YouTube อัปเกรดฟีเจอร์ A/B Testing ให้ทดสอบ ‘ชื่อคลิป’ ได้แล้ว วัดผลด้วย Watch Time

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากที่เคยสร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ A/B Testing หรือ Test and Compare สำหรับภาพปกคลิป (Thumbnail) ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด YouTube กำลังจะอัปเกรดฟีเจอร์ “Test and Compare” ให้ครอบคลุมถึงการทดสอบ ‘ชื่อคลิป’ (Title) ได้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำ Content Optimization บน YouTube ทำได้แบบไม่ต้องเดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ Data ตัดสินได้เลยว่า “ชื่อคลิป” และ “ปกคลิป” แบบไหนที่จะทำให้คลิปของเราดึงดูดสายตาและทำให้ได้ยอดวิวสูงสุดได้

ไม่ใช่แค่คลิก แต่ต้อง “ดูต่อจนจบ”

ความน่าสนใจของการอัปเดตครั้งนี้ก็คือ Metric ที่ใช้วัดผล” เพราะจากข้อมูลที่ Todd Sherman, Head of Product ของ YouTube บอกเอาไว้ก็คือ การทดสอบชื่อคลิปจะไม่ได้วัดผลแค่ Click-Through Rate (CTR) หรืออัตราการคลิกเท่านั้น แต่จะให้ความสำคัญกับ “Watch Time” หรือระยะเวลาการรับชมเป็นหลัก

หมายความว่า เป้าหมายไม่ใช่การตั้งชื่อให้คน “คลิก” เยอะที่สุด แต่คือการตั้งชื่อที่ดึงดูดมองหา “คนที่ใช่” ให้คลิกเข้ามาดู และ “ดูต่อ” จนเกิดเป็น Watch Time แบบที่มีคุณภาพ

กลยุทธ์นี้จะช่วยลดปัญหาชื่อคลิปแบบ Clickbait ที่หลอกให้คนกดเข้ามา แต่เนื้อหาไม่ตรงปกจนคนรีบปิดหนี ซึ่งส่งผลเสียต่อช่องของเราในระยะยาว นอกจากนี้การวัดผลด้วย Watch Time ยังทำให้ครีเอเตอร์เรียนรู้ที่จะตั้งชื่อที่สื่อสารกับผู้ชมได้ตรงจุดและสร้างความคาดหวังที่ถูกต้อง นำไปสู่ Audience Retention ที่ดีขึ้น และเป็นการส่งสัญญาณบวกให้ Algorithm ของ YouTube ด้วย

วิธีใช้เหมือน Test and Compare Thumbnail

ฟีเจอร์ “Test and Compare” ที่อัพเดทใหม่เป็นส่วนต่อขยายของฟีเจอร์เดิม โดยการทดสอบชื่อคลิปจะอยู่ในฟังก์ชัน “Test and Compare” ตัวเดียวกับการทดสอบ Thumbnail ที่เคยปล่อยให้ได้ลองใช้กันมาก่อนหน้านี้โดยวิธีใช้คร่าวๆก็ตามนี้

  • ลงชื่อเข้าใช้ YouTube Studio บนคอมพิวเตอร์
  • ไปที่หน้า Content แล้วเลือกวิดีโอที่ต้องการทดสอบ (ได้ทั้งวิดีโอใหม่และวิดีโอเก่า)
  • ในหน้าแก้ไขวิดีโอ (Video details) มองหาช่องสำหรับใส่ ชื่อคลิป (Title)
  • จะเห็นปุ่ม ‘Test and compare’ อยู่ใกล้ๆ กับช่องใส่ชื่อคลิป ให้คลิกที่ปุ่มนั้น
  • ใส่ชื่อคลิปเวอร์ชันต่างๆ ที่คุณต้องการทดสอบลงไป (คาดว่าจะทดสอบได้สูงสุด 3 ชื่อ)
  • เมื่อใส่ครบแล้วให้กด DONE และ Publish วิดีโอ (หรือ Save สำหรับวิดีโอเก่า) ระบบจะเริ่มทำการทดสอบโดยอัตโนมัติ
  • จากนั้นก็รอให้ระบบเก็บข้อมูลและ Report ในอีกไม่กี่วัน/สัปดาห์ ว่าชื่อคลิปไหนทำ Watch Time ได้ดีที่สุด!

YouTube ระบุว่า “YouTube จะแสดงภาพปกคลิปที่คุณเลือกให้กับผู้ชมวิดีโอของคุณอย่างเท่าเทียมกัน และจะเลือกภาพปกที่ชนะโดยพิจารณาจากภาพที่สร้าง ‘สัดส่วนเวลาการรับชม (Watch time share)’ ได้สูงสุด”

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้จะ “เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” และตั้งเป้าจะเปิดให้ครีเอเตอร์ทุกคนได้ใช้กันแบบทั่วถึงภายในปีหน้านี้

การขยับตัวของ YouTube ครั้งนี้ชัดเจนมาก ตั้งแต่การทำ A/B Test ภาพปกมาจนถึง A/B Test ชื่อคลิป (Title) ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า YouTube พยายามจะผลักดันให้ครีเอเตอร์ใช้ Data มาช่วยในการตัดสินใจเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมากยิ่งขึ้น และนี่ก็คือการตัดสินใจแบบ Data Driven ที่นักการตลาดรู้จักกันดี

สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ นี่คือสัญญาณว่าการแข่งขันบน YouTube จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น การมีแค่คอนเทนต์ที่ดีอาจไม่พอ แต่ต้องมีวิธีการดึงคนที่ผ่านการคิดและทดลองมาอย่างดีเพื่อดึงดูดผู้ชมที่ใช่ให้เข้ามาดูและอยู่กับเราให้นานที่สุด 

ที่มา Social Media Today


  •  
  •  
  •  
  •  
  •