โฆษณากับมุมมองของผู้บริโภค

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

advertising6เมื่อโฆษณาก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผู้บริโภคยุคปัจจุบันโดยมิอาจหลีกหนีได้ มาดูกันว่าพวกเขารู้สึกและมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจากภาพยนตร์โฆษณาหรือ tvc ในปี 2551 ที่ผ่านมา จากผลสำรวจของนาโนเซิร์ซในหัวข้อที่ชื่อว่า “ผู้บริโภคชอบดูโฆษณา?”

กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นเพศชาย 40.5% และเพศหญิง 59.5% สัดส่วนอายุของกลุ่มตัวอย่าง อยู่ในช่วงอายุ 18-25 ปี 30% ช่วงอายุ 26-35 ปี 33.5% และ ช่วงอายุมากกว่า 35 ปี 36.5% สำหรับรายได้ของกลุ่มตัวอย่าง อยู่ในช่วงรายได้มากกว่า 20,000 บาท 48% ช่วงรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท 29.5% และ ช่วงรายได้ 10,000 – 20,000 บาท 22.5% ตามลำดับ ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปริญญาตรี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนและกลุ่มนักศึกษา

โฆษณา ของแสลงของคนดู?

ปี 2551 ที่ผ่านมามี TVC ออกอากาศมากมาย และมีถึง 48% ของกลุ่มตัวอย่างที่รู้สึกไม่ชอบภาพยนตร์โฆษณา ขณะที่อีก 37% บอกว่าชอบภาพยนตร์โฆษณา

ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อการชมภาพยนตร์

  • ไม่ชอบ 48%
  • ชอบ 37%
  • เฉยๆ 15%

 

ขึ้นชื่อว่าโฆษณา ความคิดสร้างสรรค์ขาดไม่ได้

ผู้บริโภคได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบที่สำคัญของชิ้นงานโฆษณานั้นพบว่า สิ่งที่ผู้บริโภคเห็นว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญคือ ความคิดสร้างสรรค์ของภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดโดยให้น้ำหนัก48% ด้านเนื้อหาของภาพยนตร์โฆษณา คิดเป็น 33.5% และการสื่อสารข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าถึงผู้บริโภค หรือ Product Information 9% ตามลำดับ ขณะที่ให้ความสำคัญกับเทคนิคในการถ่ายทำเพียง 1.5% และมี 6% ที่ให้ความสำคัญกับดาราที่ใช้ในโฆษณา

นั่นหมายความว่าผู้บริโภคชอบดูโฆษณาที่มีไอเดียบรรเจิดมากกว่าจะมีฉากหรือเทคนิคตระการตา ไอเดียดับต่อให้โปรดักชั่นหรูหราก็ไม่เกิด

 

องค์ประกอบสำคัญของโฆษณาในความคิดเห็นของผู้บริโภค

  • ฉาก 0.5%
  • ระยะเวลาของเรื่องนั้นๆ 1.5%
  • เทคนิคในการถ่ายทำ 1.5%
  • นักแสดง-ดาราที่นำมาแสดงในโฆษณา 6.0%
  • ข้อมูลข่าวสารที่จะสื่อถึงผู้บริโภค 9.0%
  • เนื้อหาของโฆษณา 33.5%
  • ความคิดสร้างสรรค์ 48%

 

ปี 2551 โฆษณาน้ำดี

หากให้ผู้บริโภคมองในเรื่องของคุณภาพของผลงานโฆษณานั้น พบว่าผู้บริโภคเห็นว่าผลงานโฆษณาในปี 2551มีคุณภาพ 78% โดยให้เหตุผลของการสนับสนุนงานโฆษณาที่เห็นว่าคุณภาพ เนื่องจากผู้บริโภคเห็นว่า ผลงานโฆษณามีเนื้อหาดีและมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี คิดเป็นร32.5% ลำดับต่อมาคือ ชิ้นงานโฆษณาให้ข้อคิดมีเนื้อหาสาระที่ดี 16.6% และโฆษณานั้นมีประโยชน์เพราะทรอดแทรกความรู้เพิ่มไปด้วย 13.4% สำหรับผู้บริโภคที่เห็นว่าชิ้นงานโฆษณาที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่มีคุณภาพ เพราะเห็นว่ายังไม่มีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างงานโฆษณา และ เห็นว่าทำงานโฆษณาออกมาแล้วไม่เข้าใจดูไม่รู้เรื่อง

ซึ่งเป็นประโยชน์ให้เอเยนซี่โฆษณานำไปทบทวนและปรับปรุงผลงานให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น

คุณภาพของงานโฆษณาในสายตาผูบริโภค

  • ไม่มีคุณภาพ 22%
  • มีคุณภาพ 78%

เหตุผลการสนับสนุนผลงานโฆษณามีคุณภาพ

  • มีเนื้อหาดีและมีความคิดสร้างสรรค์ดี 32.5%
  • ให้ข้อคิดที่มีเนื้อหาสาระที่ดี 16.6%
  • ทุกโฆษณานั้นมีประโยชน์เพราะสอดแทรกความรู้เพิ่มไปด้วย 13.4%
  • โฆษณาบางชนิดช่วยสะท้อนความคิดของคนมากขึ้น 8.9%
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและทราบจุดประสงค์ของสินค้ามา 8.3%
  • โฆษณาสามารถทำให้คนดูเกิดแรงบัลดาลใจ 7.6%
  • สามารถเรียกกระแสความนิยมของคนชมได้เพราะโฆษณามีคุณภาพ 5.1%
  • โฆษณาบางตัวทำออกมาสะท้อนภาพสังคมอย่างชัดเจน 4.5%
  • ดูแล้วไม่เครียด 2.5%

 

“ไทยประกันชีวิต” ที่สุดแห่งความประทับใจ

งานโฆษณาที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุดจากการสำรวจครั้งนี้คือ งานโฆษณาของบริษัท “ไทยประกันชีวิต” นำโด่งด้วยสัดส่วน 44% ลำดับต่อมาคือ งานโฆษณาของบริษัท “AIS” 6% และ โฆษณาของ “HAPPY DTAC” 4%

เป็นที่น่าสังเกตว่า tvc ทั้ง 3 ชุด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Emotional และมี tvc ของเครื่องดืมแอลกอฮอล์ติดอันดับ top 10 ถึง 2 ชิ้นด้วยกัน

ชิ้นงานโฆษณาในปี 2551 ที่ผู้บริโภคชื่นชอบ

  • กระดาษไอเดีย 2%
  • ฮอลล์ 2%
  • พอนด์ 2%
  • 100 pipers 2.5%
  • รีเจนซี่ 2.5%
  • Smoot E 3%
  • จอห์นนี่วอล์กเกอร์ 3.5%
  • Happy Dtac 4%
  • AIS 6%
  • ไทยประกันชีวิต 44%

 

เคน-แอ๊ฟ คู่ขวัญพรีเซนเตอร์

สำหรับดารา-นักแสดง – นักร้อง ที่ผู้บริโภคต้องการให้มาเล่นภาพยนตร์โฆษณาจำนวน 10 ลำดับ ดังนี้ จำแนกชายและหญิงในแต่ละลำดับ ซึ่งผลสำรวจปรากฎว่า เคน ธีระเดช และแอ๊ฟ ทักษอร 2 พระนางจากช่อง 3 กลายเป็นขวัญใจอันดับ 1 ของกลุ่มตัวอย่าง
ทั้งนี้ในจำนวน 10 อันดับของแต่ละฝ่ายชายหญิงพบว่ามีโน็ต อุดมและโอปอล์ ซึ่งมีคาแรกเตอร์ตลก ขำขัน ติดโผเข้ามาด้วยนอกเหนือจากพระเอกนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิง

ฝ่ายชาย % ฝ่ายหญิง

  • เคน ธีรเดช 18%
  • แอ็ฟ ทักษอร 13.5%
  • โดม ปกรณ์ ลัม 4%
  • แพนเค้ก เขมนิจ 8.5%
  • ปอ ทฤษฎี 3%
  • แอน ทองประสม 7.5%
  • วิลลี่ แมคอินทอช 3%
  • อั้ม พัชราภา 5%
  • เวียร์ ศุกลวัฒน์ 2.5%
  • หมิว ลลิตา 3.5%
  • ตูน บอดี้สแลม 2.5%
  • กบ สุวนันท์ 3%
  • ฟิล์ม รัฐภูมิ 2.5%
  • นก สินจัย 2.5%
  • พอล ภัทรพล 2.5%
  • พอลล่า เทเลอร์ 2.5%
  • โน๊ต อุดม 2.5%
  • พลอย เฌอมาลย์ 2.5%
  • อั้ม อธิชาติ 2.0%
  • หยาดทิพย์ ราชปาล 2%
  • หนุ่ม ศรราม 2%
  • ปาณิสรา (โอปอล์) 2%
  • มาริโอ้ เมาเรอ 2%
  • เป้ย ปานวาด 2%

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต้องสื่อสารให้รู้เรื่อง

  • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 13.5%
  • อาหารเพื่อสุขภาพ 8.5%
  • เครื่องสำอาง 7%
  • ยา 5.5%
  • การรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน 5.5%
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ 4%
  • อาหารกระป๋อง 4%
  • โลชั่นทาผิว/บำรุงผิว 4%
  • การท่องเที่ยวไทย 4%
  • ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 3.5%
  • โน๊ตบุ๊ค 3.5%

 

สื่อทีวียังไงก็ได้ใจ

เนื่องจากชีวิตของผู้บริโภคทุกวันนี้มีสื่อหลากหลายประเภทเข้ามาปะทะ จากผลสำรวจพบว่าสื่อที่ผู้บริโภคเห็นว่าน่าสนใจมากที่สุดคือ สื่อหลักที่ยังคงทรงอิทธิพลอยู่อย่าง โทรทัศน์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.75 ลำดับต่อมาคือ สื่ออินเตอร์เน็ต ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.56 และ สื่อหนังสือพิมพ์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.53

สื่อ/Mean (ค่าเฉลี่ยระดับความน่าสนใจของสื่อ/Std. Deviation)

  • โทรทัศน์ 4.75%, 0.6%
  • วิทยุ 3.05%, 1.06%
  • หนังสือพิมพ์ 3.53%, 0.97%
  • นิตยสาร / วารสาร 3.11%, 1.01%
  • อินเตอร์เน็ต 3.56%, 1.21%
  • สื่อเคลื่อนที่ 2.58%, 1.06%
  • สื่อกลางแจ้ง 2.57%, 1.15%

(คะแนนเต็ม 5 คะแนน)

Source: Positioning Magazine โดย อรรถสิทธิ์ เหมือนมาตย์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •