใหญ่นี้คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ งานนี้มีกลยุทธ์การตลาดอะไรอยู่เบื้องหลัง และ KAWS คือใคร? ทำไมถึงโด่งดังไปทั่วโลก Marketing Oops! สรุปให้อ่านในบทความนี้
KAWS คือใคร?
‘KAWS’ หรือ ‘ไบรอัน ดอนเนลลี (Brian Donnelly)’ เป็นศิลปินชาวอเมริกัน ที่เริ่มออกตระเวนสร้างงานสตรีทอาร์ตตั้งแต่อายุ 12 ปี โดย ไบรอันพ่น ‘Tag’ หรือนามแฝงประจำตัวว่า ‘KAWS’ ตามกำแพงต่างๆ ซึ่งเขาอธิบายว่าชื่อนี้ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร แต่เกิดจากความชอบส่วนตัวที่มองว่าเมื่อตัวอักษร K-A-W-S มาเรียงกันแล้วมัน “ดูสวยดี”
หลังเรียนจบศิลปะจุดเริ่มต้นอาชีพที่หลายคนอาจไม่รู้คือ ไบรอันทำงานเป็น Background Animator หรือคนวาดฉากหลังให้กับการ์ตูนเรื่องดังอย่าง “101 Dalmatians” ของ Disney และอีกหลายๆเรื่อง โดยไบรอันทำงานหลักควบคู่ไปกับการทำงานกราฟิตี้ในตอนกลางคืน
KAWS กับแนวคิด “ศิลปะที่คนเข้าถึงได้”
KAWS มีแนวคิดชัดเจนว่า “ศิลปะไม่ควรอยู่เพียงในแกลเลอรี” และ “ศิลปะที่ดีจะต้องเชื่อมโยงถึงผู้คนได้ง่าย” ทำให้เขาตัดสินใจพาคาแรกเตอร์ออกมาจากกำแพง สู่โลกของแฟชั่น อาร์ตทอย และของสะสมหลากหลายรูปแบบในเวลาต่อมา
เอกลักษณ์ที่ทำให้ KAWS เป็นที่จดจำไปทั่วโลกคือการนำคาแรคเตอร์การ์ตูนดังในวัฒนธรรมป๊อปหลายๆตัว อย่างเช่น Mickey Mouse หรือ The Simpsons มา “ดัดแปลง” โดยใส่สัญลักษณ์เครื่องหมาย “XX” ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของเขาลงบนดวงตาหรือมือ
หัวใจสำคัญของจักรวาล KAWS คือคาแรคเตอร์ที่เรียกว่า “COMPANION” ฟิกเกอร์หน้าตาคล้ายมิกกี้เมาส์ในเวอร์ชันเศร้าหรือครุ่นคิด ผสมกับหัวกะโหลกที่มีกระดูกไขว้ (puffy crossbones) และดวงตา XX ซึ่งเจ้า COMPANION นี้มีหลากหลายอิริยาบถและขนาด ตั้งแต่ของเล่นโมเดลขนาดเล็ก ไปจนถึงประติมากรรมขนาดยักษ์ที่จัดแสดงตามเมืองสำคัญทั่วโลก
เบื้องหลังความ Hype ของ KAWS
ความสำเร็จของ KAWS มาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการทำลายกำแพงระหว่างศิลปะกับผู้ชม และออกผลงานในรูปแบบที่ “ใครๆ ก็ครอบครองได้” อย่าง Art Toy จน KAWS ถูกยกให้เป็นผู้บุกเบิกวัฒนธรรมการเสพอาร์ตทอยเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ KAWS ยังแทรกซึมไปทุกวงการ ตั้งแต่การ์ตูน แฟชั่น ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือใหญ่ ราคาถูกหรือแพง ทำให้ผลงานของเขามีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักล้าน เข้าถึงแฟนคลับทุกกลุ่ม
เมื่อผลงานเป็นที่รู้จัก เหล่าคนดังระดับโลกก็เริ่มสะสมงานของ KAWS เช่น สมาชิกวง BTS อย่าง RM มี Companion หลายต่อหลายรุ่น นอกจากนี้ยังมีศิลปินดังอย่าง จัสติน บีเบอร์, คิม คาร์แดเชี่ยน และไคลีย์ เจนเนอร์ ที่ให้ความสนใจผลงานของ KAWS ก็ยิ่งสร้างความ Hype และทำให้ราคาอาร์ตทอยพุ่งทะยานไปอีกโดยราคาผลงานของ KAWS เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากราคาเฉลี่ยราว 1.3 ล้านบาทในปี 2018 พุ่งไปถึง 2.6 ล้านบาทในปีถัดๆ มา
ในสนามประมูลก็ยิ่งมีราคาหลุดโลก เช่นผลงาน The KAWS Album (2005) ผลงานชิ้นหนึ่งที่ Sotheby’s ฮ่องกง ถูกประเมินไว้สูงสุด 2 ล้านดอลลาร์ แต่ปิดประมูลไปถึง 14.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 491 ล้านบาท ซึ่งลือกันว่า “จัสติน บีเบอร์” คือผู้ชนะการประมูลครั้งนั้นไป
ความโด่งดังของ KAWS ทำให้เขาได้ร่วมงาน (Collaborate) กับแบรนด์ดังระดับโลกนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Dior, Supreme, Nike (Air Jordan), A Bathing Ape (BAPE), Uniqlo โดยเฉพาะคอลเลคชั่น KAWS x Uniqlo สร้างปรากฏการณ์ขายหมดเกลี้ยงในพริบตามาแล้วทั่วโลก
KAWS: HOLIDAY โปรเจกต์ใหญ่ที่ไปมาแล้วรอบโลก
สำหรับโปรเจกต์ KAWS: HOLIDAY เป็นซีรีส์การจัดแสดงประติมากรรม COMPANION ขนาดมหึมาในอิริยาบถต่างๆ ที่เดินทางไปปรากฏตัวตามแลนด์มาร์คสำคัญทั่วโลกมาแล้ว สร้างความตื่นตาและกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียมาแล้วหลายประเทศ ตั้งแต่โซล เกาหลีใต้, ไทเป ไต้หวัน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, เซี่ยงไฮ้ และล่าสุดที่ประเทศไทยที่ท้องสนามหลวง
นอกจากจะเป็นการแสดงผลงานของ KAWS แล้วยังเป็นประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวกับแต่ละประเทศด้วยเพราะจะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปยัง Landmark ที่มี COMPANION ไปตั้งอยู่ด้วย
KAWS: HOLIDAY THAILAND
สำหรับ KAWS: HOLIDAY THAILAND ครั้งนี้ ททท. ร่วมกับพันธมิตรนำผลงานมาสเตอร์พีซ COMPANION ขนาดยักษ์ สูงถึง 18 เมตร มาจัดแสดงที่ สนามหลวง โดยจะเป็นรูปปั้น COMPANION นั่งอยู่บนโลก และโอบอุ้มดวงจันทร์ไว้อย่างอ่อนโยน มี COMPANION ขนาดเล็กนั่งพักอยู่บนตัก
สำหรับการเลือกสนามหลวงเป็นสถานที่จัดแสดงนั้นมีความหมาย เพราะเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของไทย การนำศิลปะร่วมสมัยระดับโลกมาจัดแสดงที่นี่ จึงเป็นการเชื่อมโยงอดีตเข้ากับปัจจุบัน สร้างภาพจำใหม่ๆ และเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมายัง Landmark ที่เป็น Iconic ของประเทศไทยแห่งนี้ด้วย
Merchandise พิเศษด้วย Local Collaboration
KAWS: HOLIDAY THAILAND ครั้งนี้ จะมีสินค้าที่ระลึกตามธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็นฟิกเกอร์, เสื้อยืด, หมอน, แก้วน้ำ และอื่นๆ แต่ความพิเศษที่ทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนใครคือการคอลแลปส์สุดเซอร์ไพรส์กับแบรนไทยๆอย่าง “ยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว” และ “ยาดมหงส์ไทย” (ดูภาพตัวอย่างในภาพ)
สินค้าที่เป็นการ Collab ครั้งประวัติศาสตร์เป็นการดีไซน์ร่วมกับสองแบรนด์ไทยที่ทุกคนคุ้นเคย และจะกลายเป็นไอเท็มสุดยูนีคที่ผสมผสานความเป็นสากลเข้ากับวัฒนธรรมป๊อปแบบไทยๆ และเชื่อว่าต้องรีบหน่อยเพราะอาจขายหมดในพริบตาเช่นกัน
พิกัดซื้อสินค้า
สำหรับสินค้า Merchandise ของ KAWS: HOLIDAY THAILAND ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 13 พฤษภาคมซื้อได้ที่
- SIWILAI Store ชั้น 2 Central Embassy เป็นจุดจำหน่ายหลักโดยจะมี ฟิกเกอร์ KAWS และมีสินค้าคอลแลปส์ “KAWS x ตะขาบ 5 ตัว” “KAWS x หงส์ไทย” และคอลเลคชั่น KAWS: HOLIDAY อื่นๆวางขายด้วย
- Pop-up Store ณ สถานที่จัดงาน KAWS: HOLIDAY THAILAND ณ สนามหลวง เริ่มเปิดจำหน่ายพร้อมกับตัวงานจัดแสดงประติมากรรม
ใครที่สนใจสามารถเดินทางไปชมงาน KAWS: HOLIDAY THAILAND ได้ที่ท้องสนามหลวงเริ่มต้นวันนี้เป็นวันแรกตั้งแต่เวลา 14.00น. โดยงานนี้สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ 7.00น.-22.00น. โดยงานจะมีไปถึงวันที่ 25 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
