หนึ่งในไฮไลต์ของงาน Techsauce Global Summit 2025 คือการปรากฏตัวของ Sigve Brekke — Executive Chair ของ CP Telecom and Digital Group และ Group CEO ของ True Corporation ในบทสนทนาแบบเจาะลึกบนเวทีใหญ่ร่วมกับคุณธนา เธียรอัจฉริยะ Chairman แห่ง Bluebik Group ผู้ที่เคยร่วมงานใกล้ชิดกับเขามาแล้ว
การสนทนาในหัวข้อ “Shaping Thailand’s Competitive Digital Future” กลายเป็นมากกว่าการพูดเรื่องเทคโนโลยี เพราะมันได้เปิดให้ผู้ชมมองเห็น “ด้านใน” ของผู้นำระดับโลกคนหนึ่ง ที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงขององค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลงตนเอง การเรียนรู้จากความผิดพลาด และบทบาทของเทคโนโลยีในอนาคตของประเทศไทย
Leadership Begins Within: เปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนจะเปลี่ยนองค์กร
สิ่งแรกที่ Sigve หยิบมาเล่า ไม่ใช่กรณีศึกษาทางธุรกิจ แต่คือเรื่องการ “Ice Bath” หรืออาบน้ำเย็น 0 องศา ทุกเช้า
ในมุมของเขา การแช่น้ำเย็นเป็น “บทฝึกจิตใจ” ที่สะท้อนว่า ถ้าเรากล้ารับมือกับสิ่งที่ร่างกายและสมองบอกว่า “อย่าทำ” ตั้งแต่เช้า เราก็พร้อมจะรับมือกับเรื่องหนักๆ ตลอดวัน
นอกจากเป็นพฤติกรรมเชิงสุขภาพ ยังเป็นนิยามใหม่ของ “ผู้นำ” ที่ไม่ได้เริ่มจากการควบคุมคนอื่น แต่เริ่มจากการฝึกควบคุมตัวเอง ฝึกความกล้า ฝึกความไม่ยอมจำนน และฝึกอยู่กับความไม่สบายใจโดยไม่ถอยหนี
จากครูชาวนา สู่นักการเมือง และผู้นำระดับโลก
ก่อนจะเป็น CEO ขององค์กรโทรคมนาคมระดับโลก Sigve เคยเป็นทั้งครู ชาวนา และนักการเมืองในนอร์เวย์
“การเป็นชาวนาทำให้ผมได้เปื้อนมือจริงๆ” เขากล่าวพร้อมย้ำว่า ความเข้าใจธุรกิจไม่ได้เกิดจากการนั่งอยู่บนยอดพีระมิด แต่ต้องลงพื้นที่ ไปเจอลูกค้า ไปฟังพนักงาน ไปสัมผัสความจริงด้วยตนเอง
อีกบทเรียนจากโลกการเมืองคือเรื่องของ “ความไว้ใจ” เขาบอกว่า “ในธุรกิจ คุณอาจซื้อใจคนด้วยเงินหรือโบนัสได้ แต่ในการเมือง คุณต้องชนะใจคนด้วยความจริงใจ” และนั่นคือสิ่งที่เขานำมาปรับใช้ในโลกธุรกิจ นั่นคือการสื่อสารกับหัวใจของคน ไม่ใช่แค่กับเหตุผลในสมอง
Tight-Loose-Tight: สูตรลับการบริหารคน
Sigve แบ่งปันแนวคิดการบริหารที่เขายึดถือมาตลอดภายใต้ชื่อ “Tight-Loose-Tight” ซึ่งมีความหมายตรงไปตรงมา
- Tight แรก: ผู้นำต้องชัดเจนในเป้าหมาย กลยุทธ์ และภาพใหญ่
- Loose: ปล่อยให้ทีมคิดเอง ลงมือเอง สร้างวิธีของตัวเอง
- Tight สุดท้าย: มีระบบติดตามผล ตรวจสอบความคืบหน้า และสะท้อนกลับอย่างจริงจัง
เขาเตือนว่า องค์กรจำนวนมากล้มเหลวเพราะเข้มงวดทุกจุด หรือไม่ชัดเจนเสียทั้งหมด แต่ผู้นำที่ดีต้องรู้จังหวะว่าจะจับตาเมื่อไหร่ และจะปล่อยมือเมื่อไหร่
The Uncomfortable Zone is Where Growth Lives
สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่คาดคิด คือมุมมองของ Sigve ที่มอง “วันที่ผิดพลาด” ว่าเป็น “วันที่ดี”
เขาเล่าว่า ถ้าวันไหนทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่มีปัญหา ไม่มีคำถาม วันนั้นกลับไม่ใช่วันที่เขารู้สึกว่าตัวเองเติบโต
“ถ้าเรารู้สึกสบายเกินไป แปลว่าเราอาจหยุดพัฒนาโดยไม่รู้ตัว” เขาเสริม
ความไม่แน่นอน ความกลัว และความไม่รู้ คือพื้นที่ที่ทำให้มนุษย์ได้เรียนรู้ และกลายเป็นผู้นำที่เก่งขึ้นได้ในทุกวัน
AI & Disruption: เมื่ออนาคตมาถึงเร็วกว่าที่เคย
เมื่อถูกถามว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้นำควร “วิตก” ที่สุดในยุคนี้ Sigve ตอบทันทีว่า “ความเร็วของเทคโนโลยี”
เขาเปรียบเทียบว่า AI ใช้เวลาเพียง 5 เดือนหลังเปิดตัว GPT ก็มีผู้ใช้งานทะลุหลักล้าน เทียบกับวิทยุ โทรทัศน์ หรือโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้เวลากว่า 30 ปีกว่าจะกลายเป็นเทคโนโลยีสาธารณะ
และเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ ธุรกิจที่เคยมั่นคงก็อาจถูกล้มได้ง่ายกว่าที่คิด “Nokia, Kodak เคยเป็นกรณีศึกษา วันนี้อาจเร็วกว่าและแรงกว่าเดิมหลายเท่า” เขาย้ำ
Mission True, Mission Thailand: ภารกิจของทรูในยุคถัดไป
สำหรับบทบาทปัจจุบันของเขาในฐานะ CEO ของ True Corporation Sigve มองว่าธุรกิจโทรคมนาคมกำลังเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง
จากเดิมที่ทรูเป็นผู้ให้บริการสื่อสาร เขาอยากเห็นองค์กรนี้กลายเป็น “บริษัทเทคโนโลยี” อย่างแท้จริง โดยให้บริการดิจิทัลที่หลากหลาย และเชื่อมโยงกับผู้คนมากกว่าแค่สัญญาณอินเทอร์เน็ต
ทรูจึงเริ่มลงทุนใน AI และระบบ “No Touch Operation” ที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยดูแลลูกค้าแบบอัตโนมัติ สะท้อนความตั้งใจขององค์กรที่กำลังยกเครื่องตัวเองเพื่อพร้อมสำหรับอนาคต
Love What You Do: คำแนะนำจากใจถึงคนรุ่นใหม่
ตอนท้ายของเวที Sigve ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำตรงไปตรงมาสำหรับคนรุ่นใหม่
“คุณต้องรักในสิ่งที่ทำ ถ้าไม่รัก ก็เดินต่อไป อย่าอยู่กับงานที่ไม่มีความหมายกับชีวิตคุณ”
เขาย้ำว่า นี่ไม่ใช่เรื่อง work-life balance แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีเป้าหมาย และมีแรงผลักดันจากภายใน
และที่สำคัญ คืออย่าวางแผนชีวิตแบบล็อกไว้ทุกขั้น เพราะคุณอาจพลาดโอกาสที่โผล่มาต่อหน้าโดยไม่ทันตั้งตัว
The Small Things Matter: ผู้นำที่คิดใหญ่และลงรายละเอียด
Sigve แชร์เรื่องราวเล็กๆ จากบทสนทนานอกเวที ว่าเขาเคยรู้สึกประทับใจเจ้าของ 7-Eleven ในจีน เพราะแม้จะมองภาพอนาคตใหญ่ระดับโลก แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับรายละเอียดพื้นฐานที่สุด อย่างความสะอาดของพื้นร้าน หรือความเป็นระเบียบของพนักงาน
เขาบอกว่า “แบรนด์ที่แข็งแรงไม่ได้สร้างจากโฆษณา แต่เกิดจากสิ่งเล็กๆ ที่ลูกค้าเจอในชีวิตจริง”
นั่นคือบทเรียนสำคัญของการตลาดในยุคนี้
Conclusion: ผู้นำแห่งอนาคตต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต
คำถามสุดท้ายของเวทีคือ “คุณทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ในวัยที่ควรเกษียณ?”
Sigve ตอบอย่างหนักแน่นว่า อายุไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญคือ “แรงขับภายใน” ที่ทำให้เขายังอยากเติบโต เรียนรู้ และสร้างการเปลี่ยนแปลง
“ชีวิตที่ไม่มีการเติบโต คือชีวิตที่น่าเป็นห่วงที่สุด”
และนี่คือหัวใจของการเป็นผู้นำในยุคอนาคต คนที่พร้อมเปิดรับความไม่แน่นอน ใช้ความเปราะบางเป็นพลัง และมุ่งมั่นจะเติบโตไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ