โครงการ Cartier Women’s Initiative (CWI) กำลังจะก้าวเข้าสู่มิติใหม่ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับบทบาทของผู้ประกอบการหญิงให้เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ คุณวินจี ซิน (Wingee Sin) ผู้อำนวยการโครงการ Cartier Women’s Initiative ระดับโลก จะมาแบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ CWI 2026 ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการหญิงทั่วโลก เพื่อให้พวกเธอสามารถรับมือกับประเด็นทางสังคมที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทสัมภาษณ์นี้จะเจาะลึกถึงแนวคิดเบื้องหลังการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการหญิง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมวงกว้างด้วย
ความท้าทายของผู้ประกอบการหญิงในอาเซียน
คุณวินจี แสดงวิสัยทัศน์ถึงความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ประกอบการหญิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอมองว่า ปัจจัยทางภูมิศาสตร์มีความสำคัญอย่างมาก เมื่อเราพิจารณาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราได้รับใบสมัครจำนวนมากจากประเทศอินเดีย ซึ่งอินเดียถือเป็นระบบนิเวศการประกอบการเพื่อผลกระทบทางสังคมที่พิเศษมาก และพัฒนาแล้วทั้งในด้านการระดมทุนและโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการ รวมถึงฐานผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง เนื่องจากความหนาแน่นของประชากรและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาต้องการสร้าง พวกเขาจึงสามารถขยายขนาดได้มากในระดับท้องถิ่น สำหรับประเทศสิงคโปร์ มีการสนับสนุนทางการเงินและการสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวนมาก มีโครงการต่างๆ มากมาย ส่งผลให้แนวคิดการสร้างธุรกิจผู้ประกอบการเพื่อผลกระทบในสิงคโปร์เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับหลายๆ คน
ขณะที่ในประเทศไทย สิ่งที่เราพบคือในอดีตเราเคยมีมอบรางวัลนี้ให้กับบุคคลจากประเทศไทยเพียงหนึ่งคน (ได้แก่ คุณสาลินี ถาวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซันสว่าง ได้รับรางวัล CWI ปี 2014) และเรารู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้ แต่เราก็ได้ศึกษามาหลายปีแล้วเพื่อพยายามทำความเข้าใจว่าในบางประเทศ ทำไมเราถึงได้รับใบสมัครน้อย คำตอบไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดว่าแค่ไม่มีใบสมัครมาก เราควรไปหาผู้ประกอบการเพิ่ม จริงๆ แล้วมันซับซ้อนกว่านั้น ดังนั้น สำหรับประเทศไทย เมื่อเราดูว่ามีหน่วยงานกำกับดูแลองค์กรสังคมที่ก่อตั้งขึ้น และมีผู้ประกอบการไทยจำนวนมากที่ทำงานที่มีความหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ทาง CWI พบกับความท้าทายว่า ผู้ประกอบการไทย เข้ามาร่วมโครงการค่อนข้างน้อย ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน อย่างการรับรู้ เช่นพวกเขาทราบหรือไม่ว่าเราสร้างโครงการดังกล่าว “ต้องยอมรับว่าโครงการของเราเป็นระดับนานาชาติและใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด หากคุณเป็นผู้ประกอบการและคุณเก่งภาษาท้องถิ่นมากกว่า และธุรกิจของคุณตั้งอยู่บนชุมชนของคุณเป็นหลัก โครงการของเราอาจไม่อยู่ในความสนใจหรือเกี่ยวข้องกับคุณ ดังนั้น เราจึงหวังที่จะสร้างความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับความพร้อมของโครงการในฐานะทรัพยากรสำหรับผู้ประกอบการ และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการคิดว่า สิ่งที่ฉันทำในท้องถิ่นเพื่อชุมชนของฉันอาจมีโอกาสเติบโตให้ใหญ่ขึ้นและสร้างผลกระทบที่มากขึ้นนอกเหนือจากชุมชนและภูมิภาคของฉัน”
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการสร้างการรับรู้ถึงตัวโครงการ ทาง ทีม Cartier ประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาสำคัญของไทย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุนโครงการผู้ประกอบการ Cartier Women’s Initiative ที่ในปีนี้ได้สนับสนุนผู้ประกอบการมากว่า 50 คน หลายคนในจำนวนนี้ได้รับโอกาสรับการสนับสนุนที่มากขึ้นสำหรับธุรกิจของพวกเขา เนื่องจากโครงการนั้นดำเนินการเป็นภาษาไทยทั้งหมดและปรับให้เข้ากับท้องถิ่น พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้น เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งปีนี้และในอนาคตจะได้รับความร่วมมือที่มากขึ้นจากผู้ประกอบการหญิงของไทย
บทบาทของผู้ประกอบการหญิงกับเทคโนโลยี AI
เมื่อถามถึงการให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการหญิงไทย ในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่และนวัตกรรม AI ที่เข้ามา คุณวินจี ซิน กล่าวว่า ผู้ประกบอการหญิงหลายคน ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจของพวกเขา ภายใต้ Cartier Women’s Initiative หลายธุรกิจใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ในส่วนนี้หลายคนกำลังอยู่ในการหารือเพื่อหาทางใช้ AI ในกระบวนการทางธุรกิจของพวกเขา หรือเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และบริการที่พวกเขานำเสนอ
ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการฯ และชุมชนของเรา เรากำลังพยายามสนับสนุนผู้ประกอบการหลายท่านด้วยทักษะเหล่านี้หลายๆ อย่าง ในโครงการของเราเอง เรามีโครงการร่วมกับสถาบัน INSEAD Business School ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่เราจะรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับ AI เข้าไปด้วย โดยเฉพาะในการสร้างผลกระทบทางธุรกิจ นอกจากนี้ ในชุมชนของเรายังมีผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หลายคน Cartier Women’s Initiative ประกอบด้วยผู้คน 500 คนที่สนับสนุนการประกอบการเพื่อผลกระทบของผู้หญิง ผู้สนับสนุนเหล่านี้ใจกว้างในการเสนอทักษะและความเชี่ยวชาญให้กับชุมชน เราได้จัดเซสชันการเรียนรู้แบบเกี่ยวกับ AI และอนาคตของ AI บทบาทของผู้หญิงใน AI และวิธีการรวม AI เข้าไปในแง่มุมต่างๆ ของธุรกิจ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเราอยู่ที่โอซาก้าสำหรับการจัดงานครั้งล่าสุด ในระหว่างเวิร์กช็อปในสัปดาห์รางวัล เรายังมีเซสชัน AI หลายครั้งที่จัดโดยสมาชิกในชุมชน
“เราหวังว่าการแบ่งปันความรู้และเครือข่ายในลักษณะนี้ที่เรากำลังสร้างภายใน Cartier Women’s Initiative จะสนับสนุนผู้ประกอบการแต่ละคนในการเดินทางของพวกเขา และนั่นคือเหตุผลที่เรามี Cartier Women’s Initiative เพราะเรารู้สึกว่าผู้หญิงมีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญน้อยกว่า และเราหวังว่าภายใน Cartier Women’s Initiative พวกเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญเหล่านี้ได้หากไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะมันสำคัญมากสำหรับอนาคต”
‘Science and Technology Pioneer’ กลุ่มสตรีแกร่งที่โลกยังขาดแคลน
เมื่อถามว่าอุตสาหกรรมใดที่ยังขาดแคลนในชุมชน CWI สิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับโครงการนี้คือ ไม่เพียงแต่ใน Cartier Women’s Initiative เท่านั้น แต่เมื่อมองไปที่ผู้สมัครที่สมัครเข้ามา เราเห็นว่าผู้หญิงมีความกระตือรือร้นในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ทุกข้อมีบางข้อที่ผู้หญิงให้ความสำคัญมากกว่า เช่น การศึกษาและสาธารณสุข เหล่านี้เป็นเป้าหมาย SDG สองข้อที่ใกล้ชิดกับใจของผู้หญิงที่สุด หากจะกล่าวในแง่ของการประกอบการเพื่อผลกระทบ แต่สำหรับเป้าหมายอื่นๆ ก็มีตัวแทนเสมอ
เพราะฉะนั้นแล้ว หากถามเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ผู้หญิงยังขาดแคลน คิดว่าเป็นหมวดหมู่เกี่ยวกับ “Science and Technology Pioneer” ซึ่งเป็นหมวดหมู่เฉพาะทางที่เป็นระดับโลก สนับสนุนผู้ประกอบการหญิงที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) และใช้ประโยชน์จาก Deep Tech เพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
Deep Tech สำหรับผู้หญิงเป็นหมวดหมู่หนึ่งที่ได้รับเงินทุนน้อยกว่าธุรกิจแบบดั้งเดิม แต่นี่เป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุดของเรา สำหรับเรา มันบอกเราว่าเราสร้างหมวดหมู่นี้ขึ้นเพราะเราต้องการสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์หญิงที่กำลังสร้างนวัตกรรม และวิศวกรหญิงที่กำลังสร้างนวัตกรรม
“บ่อยครั้งในสื่อทั่วไปหรือในสายตาสาธารณชน คุณอาจคิดว่าไม่มีผู้หญิงใน Deep Tech มากนัก และนั่นคือเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้รับการเป็นตัวแทน แต่ไม่ใช่ พวกเขามีอยู่จริง และพวกเขาดำเนินธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองจริงๆ ที่สร้างโซลูชันที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม”
โครงการ Cartier Women’s Initiative 2026 โอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการหญิง
Cartier Women’s Initiative ประกาศเปิดรับสมัครสำหรับโครงการประจำปี 2026 ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โดยโครงการจะเริ่มเปิดรับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) และจะปิดรับสมัครในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ความพิเศษของโครงการในปี 2026 นี้ มีความครอบคลุมและหลากหลาย ด้วยการมอบ 9 รางวัลระดับภูมิภาค ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วโลก ได้แก่ ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน, อเมริกาเหนือ, ยุโรป, แอฟริกาใต้สะฮารา (ฝรั่งเศส), แอฟริกา (อังกฤษและโปรตุเกส), ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ, เอเชียตะวันออก, เอเชียใต้และเอเชียกลาง, และโอเชียเนีย นอกจากนี้ ยังมี รางวัลบุกเบิกด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science & Technology Pioneer Award) เพื่อเชิดชูผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในด้านนวัตกรรม
Cartier Women’s Initiative จะคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 30 ท่าน ซึ่งเป็นตัวแทนของ 3 ธุรกิจยอดเยี่ยมจากแต่ละ 10 รางวัล ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับโอกาสอันล้ำค่าในการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน สังคม และทรัพยากรบุคคล เพื่อช่วยในการขยายธุรกิจและเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ผู้ประกอบการสตรีผู้มีวิสัยทัศน์ทั้ง 30 ท่านนี้ จะได้รับการประกาศผลอย่างเป็นทางการในปี 2026 และจะมีการจัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Cartier Women’s Initiative Awards Ceremony ขึ้นที่ ประเทศไทย ในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทและความสำคัญของผู้หญิงในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน
Cartier Women’s Initiative: โครงการบุกเบิกและขับเคลื่อนสังคม
Cartier Women’s Initiative เป็นโครงการระดับโลกที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของผู้หญิงในมุมมองของ Cartier มาโดยตลอด Cartier เป็นหนึ่งใน Maison หรูหรากลุ่มแรกๆ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
จุดเริ่มต้นของ Cartier คือการมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้หญิงดึงศักยภาพสูงสุดออกมา สร้างสรรค์สังคมที่ครอบคลุม และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงนี้หยั่งรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของ Maison ซึ่งเน้นย้ำถึงจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกที่ไม่เหมือนใครของ Cartier
ทุกวันนี้ โครงการ CWI ยังคงเป็นโครงการบุกเบิกด้วยแนวทางแบบองค์รวมและระดับโลก นอกเหนือจากพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติแล้ว โครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยการสนับสนุนผู้ร่วมโครงการอย่างแข็งแกร่งและชุมชนที่มีชีวิตชีวา ทำให้เป็นโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบ
ผลลัพธ์แห่งการสร้างสรรค์
ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา Cartier Women’s Initiative ได้พัฒนาไปสู่โครงการพัฒนาความเป็นผู้นำแบบองค์รวมที่ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่สร้างผลกระทบ 330 ท่าน จาก 66 ประเทศ
นับตั้งแต่ก่อตั้ง โครงการ CWI ได้มอบเงินสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 12,223,000 ดอลลาร์สหรัฐ แก่ธุรกิจที่สร้างผลกระทบของผู้ร่วมโครงการ
โครงการนี้ได้สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งของสมาชิกชุมชนกว่า 500 ราย ครอบคลุมเกือบ 80 ประเทศ CWI มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจของผู้ร่วมโครงการให้เติบโต: 64% ของธุรกิจที่สร้างผลกระทบทั้งหมดของผู้ร่วมโครงการยังคงดำเนินงานอยู่ และ 5% ถูกควบรวมหรือซื้อกิจการ¹ จากการสำรวจผลกระทบในปี 2024 พบว่า 83% ของผู้ร่วมโครงการล่าสุด² มีรายได้เพิ่มขึ้น, 76% ระดมทุนเพิ่มเติมได้ และ 71% เข้าสู่ตลาดใหม่ๆ หลังจากสำเร็จโครงการ
เมื่อสิ้นสุดโครงการ ผู้ร่วมโครงการประจำปี 2023 100% รายงานว่ามีความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น, 86% รายงานว่าทักษะทางธุรกิจดีขึ้น, และ 82% รายงานว่าทักษะความเป็นผู้นำแข็งแกร่งขึ้น ผู้เข้าร่วมกว่าสามในสี่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างโครงการ และ 73% รายงานว่าได้รับเครือข่ายที่เป็นประโยชน์ 10 รายการขึ้นไป
